ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีตั้งพรรคการเมืองใหม่และกวาดต้อนอดีต ส.ส. มาเข้าร่วมสังกัดเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งภายหลังจากการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ประชาธิปัตย์”โดนตลบหลังดูดส.ส.
โดยเมื่อวันที่ 21 เมษายน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมายอมรับว่า มีความพยายามจากกลุ่มผู้มีอำนาจที่จะดึงอดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ให้ไปเข้าร่วมสังกัดในพรรคการเมืองใหม่ เพราะคิดว่าถ้าดึงไปแล้วก็มีโอกาสจะได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากแต่ละคนมีฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งการจะไปไม่ไปก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสมาชิกแต่ละคน และจะเป็นที่ใดบ้าง คงไม่สามารถพูดออกมาได้
ยอมรับสภาพถ้าจะไปคงรั้งไม่ได้
“ถ้าคนในพรรคเราจะย้ายพรรค เราคงไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ แต่ถ้าย้ายออกไปแล้วโอกาสที่จะกลับเข้ามาในพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ไปแล้วก็ไปเลย เราจะไม่รับกลับมาที่พรรคอีก ในเมื่อเห็นแนวทาง และอุดมการณ์อื่นดีกว่า ก็ต้องเดินหน้าต่อไป โดยที่ไม่ต้องถอยกลับมา” นายวิรัตน์ กล่าว
ด่าคสช.เล่นการเมืองโคตรเอาเปรียบ
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า การที่พรรคการเมืองตั้งขึ้นแล้วมาไล่เชิญชวนสมาชิกพรรคต่างๆ ที่มีอุดาการณ์เดียวกันไปเข้าร่วม ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก แต่การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แล้วยังไปตั้งพรรคที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปดูด ส.ส. เข้ามาร่วมนั้น คิดว่าเป็นเรื่องแปลก โดยเฉพาะการเสนอผลประโยชน์ เพราะได้จะเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งทางการเมือง และทำให้พรรคอื่นเสียหาย ซึ่งการทำสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก และไม่ควรทำอย่างยิ่ง
เชื่อ“บิ๊กตู่”ใช้วิธีให้พรรคเสนอชื่อ
เมื่อถามอีกว่า มีแนวโน้มที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะลงการเมืองเองหรือไม่ นายวิรัตน์ กล่าวว่า คิดว่าท่านคงไม่ลงสมัคร ส.ส. แต่จะใช้ช่องทางพรรคเสนอชื่อนายกฯ 1ใน3 ชื่อ ถ้าท่านยินยอมก็เป็นไปได้ เพราะง่ายกว่าการใช้ช่องทางการเป็นนายกฯคนนอก
“มาร์ค”เปิดทางใครอยากออกก็ไป
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวอาจมีการดึงอดีต ส.ส. ภาคตะวันออกของพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมงานกับพรรคการเมืองใหม่ของ คสช. ว่า โดยส่วนตัวไม่รู้สึกกังวล เพราะใครที่ต้องการอยากจะออกไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่นก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ หากมีตำแหน่งรองรับที่ชัดเจน แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ภาคตะวันออก จะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น แต่พรรคเราต้องการอยู่กับคนที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง และทำงานต่อไปด้วยกันในระยะยาว เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันที่มีอุดมการณ์และมองถึงผลที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
หยันอย่าลืมเจตนารมณ์ปฏิรูปการเมือง
ส่วนที่มีการมองว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะดึงกลุ่มการเมืองต่างๆ เพื่อป้องกันการได้เสียงข้างมากจากพรรคการเมืองใหญ่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการดึงตัวอดีตนักการเมืองไปเข้าร่วมงานโดยเอาตำแหน่งต่างๆมาแลกเปลี่ยน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความพยายามสร้างฐานการเมือง แต่ตนย้ำหลายครั้งว่าอะไรที่เป็นสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญด้วย และที่สำคัญต้องไม่ลืมเจตนารมณ์ของการปฏิรูปการเมือง ถ้าการเมืองเป็นเรื่องต่างตอบแทนก็ยากว่าการเมืองไทยจะดีขึ้นในอนาคต
ให้ถาม“สาธิต”เองอยากไปหรือเปล่า
“ขณะนี้อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีใครมาแสดงเจตจำนงจะออกจากพรรค ส่วนที่มีข่าวว่าตระกูลปิตุเตชะจะโดนดูด ขอให้ไปถาม นายสาธิต ปิตุเตชะ ดีกว่า เพราะยังไม่มีอะไรบ่งบอกว่า ส.ส.ภาคตะวันออกของพรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมงานการเมืองกับรัฐบาล แต่ใครอยากจะออกไปมีตำแหน่งก็เป็นสิทธิของเขา แต่อย่างไรตอนนี้ปฎิเสธยาก กับความพยายามสร้างฐานการเมือง แม้ว่าจะเป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่ไม่ควรขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ที่พยายามปฏิรูปการเมือง ถ้ายังเป็นการเมืองต่างตอบแทน การปฎิรูปก็ยากจะดีขึ้นได้ ซึ่งผมไม่มีความกังวล เพราะทำการเมืองด้วยอุดมการณ์ มีคนจำนวนมากที่ยึดแนวนี้และมั่นคงกับพรรค” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
“เพื่อไทย”โวยดูดยิ่งกว่าพญาแร้ง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาล คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จ มีเครื่องมือ มีเครือข่าย องคาพยพ มีงบประมาณ ที่สามารถบริหารจัดการทุกอย่างตามความประสงค์ของตัวเอง จะใช้มาตรา 44 ปลดใครก็ได้ ปลดแล้วอยากตั้งใหม่ให้รับตำแหน่งที่ใหญ่กว่าก็ได้ โชว์พลังดูดยิ่งกว่าพญาแร้งที่เอามาสูบปลาในบ่อคนอื่น จะเททิ้งใคร จะ กกต. กสทช. ก็ง่ายยิ่งกว่ากดรีโมท และไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านใดๆ หรือไม่ เท่าที่ดูแทบไม่มีอะไรที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ทำไม่ได้ นอกจากการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชน การปฏิรูปประเทศ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น
เย้ยให้จับตาปลดรมต.ประเคนเก้าอี้นักการเมือง
"พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กลัวใคร แต่กลัวการเลือกตั้งหรือไม่ ทั้งที่ ครม.สัญจรไปที่ไหน ก็ดูดที่นั่น กลัวดูดไม่ทัน ก็เปิดทำเนียบดูดเลยหรือไม่ กล้าเปิดหน้าตัก วางมัดจำ ดูดให้มารับตำแหน่งทั้งๆ ที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ต่อไปอาจได้เห็นการปลดรัฐมนตรีสายทหาร เพื่อเอาโควต้ามามัดจำให้กับพวกที่ถูกดูด" นายอนุสรณ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี