อภิสิทธิ์แนะกกต.ทำหน้าที่ผู้รักษากม. จี้คสช.พูดให้ชัดเรื่องตั้งพรรค
15 เม.ย.61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคาดหวังต่อการทำงานของกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดใหม่ที่กำลังมีการสรรหาอยู่ในขณะนี้ ว่า ต้องทำงานหนักเพราะมีเรื่องใหญ่ๆตามกฎหมายใหม่ที่ต้องทำเยอะ คือ ต้องสะสางปัญหากฎหมายพรรคการเมืองกับคำสั่ง คสช.ที่มีปัญหาขัดแย้งในตัวเอง ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินมีการวินิจฉัยแล้วว่าสร้างความเดือดร้อนและภาระเกินความจำเป็น มีปัญหาในทางปฏิบัติมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพรรคใหม่และเก่าต้องดำเนินการหา สมาชิก ตั้งสาขาพรรคประชุมใหญ่เลือกกรรมการบริหาร ปรับข้อบังคับ ในฐานะที่ กกต.ต้องดูแลก็เป็นงานใหญ่อยู่แล้ว
นอกจากนี้กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.ก็เป็นเรื่องใหม่ หาก คสช.ยืนยันต้องมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีก ก็จะเป็นงานหนักสำหรับ กกต.ชุดใหม่ เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ก็ต้องเร่งสร้างความพร้อมรองรับกติกาใหม่ ในเวลาอันสั้น แต่ยังไม่ทราบว่ากระบวนการได้มาจะเป็นอย่างไร และจะได้ กกต.ชุดใหม่เมื่อไหร่
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นจาก กกต.ว่า เป็นปัญหาที่ คสช.ต้องสร้างความมั่นใจว่ากลไก กกต.ทำงานเป็นอิสระอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่เริ่มต้นจากการเลือกตั้งสุจริตก็เลิกพูดเรื่องปฏิรูปการเมืองและธรรมาภิบาลได้เลย ซึ่งจะเป็นปัญหามากขึ้นถ้า คสช.เข้ามาเป็นผู้เล่น ไม่ได้เป็นแค่กรรมการ จึงต้องมีเส้นแบ่งที่ชัดเจน โดยเชื่อว่าคนยอมรับได้ว่าการเป็นรัฐบาลต้องมีการทำงานลงพื้นที่สัมผัสประชาชน และในการขับเคลื่อนนโยบายจะส่งผลให้มีการได้คะแนนเสียงในกรณีที่ประชาชนได้ประโยชน์ แต่ก็มีเส้นแบ่งว่าถ้าจงใจใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลัก ก็ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จะทำให้เกิดการโต้แย้งในเรื่องความเป็นกลางได้ง่าย เมื่อรัฐมนตรี ลงพื้นที่จะถูกจับตา ถูกร้องเรียนว่าให้คุณให้โทษในเรื่องการเลือกตั้งหรือไม่
“อย่างไรก็ตามข้อกังวลของผมไม่ใช่แค่เรื่องเสียเปรียบได้เปรียบทางการเมือง แต่จะทำอย่างไรให้ระบบได้รับความเชื่อมั่น ถ้า คสช.ตระหนักในเรื่องนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อจะแปรสภาพมาเป็นผู้เล่นด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังระบุด้วยว่า ต้องไม่ใช้มาตรา 44 กับองค์กรอิสระหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดย คสช.ต้องจำกัดการใช้มาตรา 44 ไม่ให้กระทบกับความเชื่อมั่นกับการทำงานขององค์กรอิสระ เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ ซึ่ง คสช.ต้องทำให้เห็นเป็นรูปธรรมเรื่องพรรคการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ ตามข่าวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่า เรื่องพรรคให้ถาม รมว.อุตสาหกรรม และ รมว.พาณิชย์ ถ้าบุคคลทั้งสองมาเป็นผู้บริหารพรรคตามข่าว ทั้ง 2 คนก็ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ เพราะคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องลาออกนับแต่รัฐธรรมนูญใช้บังคับภายใน 90 วัน แสดงว่ารัฐธรรมนูญต้องการให้การเลือกตั้ง เป็นเรื่องการแข่งขันของคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐในขณะนี้ แต่ถ้าเป็นผู้บริหารหลักแล้วไม่ลงสมัครส.ส. ก็เป็นการเลี่ยงในเชิงกฎหมายตามตัวอักษรเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ ยังฝากถึง กกต.ชุดปัจจุบันว่าน่าจะมีความพร้อมที่จะใช้อำนาจของตัวเองในฐานะผู้รักษากฎหมายหลัก เช่น ที่เคยตั้งคำถามไปก็กลับได้รับคำตอบว่าต้องถาม คสช.ก่อน ทั้งๆที่เป็นเรื่องกฎหมายพรรคการเมือง ไม่ใช่คำสั่งหัวหน้า คสช. ทำให้สังคมเข้าใจว่า กกต.ต้องตอบสนองตามความต้องการของ คสช. ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในความเป็นอิสระของ กกต. ยิ่งเมื่อ คสช.เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้เล่นก็ยิ่งเกิดปัญหา จึงอยากให้พร้อมแสดงตนเป็นผู้รักษากฎหมายด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี