9 ส.ค. 61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) บางส่วน มีการดำเนินการเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ในประเด็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ว่า ส่วนตัวไม่ค่อยชอบใจกับระบบการมีผู้ตรวจการเลือกตั้งแบบนี้เท่าไรนัก เพราะเห็นว่า การที่เรามีคนที่เข้ามาแล้วเกี่ยวข้องพิจารณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งในพื้นที่ และรู้ตัวกันล่วงหน้า มันสุ่มเสี่ยงต่อการที่ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ บรรดานักการเมืองในพื้นที่จะไปสร้างความสัมพันธ์ในทางหนึ่งทางใด ทั้งนี้ กกต. ชุดที่เคยทำงานแล้วประสบความสำเร็จที่สุด เขาไม่ได้ใช้ระบบแบบนี้ น่าจะเป็นชุดแรกสมัยของนายสวัสดิ์ โชติพานิช ซึ่งใช้วิธีการนำเจ้าหน้าที่ไปลงพื้นที่ดูว่านี้การเลือกตั้งในแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร โดยไม่บอกใคร แต่รู้กันเองภายใน กกต. ดังนั้นคนที่ทำอะไรอยู่ในพื้นที่จะไม่รู้เลยว่า ใครกำลังสอดส่องใครบ้าง แบบนี้มันจะได้ผลกว่า
“สนช.เลือกวิธีแบบนี้มาแล้ว ถ้าบอกว่า คนที่กกต.เลือกมา หรือใครเห็นว่า คนที่เขาเลือกมาไม่เหมาะสม อาทิ การไปมีความสัมพันธ์กับพรรคการเมืองและนักการเมืองไม่เป็นกลาง ก็ควรจะมาอยู่ในขั้นตอนกระบวนการของการที่จะไปเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่มาล้มโต๊ะ พูดกันตามจริงแล้ว กกต. ชุดใหม่ก็สามารถที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงได้อยู่แล้ว เพราะเป็นอำนาจของ กกต. ชุดใหม่ เมื่อเข้าไปเพื่อแก้ไขตรงนี้ มองว่า ไม่ค่อยเห็นเหตุผลที่อยู่ดีๆ จะมีการเคลื่อนไหว มาแก้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องผู้ตรวจการเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่คนที่คิดจะแก้ ก็คือคนที่เขียนมาเอง และยังไม่ทันได้เริ่มทำงานอะไรที่ผิดปกติเลย และกรอบเวลาก็สมเหตุสมผลอยู่ การที่ กกต. ชุดปัจจุบันตัดสินใจไป ก็คงมองตรงนี้แล้ว และเขาก็ไม่ได้มีส่วนได้กับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น อีกทั้งกฎหมายพรรคการเมืองก็เจอคำสั่ง คสช. แก้มารอบหนึ่งแล้ว ที่จะไปเซ็ตซีโร่สมาชิกพรรคตอนนั้น นี่กฎหมาย กกต. ก็จะทำอีก แล้วยังมีการพูดถึงจะแก้เรื่องไพรมารีอีก เลยกลายเป็นว่า แล้วสรุป คุณออกกฎหมายมามาตรฐานคืออะไร รอบคอบแล้วหรือเปล่า ปกติเราไม่เคยเห็นการแก้กฎหมายแบบนี้หรอกครับ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ความเคลื่อนไหวนี้จะกระทบต่อไทม์ไลน์ในการเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยแท้จริงแล้วคงกระทบไม่ได้ เพราะไม่มีอะไรใหญ่กว่า รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดเอาไว้ว่า ระยะเวลาการเลือกตั้งผูกพันกับ เรื่องอะไร ซึ่งเงื่อนเวลาที่เขาผูกเอาไว้คือ การผูกไว้กับการบังคับใช้ของกฎหมายลูกที่จำเป็นต่อการเลือกตั้ง ถ้ามีการประกาศใช้ทั้ง 4 ฉบับแล้ว จะไปแก้ไขอะไร อย่างไรก็ไม่ควร เพราะจะมากระทบกับกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เรามีปัญหาเรื่องมาตรา 44 อยู่ ซึ่งใครบอกได้ เพราะถ้าจะใช้มาตรา 44 แก้ไข อย่างนั้นอย่างนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี