2พรรคใหญ่รุมขย้ำบิ๊กตู่ตั้ง"ลูกกำนันเป๊าะ"นั่งที่ปรึกษานายกฯวางแผนปูทางสืบทอดอำนาจชัดเจน ปชป.จวกตกเขียวการเมืองไม่ต่างจากยุคทักษิณ "นิพิฏฐ์"อัดน้ำเน่าตกปลาในบ่อเพื่อน ด้าน"หญิงหน่อย"กรี๊ดลั่นไม่เป็นสุภาพบุรุษใช้อำนาจเอาเปรียบพรรคอื่น แฉกระแสกว้านซื้อตัวสส.มาแรง ขณะที่"สมชาย"หน้าหงายยกก๊วนกอล์ฟบุกถิ่นสะสมทรัพย์ตื้อเข้าคอกแต่โดนบอกปัดนิ่มๆ
เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธยา คุณปลื้ม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการเมือง เปิดเผยว่าได้รับการชักชวนจากนายสมคิดมาช่วยงาน ว่า รู้จักกับนายสนธยามาเป็นเวลานาน และนายสนธยาก็รู้จักและมีคณะทำงานอยู่ในพื้นที่การพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะเข้าใจถึงผลประโยชน์
ปัดตอบซุ่มตั้งพรรคภูมิธรรม
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามกรณี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ใต้บังคับบัญชาด้านเศรษฐกิจจะตั้งพรรค นายสมคิด ปฏิเสธตอบคำถามถึงความคืบหน้าการตั้งพรรคการเมืองใหม่ และประเด็นว่าพรรคใหม่จะใช่ชื่อพรรคภูมิธรรมจริงหรือไม่ โดยขอให้ไปถามประเด็นดังกล่าวกับนายอุตตม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงแรกที่ นายสมคิดให้สัมภาษณ์ระหว่างรอรถตู้ ก็มีรอยยิ้มบ้าง แต่เมื่อถูกผู้สื่อข่าวรุมสัมภาษณ์เพิ่มก็เริ่มมีสีหน้าบึ้งตึง ก่อนจะเดินวนไปวนมา และเอ่ยปากปากตำหนิลูกน้องว่า "รถมาหรือยัง" ก่อนที่จะรถจะมารับ
"วิษณุ"ยันตั้งสนธยาไม่ขัดกม.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตำแหน่งของนายสนธยา จะได้รับเงินเดือนประมาณ 6 - 7 หมื่นบาท ส่วน นายอิทธิ คุณปลื้ม ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ช่วย รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เงินเดือนประมาณ 5 หมื่นบาท แต่ต้องเสียภาษีด้วยตามปกติ ซึ่งการแต่งตั้งทั้ง 2 คน มีการแนบคุณสมบัติมาเรียบร้อยแล้ว ใน ครม.จึงไม่ได้พูดอะไรกัน เสนอโดยสำนักนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า การเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองไม่ขัดต่อการรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ขัดกฎหมาย สมัยก่อนก็มีแบบนี้ แต่ถ้าเป็น ส.ส.มาเป็นไม่ได้
โยนถามบิ๊กตู่ปูทางสืบทอดอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าวันหนึ่งประกาศวันเลือกตั้ง นายสนธยาสามารถลาออกไปสมัคร ส.ส.ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องลาออก แต่ถ้าจะลาออกก็ได้ เหมือนกับรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องลาออกเหมือนกัน แต่บังเอิญ ครม.ชุดนี้ รัฐธรรมนูญไปกำหนดไว้ ถ้าจะลงเลือกตั้งต้องลาออกก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นลงเลือกตั้งไม่ได้
เมื่อถามต่อว่า สังคมมองว่าเป็นการหาแนวร่วมเพื่อสืบทอดอำนาจภายหลังการเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายกฯ เอง
"วีระศักดิ์"ขอพิสูจน์ฝีมือลูกเป๊าะ
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ขณะนี้นายอิทธิพล ยังไม่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ส่วนเหตุผลที่เลือกนั้น ขอให้รอพิสูจน์ผลงานกันดีกว่า ซึ่งนายอิทธิพลเป็นอดีตนายกเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และตอนนี้ภาระงานของตน เฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว ก็มีตั้ง 2,200 กิจกรรมต่อปี ถ้ามีคนมาช่วยได้ก็ดีทั้งนั้น
ไม่สนถูกครหาตั้งรบ.ในทำเนียบ
"ผมไม่ได้ติดใจว่า นายอิทธิพลจะมายังไง อยากรู้เพียงว่า สามารถทำงานร่วมกันและรับถ่ายโอนอำนาจ จัดการงานให้ผมได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตอนนี้งานเยอะจริงๆ แต่เจ้าหน้าที่มีเท่าเดิม และกระทรวงผม ก็ไม่ได้มี รมช. ส่วนที่บอกว่ามีการจัดตั้งรัฐบาลในทำเนียบนั้น ผมไม่ทราบ แต่ละวันผมทำแต่งานของผม ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับใครเลย" นายวีระศักดิ์ กล่าว
"ประมวล"อัดตกเขียวการเมือง
ส่วน นายประมวล เอมเปีย อดีต ส.ส.ชลบุรี ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อ้างว่าตั้งนายสนธยามาให้คำปรึกษาด้านการเมือง ส่วนนายสมคิดกลับบอกว่าให้มาดูโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ไม่รู้ร่วมประชุมอยู่ใน ครม.เดียวกันหรือไม่ เพราะตอบสังคมก็ยังไปคนละทาง สื่อจึงวิเคราะห์ว่า เป็นการตกเขียวเพื่อมัดจำทางการเมืองของผู้มีอำนาจกับกลุ่มการเมืองอิทธิพลท้องถิ่นโดยใช้ตำแหน่งการเมืองในรัฐบาลหมั้นหมาย
ซัดไม่ต่างจากยุคทักษิณ
นายประมวล กล่าวว่า ส่วนผลประโยชน์อื่นๆคงจะตามมาช่วงก่อนเลือกตั้งและระหว่างเลือกตั้ง ซึ่งไม่แปลกเพราะนายสมคิดเคยร่วมรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้แนวคิดรวมทุกพรรคเพื่ออยู่ต่อในอำนาจ ซึ่งนายสมคิดก็ยอมรับว่า วันนี้ให้ลูกน้องตั้งพรรคเพื่อดันพล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อเพื่อตัวเองจะได้บริหารอำนาจต่อ จึงไม่ต่างอะไรจากยุคทักษิณ
เคยด่านักการเมืองแต่มาผสมพันธุ์
"แต่อยากถามว่าที่ผ่านมานายกฯเคยด่าว่านักการเมืองทุจริต คอร์รัปชั่น ชั่ว เลว แล้วทำไมวันนี้ต้องมาใช้วิธีตกเขียวนักการเมืองจากกลุ่มการเมืองเหล่านี้ไปร่วมรัฐบาลเพื่อให้เป็นนั่งร้านส่งตัวเองนั่งเก้าอี้สืบทอดอำนาจต่อ เปรียบไปก็แค่สินค้าเก่าในกล่องแปะสลากใหม่ จึงขอให้สังคมไทยรู้เท่าทันว่า มันไม่ต่างกันเลย" นายประมวล กล่าว
"นิพิฏฐ์"อัดซ้ำน้ำเน่าตกปลาในบ่อเพื่อน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งข้อสังเกตว่า ปีสุดท้ายของนายกฯแล้วจะมามีที่ปรึกษาเรื่องการเมืองเพื่ออะไร ทำไมเพิ่งมาคิดมีที่ปรึกษาทางการเมืองเอาปีนี้ ทำให้เห็นว่านายกฯกำลังจะเข้าสู่การเมือง
"เดิมไม่ได้สร้างบ่อปลาไว้ ก็ไปตกของคนอื่น ก็เห็นแล้วว่าคนเขายินยอม เพื่อจะยุบรวมเป็นบ่อเดียวกันใครจะไปรู้ แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่า การปฏิรูปการเมืองไม่ง่าย เพราะความจริงยังเป็นน้ำเน่า ภาคปฏิบัติยังแย่ ยังล้าหลัง ซึ่งไม่แปลกใจเรื่องเหล่านี้เลย แต่อยากเตือนประชาชนที่กำลังผิดหวังอยู่ว่าต้องทำใจ และเราอาจจะได้เห็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายกว่านี้ก็ได้" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นักการเมืองบางคนชอบถูกดูด
นายนิพิฏฐ์ กล่าวถึงกระแสการดูดนักการเมืองว่า มีนักการเมืองอยู่ประเภทหนึ่งที่ยอมให้เขาดูดซึ่งมีประจำ แต่นักการเมืองอีกประเภทไม่ยอมให้ดูด ก็ต้องดูว่าใครมีความเข้มแข็งมีอุดมการณ์มากกว่ากัน ซึ่งชัดอยู่แล้วว่า คสช.ไม่จำเป็นต้องตั้งพรรคก็ได้ ส่วนพรรค ปชป.คงไม่ต้องรับมือเรื่องการดูดอะไรเพราะอดีต ส.ส.ของประชาธิปัตย์มีความเข้มแข็งและมีอุดมการณ์อยู่ในตัวทุกคนคงจะไม่ถูกดูดไปได้
จับไต๋บิ๊กตู่ปูทางนั่งนายกฯอีกรอบ
เช่นเดียวกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลภาคกลาง ก็เชื่อว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะตั้ง นายสนธยา และนายอิทธิพล ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจปากท้องประชาชนดีขึ้น ราคายางยังมีปัญหา อาชีพประมงมีความถดถอย ทำมาหากินไมได้ ความเชื่อมั่นของประชาชนที่กินเงินเดือนก็ไม่มีความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอย จึงทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเป็นปัญหาอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งตระกูลคุณปลื้มดังกล่าว จะไปโทษเขาก็ไม่ได้ ต้องโทษคนตั้งที่มีเป้าหมายพิเศษเพื่อเป็นฐานการเมืองของตัวเองในการกลับมาเป็นนายกฯอีกรอบ
ชี้เกิดวิกฤตความน่าเชื่อถือผู้นำ
"พล.อ.ประยุทธ์ กำลังหาทางที่จะทำอย่างไรก็ได้เพื่อเป็นนายกฯ คนใน หรือเป็นนายกฯ คนนอก จึงจำเป็นต้องมีฐานเสียงสนับสนุน ทำให้เกิดวิกฤตความน่าเชื่อถือของผู้นำทั้งๆ ที่เคยด่านักการเมือง และแยกตัวเองว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่วันนี้ก็เอาคนกลุ่มที่ตัวเองเคยด่าไปเป็นที่ปรึกษา เหมือนเป็นการพูดกลับไปกลับมา ทั้งหมดก็เพื่อตัวเอง ไม่ได้แก้ไขปัญหาประชาชน" นายสาธิต กล่าว
ยอมรับสส.ภาคกลางโดดดูด
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มั่นใจว่าในส่วนของอดีต ส.ส.ภาคกลาง ที่ตนดูแลอยู่ อาจมีถูกดูดไปบ้าง แต่น้อยมากที่ไป ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครบ้าง ส่วนอดีต ส.ส.ภาคตะวันออก ตอนนี้ยังไม่มีใครไป แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับอำนาจรัฐและพลังดูด รวมทั้งอำนาจเงินว่าจะรุ่นแรงแค่ไหน
หญิงหน่อยยันไม่ได้เช็คขุมกำลัง
ขณะที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังเปิดบ้านพักให้สมาชิกพรรคเพื่อไทย และบุคคลใกล้ชิด เข้ารดน้ำขอพรในโอกาสเทศกาลสงกรานต์ ว่า การจัดพิธีรดน้ำดำหัววันนี้ ตรงกับวันที่แกนนำพรรคเพื่อไทยนัดออกรอบตีกอล์ฟ ที่ จ.นครปฐม แต่ไม่มีนัยใดๆ เพราะหลายคนที่มาร่วมรดน้ำขอพรจะเดินทางไปตีกอล์ฟในช่วงบ่าย
"งานที่จัดขึ้นที่บ้าน ไม่ใช่การเช็คชื่อผู้ที่ให้การสนับสนุนดิฉัน เพราะไม่ได้เป็นคุณครู งานวันนี้ คนที่เคยทำงานด้วยกันมาทุกปี" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ยันไม่เคยคิดแย่งชิงหัวหน้าพรรค
ส่วนการทำงานการเมือง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะไปเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแน่นอนและเป็นฟันเฟืองของพรรค แต่เรื่องหัวหน้าพรรคเห็นว่าคนเดิมทำดีอยู่แล้ว ไม่แย่งชิง พรรคเพื่อไทยไม่มีใครแย่งกันเป็นหัวหน้าพรรค เพราะการเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเหนื่อย โดยเฉพาะกติกาที่ คสช.ร่างขึ้นมาใหม่
"ทุกคนห่วงประเด็นหัวหน้าเพื่อไทย แต่ดิฉันเชื่อว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค รวมถึงผู้บริหารเพื่อไทย ทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมาดีอยู่แล้ว ต้องชื่นชมและให้เกียรติ เคารพในความดีของทุกคน จึงไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอะไรตอนนี้" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
แฉกว้านซื้อตัวสส.กำลังมาแรง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า คนที่ร่วมกันทำงานกับพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ มีเป้าหมาย ไม่คิดเอาประโยชน์ส่วนตัว จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย แม้จะมีกระแสข่าวซื้อตัวนักการเมืองเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ เท่าที่หารือหลายคนยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ส่วนความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาลยากขึ้นหรือไม่ พรรคยอมรับการตัดสินใจของประชาชนจากการเลือกตั้งในอนาคต
อัดประยุทธ์วางแผนสืบทอดอำนาจ
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกรณี ครม.แต่งตั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล (พช.) เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการเมือง และนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงเล่นการเมือง ผู้มีอำนาจขณะนี้อยากอยู่ในอำนาจต่อ
ท้าเล่นการเมืองอย่างสุภาพบุรุษ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการทำให้กติกาประชาธิปไตยบิดเบี้ยว มีการปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจ ตัดสิทธิของประชาชนไปเยอะมาก สิ่งที่จะเกิดขึ้น จะไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนั้น ผู้มีอำนาจที่ต้องการเข้าสู่การเมือง ขอให้แสดงตัวให้ชัดเจน เปิดเผย เพื่อความสง่างาม และเป็นสุภาพบุรุษ
อย่าใช้ม.44เอาเปรียบคนอื่น
"ถ้าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งจะไม่ทำอะไรที่จะเป็นการเอาเปรียบ อย่างไทยนิยมยั่งยืนถูกมองได้ว่าเป็นการปูฐานเสียง ขณะที่ยังคง ม.44 ห้ามทุกพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ตัวเองใช้อำนาจเต็มในฐานะรัฐบาลลงพื้นที่สร้างฐานเสียง ซึ่งไม่ใช่กติกาที่ยุติธรรม หรือสิ่งที่สุภาพชนควรกระทำ ไม่ใช่วิถีสุภาพบุรุษ ในฐานะสุภาพชนทำ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการกลับคำของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ หากตัดสินใจแล้วควรทำอย่างสง่างาม สุภาพบุรุษเปิดเผย แข่งกันด้วยกติกา และแฟร์ เพราะการอาสาเข้ามาทำงานให้ประชาชนเป็นเรื่องดี ไม่ควรลับลวงพลาง เพราะจะทำให้คนตั้งคำถามได้
ฟันธงพลังชลหนุนบิ๊กตู่แน่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ว่า พรรคเพื่อไทย กับพลังชล จะยังมีความร่วมมือที่ดีต่อกันหรือไม่ เพราะต้องพิจารณาเป็นรายประเด็น แต่ทุกอย่างต้องทำเพื่อส่วนรวม ส่วนพรรคพลังชลจะร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยได้หรือไม่ในอนาคตนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังชล คงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมป
พท.บุกถิ่นสะสมทรัพย์ตื้ออยู่ต่อ
ที่สนามกอล์ฟนิกันติ จ.นครปฐม แกนนำพรรคเพื่อไทยกว่า 20 คน นำโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายชัยเกษม นิติสิริ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวราเทพ รัตนากร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายชูศักดิ์ ศิรินิล และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคฯ ออกรอบตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟนิกันติ ของตระกูล "สะสมทรัพย์" โดยมี นายไชยยศ สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม ให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการพูดคุยส่วนตัวนายสมชาย และนายภูมิธรรม ได้เอ่ยปากชวนนายไชยยศ ให้ไปอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยกัน ซึ่งนายไชยยศได้แต่หัวเราะโดยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ
อนุชาเผยบิ๊กตู่ก็เคยมาตีกอล์ฟ
นายอนุชา กล่าวว่า สนามกอล์ฟนี้เปิดรับทุกคน โดยไม่รู้ล่วงหน้าว่าใครจะเดินทางมา ซึ่งในฐานะเจ้าของสนามก็ให้การต้อนรับทุกคน เหมือนเช่น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เดินทางมาก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้จะไม่มีการพูดคุยเรื่องการเมือง และไม่ส่งสัญญาณให้แกนนำพรรคเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการยืนยันสมาชิกภาพพรรคเพื่อไทยของคนในตระกูลสะสมทรัพย์ นายอนุชา ระบุเพียงสั้นๆ ว่า "เมื่อชาติต้องการ"
สมชายเงิบรอลุ้นถึง30เม.ย.
จากนั้น นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้มาตีกอล์ฟจริงๆ ไม่ได้คุยการเมือง เพราะการเมืองจะคุยที่ไหนก็ได้ ขณะเดียวกันยืนยันว่าการมาครั้งนี้ไม่ได้มาจีบตระกูลสะสมทรัพย์ เพราะทุกคนมีวุฒิภาวะ มีวิจารณญาณว่าจะทำงานการเมืองกันอย่างไร และยังมีเวลายืนยันสมาชิกพรรคถึงวันที่ 30 เม.ย.
ไชยยศแทงกั๊กขอฟังเสียงปชช.
ต่อมา นายไชยยศ กล่าวถึงจุดยืนทางการเมืองของตระกูลสะสมทรัพย์ พวกเราเป็นผู้อาสามาบริหารประเทศเพื่อประชาชน ซึ่งประชาชนก็จับตาดูพวกเราอยู่ ต้องถามประชาชนว่าจะให้เราไปอยู่ที่ไหน และที่ผ่านมาจากการฟังเสียงประชาชนก็มีทั้งสองทางคือให้อยู่ทั้งกับ คสช.และอยู่กับพรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายการเมืองก็คืออนัตตา ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของใคร แต่ก็ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย
รอนายกฯทาบทามนั่งที่ปรึกษา
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้มาทาบทามตระกูลสะสมทรัพย์ไปเป็นที่ปรึกษาเหมือนตระกูลคุณปลื้มหรือไม่ นายไชยยศ กล่าวว่า "เขาก็ได้แล้ว และทางนายกฯ ก็ไม่ได้หารือ หรือคุยกับสะสมทรัพย์ ขอให้ท่านติดต่อก่อนแล้วเราจะบอก"
"ผมยืนยันว่าตระกูลสะสมทรัพย์ไม่เคยมืดมนทางการเมือง เราชัดเจนตลอด ส่วนการยืนยันสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้น ผมเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว และยังไม่ได้สมัครสมาชิกพรรคใด ถึงวันที่เปิดรับสมัคร ก็จะได้รู้ว่าผมจะไปหรือไม่ ตอนนี้ขออยู่กับตัวเองก่อน" นายไชยยศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี