2 มิ.ย.61 นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการพิจารณาลงรายละเอียดรายมาตราในประเด็นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งเป็นองค์กรภายในใหม่ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะทำหน้าที่วินิจฉัยอุทธรณ์ และเรื่องร้องทุกข์ทั้งปวงของข้าราชการตำรวจ ทำหน้าที่เสมือนเป็นศาลปกครองชั้นต้น
ทั้งนี้ นอกจากจะเพื่อผดุงความเป็นธรรมให้กับข้าราชการตำรวจแล้ว ยังจะเป็นการถ่วงดุลกับคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ(ก.ตร.) อีกด้วย โดยการวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์เฉพาะประเด็นที่ว่ากฎ ก.ตร.ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ.ตำรวจฯหรือไม่ ให้คำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร.เป็นที่สุด ส่วนประเด็นอื่นๆ หากไม่พอใจคำวินิจฉัยของ ก.พ.ค.ตร. ผู้อุทธรณ์หรือร้องทุกข์ยังสามารถฟ้องคดีต่อศาลปกครองสูงสุดได้ โดยปัจจุบันหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และเรื่องร้องทุกข์เป็นของ ก.ตร.
นายคำนูณ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นเพื่อคุ้มครองระบบคุณธรรม ในกรณีที่ ก.พ.ค.ตร.เห็นว่ากฎฏ ระเบียบ หรือคำสั่งใดที่ออกตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ และมุ่งหมายให้ใช้บังคับเป็นการทั่วไป ไม่สอดคล้องกับระบบคุณธรรม ให้แจ้งให้ผู้มีอำนาจออกกฏ ระเบียบ หรือคำสั่งดังกล่าวทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขหรือยกเลิกตามควรแก่กรณี
สำหรับระบบคุณธรรมที่จะได้บัญญัติขึ้นไว้ใหม่ในร่าง พ.ร.บ.ตำรวจฯฉบับใหม่ มีดังนี้
1.การรับบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต้องคำนึงถึงอาวุโส ความรู้ความสามารถของบุคคล ความเสมอภาค ความเป็นธรรม ประโยชน์ของทางราชการ และความพึงพอใจของประชาชน
2.การบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพขององค์กรและลักษณะของงาน โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
3.การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนตำแหน่ง และการให้ประโยชน์อื่นแก่ข้าราชการตำรวจ ต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรม โดยพิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ และความประพฤติ โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้
4.การดำเนินการทางวินัย ต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโดยปราศจากอคติ
5.การบริหารทรัพยากรบุคคลต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง
“ก.พ.ค.ตร.มีองค์ประกอบ 7 คน อายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี และไม่เกิน 70 ปี ทำงานเต็มเวลา วาระ 6 ปี ดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว ให้เลขาธิการ ก.พ. เป็นเลขาธิการ ก.พ.ค.ตร. และผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผู้ช่วยเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการ ก.พ.ค.ตร.จากผู้มีคุณสมบัติที่ได้รับการคัดเลือก โดยคณะกรรมการคัดเลือก ประกอบด้วย ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธาน รองประธานศาลฎีกาที่ได้รับมอบหมายจากประธานศาลฎีกา 1 คน กรรมการ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเลือกโดย ก.ตร. 1 คน และเลขาธิการก.พ. ประธาน ก.พ.ค.ตร.มาจากการเลือกกันเองของ ก.พ.ค.ตร.” นายคำนูณ กล่าว
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่า ส่วนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการ ก.พ.ค.ตร. จะมาจาก 6 กลุ่ม คือ กลุ่มอดีตข้าราชการพลเรือน , กลุ่มอดีตข้าราชการตำรวจ , กลุ่มอดีตข้าราชการทหาร , กลุ่มอดีตข้าราชการตุลาการ ศาลยุติธรรม หรือศาลปกครอง , กลุ่มอดีตข้าราชการอัยการ และกลุ่มนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี