ใส่เป็นชุดนายกฯจัดหนัก"ปู-แม้ว"สองพี่น้องนักโทษหนีคดีหน้าไม่อาย ทำผิดกฎหมายแล้วยังกล้าโชว์ตัวต่างประเทศอีก แต่ยอมรับเมื่อตปท.ไม่ยอมส่งตัวกลับมาให้ก็ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่ผบ.ทบ.ยันไม่ให้ราคา ขอดูงานมั่นคงในประเทศดีกว่า ส่วน"หมวดเจี๊ยบ"โดดป้องนายใหญ่ฉะบิ๊กตู่ทำเรื่องน่าอับอายชาวโลกมากกว่า
เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2561 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการดำเนินการตามกฏหมายหลัง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาความเคลื่อนไหวในต่างประเทศว่า "ไม่ทำอะไรหรอก"
เมื่อถามว่า ถือเป็นการเย้ยรัฐบาลหรือไม่ ว่าไม่สามารถใช้กฎหมายไทยดำเนินการอะไรได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้ถูกเย้ยอะไรเลย เพราะทางกฎหมายก็ได้ทำไปแล้ว กฎหมายไปบังคับต่างประเทศได้หรือไม่ แล้วเขาส่งตัวกลับมาหรือไม่ ถ้าต่างประเทศเขาไม่ส่งก็คือไม่ส่ง เข้าใจกันหรือไม่ พวกคุณจะเอากฎหมายในประเทศไปบังคับเขาได้อย่างไร
"ก็ได้มีการประสานไปทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีการยืนยันหรือตอบรับอะไรมา แล้วการที่อดีตนายกรัฐมนตรีเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่รัฐบาลของประเทศปลายทางเขาอนุมัติเป็นครั้งคราว ไม่ได้อนุมัติให้ตลอดไป ครั้งนี้เขาอนุมัติให้ไปซื้อหนังสือ แล้วผมจะไปรู้สึกอะไรกับเขา เขาน่าจะอายผมมากกว่า ทำผิดกฎหมายแล้วยังเอาหน้าออกไปข้างนอกอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่โรงเรียนเสนาธิการมหารบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ทาง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงไปแล้ว ในเรื่องกระบวนการต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลคืบหน้าอะไร แต่ตนยอมรับว่าเป็นปัญหาที่ยากพอสมควรในการติดตามตัวสองอดีตนายกฯ เพราะมีขั้นตอนระหว่างประเทศ ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องพยายามดำเนินการในกรอบที่สามารถทำได้
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้มีการประเมินความเคลื่อนไหวของ 2 อดีตนายกฯ แต่อย่างใด เนื่องจากอยู่นอกประเทศ เพราะตนให้ความสำคัญกับเรื่องภายในประเทศมากกว่า และไม่ได้ไปมองไกลขนาดนั้นเนื่องจากมีผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบดำเนินการอยู่ ส่วนที่ต่างประเทศให้พื้นที่ของ 2 อดีตนายกฯ เคลื่อนไหวนั้น ตนคิดว่าคงต้องไปถามต่างประเทศ ซึ่งเท่าที่ตนทราบน่าจะเป็นภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่เชิญทั้งสองคนมา ซึ่งเราก็ทำความเข้าใจในบ้านของเราไป
เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินว่านายทักษิณ กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินเกมต่อสู้อย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า "ไม่มีปัญหา และไม่ได้ประเมินอะไร ก็ให้ติดตามตัวด้านคดีความตามกระบวนการก็ว่ากันไป และผมคิดว่าไม่ได้มีอะไรสละสำคัญที่จะต้องไปตีความผมมองเรื่องภายในประเทศเป็นหลัก"
ขณะที่ ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างดุเดือด ว่า คนที่ควรจะอายต่างประเทศ ไม่น่าใช่นายทักษิณ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่คนที่ควรจะอับอายประชาคมโลกควรจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่า เพราะพูดจากลับไปกลับมาเรื่อง Roadmap เลือกตั้ง ทั้งๆ ที่เคยให้คำมั่นต่อผู้นำของประเทศต่างๆ หลายครั้ง
ร.ท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังปากอย่างใจอย่าง เพราะเป็นรัฐบาลที่ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน และปิดกั้นเสรีภาพของนในประเทศ ทั้งๆ ที่ประกาศอยู่เสมอว่าสิทธิมนุษยชนคือวาระแห่งชาติ ที่จริง พล.อ.ประยุทธ์ ควรเก็บไปคิดว่าต่างชาติมองรัฐบาลของท่านอย่างไร เขาจึงไม่ให้ความร่วมมือกับท่าน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีอำนาจอยู่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น
"ใครกันแน่ที่น่าอาย ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกยึดอำนาจ ทั้งๆ ที่มาจากการเลือกตั้ง แถมโดนคดีแบบ 2 มาตรฐานกับนักรัฐประหารที่จ้องสืบทอดอำนาจทั้งๆ ที่ไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศและไม่จริงใจในการปราบโกง พอเป็นพรรคพวกของตัวเองทำผิดกลับไม่กล้าแตะ อย่ามัวแต่ห่วงเก้าอี้นายกฯ นักเลย รีบคืนอำนาจให้ประชาชนเสียที เห็นแก่อนาคตของประเทศบ้าง เพราะขณะนี้ ประชาชนไม่กล้าใช้เงินเพราะขาดความเชื่อมั่น ทำให้เศรษฐกิจไม่คึกคัก" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี