ถ้าผิดเอาชีวิตไปได้เลย
เทพเทือกลัน
จี้ปปช.สรุปคดีโรงพัก
โวยถูกเตะตัดขาทางการเมือง
17สิงหาฯเปิดแจงข้อกล่าวหา
“สามมิตร”ปัดสวมบท“ตีสองหน้า”อัดกลับ“พท.”จ้องหาผลประโยชน์แค่พวกพ้อง ด้าน“สมคิด-ชูศักดิ์”ซัดแก้ตัวแบบศรีธนญชัย-เอาสีข้างเข้าถู คนรู้ทัวร์ดูดหวังผลการเมือง ด้าน“วิษณุ”เผยคสช.กำลังตรวจสอบ โต้คนละประเด็นกับการชุมนุมของกลุ่มคนเลือกตั้ง ส่วน“สนช.”ถอนร่างแก้ไข“พ.ร.ป.กกต.”แล้ว “สุเทพ”ไลฟ์สดโรงพัก-แฟลตตร. ถ้าป.ป.ช.ชี้ผิดเอาชีวิตไปได้เลย
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) ระบุจะไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพท.แล้วเดินสายแบบกลุ่มสามมิตรตามที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรเสนอเพราะตีสองหน้าไม่เป็นว่า กลุ่มสามมิตรไม่ได้ตีสองหน้า
“ถ้าเป็นคนกลางไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนประชาชนแล้วส่งต่อให้รัฐบาลเพื่อหาทางช่วยเหลือแก้ไขเรียกว่าการตีสองหน้า แต่อย่างน้อยก็คงจะดีกว่าเล่นการเมืองแบบตีหน้าเดียว ที่มองเห็นแค่ประโยชน์ของพวกพ้องตัวเอง โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน จะสนใจความเดือดร้อนเฉพาะเวลาจะให้เขาเข้าคูหากาคะแนนให้เท่านั้นหรือ ที่สำคัญหากไม่คิดจะทำก็ไม่ควรขวางคนอื่นเขา”นายธนกร กล่าว
เดินสายต่อ-พร้อมถูกตรวจสอบ
นายธนกร กล่าวอีกว่า การที่กลุ่มสามมิตรเดินทางไปรับฟังปัญหาของประชาชนในแต่ละพื้นที่นั้น เราดำเนินการตามกฏหมาย ตามระเบียบกฎเกณฑ์ทุกอย่าง ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไปสร้างความวุ่นวายให้ประเทศและพร้อมให้คสช.และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตรวจสอบ เพราะเรามีเจตนาที่บริสุทธิ์ ทั้งนี้ กลุ่มสามมิตรจะยังลงพื้นที่รับฟังปัญหาต่อไป เพราะคนชนบทได้ประสานงานมายังกลุ่มสามมิตรหลายจังหวัด เพื่อขอให้กลุ่มสามมิตรไปรับฟังปัญหาและนำข้อเสนอต่อให้รัฐบาลด้วย
พท.ซัดทัวร์ดูดชัด-เอาสีข้างเข้าถู
ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุถึงกลุ่มสามมิตรสามารถเดินสายพบปะประชาชนได้ เพราะไม่ใช่พรรคการเมืองนั้น คนเขารู้ทั้งประเทศว่า คือกลุ่มการเมือง ที่ไปเตรียมผู้สมัครทั้งนั้น การพูดแบบนี้เป็นการพูดแบบเอาสีข้างเข้าถู โดยไม่สนใจคำสั่ง คสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5คน
“คนกลุ่มอื่นที่เรียกร้องการเลือกตั้ง ทำไมบอกชุมนุมเกิน 5คน นักวิชาการบางแห่งจะประชุมกันยังถูกห้ามว่าเกิน 5คนและการที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร บอกว่าใครอยากทำแบบเขา ก็ให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ก็จะสามารถทำได้นั้น พวกผมคงไม่ทำแบบนั้นครับ เพราะพวกผมตีสองหน้าไม่เป็น”นายสมคิด กล่าว
อย่าแก้เกี้ยวแบบ’ศรีธนญชัย’
เช่นเดียวกับ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำพูดของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ดูจะเป็นการหาช่องทางเลี่ยงกฎหมายแบบศรีธนญชัย การไปพบประชาชนไม่ใช่การหาช่องทางเลี่ยงกฎหมาย แต่อยู่ที่ว่าสิ่งที่ทำถูกต้องตามกฎหมายที่มีอยู่หรือไม่ ประชาชนสามารถใช้วิจารญาณได้ว่า อะไรผิดอะไรถูกเหตุผลที่อ้างฟังขึ้นหรือไม่ ที่ นายสมศักดิ์ บอกว่าให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคนั้น เป็นศรีธนญชัย พรรคเพื่อไทยคงไม่ทำแบบนั้น
วิษณุเผยกำลังตรวจสอบสามมิตร
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าแม้กลุ่มสามมิตร
ยังไม่ใช่พรรคการเมือง แต่การเดินสายทางการเมืองก็เข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5คน ว่า ไม่ทราบ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ คสช.และกำลังขอข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวมาดู เพราะเห็นมีหลายกลุ่มที่ร้องผ่านสื่อในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้ร้องมาที่ตน ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ไม่สามารถตอบได้ คงต้องขอดูข้อเท็จจริงก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นำกลุ่มสามมิตรไปเปรียบเทียบกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่รวมกลุ่มเกิน 5คนแล้วถูกจับนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องดูที่เนื้อหาว่าเขาเรียกร้องอะไร แต่การชุมนุมเกิน 5คน ถือเป็นอีกประเด็นหนึ่ง
“ที่มีการดำเนินคดีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผมเข้าใจว่า คสช.คงเห็นว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเข้าข่ายและไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดก็ตามถ้าพูดอะไรที่มีเนื้อหาไม่ส่อสร้างความขัดแย้ง คงไม่มีใครไปจับได้”นายวิษณุ กล่าว
สนช.ถอนร่างแก้ไขพรป.กกต.
ด้านนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า ตนได้ประชุมกับสมาชิกสนช.36คน ที่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.)ว่าด้วยกกต.แล้ว ได้ข้อสรุปตรงกันเป็นมติเอกฉันท์ว่า หลังจากมีการโปรดเกล้าฯกกต.ใหม่ 5คนแล้ว ก็ควรให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ใหม่ดำเนินการคัดเลือกและตรวจสอบผู้ตรวจการเลือกตั้ง 616คน เพื่อแก้ไขปัญหากันเอง ดังนั้นจึงหมดความจำเป็นที่จะเสนอแก้ไข พรป.กกต.ต่อไป จึงได้ไปถอนเรื่องการเสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ถือเป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหมที่่จะไปแก้ปัญหากันเอง ยืนยันว่าเจตนาการเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อต้องการให้การเลือกตั้งสุจริตยุติธรรม ไม่มีวัตถุประสงค์ยื้อโรดแมปเลือกตั้งแต่อย่างใด
กกต.ป้ายแดงถก’วิษณุ’20สค.
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.และ นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. ได้เดินทางมาดูความพร้อมของสถานที่ที่จะใช้ในพิธีรับสนองพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ประธานและกกต.ใหม่ทั้ง 5 คน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 17สิงหาคม โดย นายกฤช เปิดเผยว่า จะเริ่มเวลา 9.00น.ประธาน กกต.และกกต.อีก 4คน จะเดินทางมาสำนักงาน กกต.เพื่อสักการะพระพรหมเจ้าที่ของศูนย์ราชการ จากนั้นจะมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดปกติขาว เพื่อทำพิธีรับสนองพระราชโองการ โดยมีกำหนดเปิดกรวยสักการะในเวลาประมาณ 11.44น.จากนั้นเวลา 13.00น.กกต.ชุดเก่าและชุดใหม่จะพบปะพูดคุยกัน ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่ทันที
มีรายงานว่า กกต.ชุดใหม่จะหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี โดย นายวิษณุ จะมาหารือที่สำนักงาน กกต.ในวันจันทร์ที่ 20สิงหาคม เวลา13.00น.
บิ๊กตู่แจงถอด’บิ๊กป้อม’พ้น’คตช.’
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีออกคําสั่งคสช.ที่3/2561เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ซึ่งมีการปรับรายชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมการ คตช.ว่า ไม่มีอะไร แค่แบ่งงานท่านออกมาบ้าง ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น อย่าไปคิดให้เป็นอย่างอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุผลที่ปรับ พล.อ.ประวิตร ไม่ใช่เรื่องนาฬิกาหรูหรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่เกี่ยว ผมไม่สนใจ เรื่องไหนใครตรวจสอบก็รับไป เขาตรวจสอบว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี