“กกต.”แจงไพรมารีโหวตจะมี 7-9 รูปแบบ ย้ำผู้ตรวจการเลือกตั้ง-ผอ.กกต.จังหวัด ต้องทำความเข้าใจให้ชัด คาดตีกรอบค่าใช้จ่ายผู้สมัครหาเสียงแบ่งเขตคนละ 2 ล้าน รับห่วงปมคำนวณยอดเงินหาเสียงในโซเชียล
19 ส.ค. 61 ที่โรงแรมพินนาเคิล จอมเทียน พัทยา ในการจัดทำแผนปฏิบัติการดำเนินการให้ได้มาซึ่ง ส.ว. และจัดทำแผนปฏิบัติการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไป
โดยนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า งานด้านพรรคการเมืองที่กกต. ต้องรับผิดชอบ จะเกี่ยวข้องกับกฎหมาย 3 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรม (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต.พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง รวมทั้งมีงานสำคัญ 3 งาน คือ 1.การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2.การสนับสนุนพรรคการเมืองผู้สมัครและการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง และ3.ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง กฎหมายใหม่กำหนดให้ประชาชนต้องมีส่วนร่วม ต้องมีการทำไพรมารีโหวต ซึ่งไพรมารีโหวต ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองอย่างเดียว เพราะตามกฎหมายกำหนดให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ตรวจสอบให้การทำไพรมารีโหวตของพรรคการเมืองเป็นไปตามกฎหมาย
นายแสวง กล่าวต่อว่า ดังนั้นผอ.สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดจะต้องมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องไพรมารีโหวต รวมทั้งศึกษา พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองด้วย ทั้งนี้ การทำไพรมารีโหวตนั้นมีหลักการคือ พรรคการเมืองที่มีสิทธิส่งผู้สมัครจะแตกต่างกันเพราะพรรคเก่าจะต้องมีอย่างน้อย 4 สาขา แต่พรรคใหม่ส่งได้เลย วันนี้มีพรรคตามกฎหมายเดิม 69 พรรค พรรคที่แจ้งชื่อใหม่ 117 พรรค รับจดทะเบียนไปแล้ว 4 พรรค ซึ่ง กกต.จะต้องพยายามให้พรรคการเมืองใหม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งให้ได้
“ทุกวันนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดมีสาขาพรรคเลย เนื่องจากถูกเซ็ตซีโร่หมด แต่ละพรรคจะต้องไปหาสมาชิกเพื่อจัดตั้งสาขาพรรค หรือตัวแทนประจำจังหวัดเพื่อทำไพรมารีโหวต แต่ยังไม่สามารถหาสมาชิกพรรคได้ เพราะติดคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 แม้จะมีคำขออนุญาตหาสมาชิกจากพรรคการเมืองกว่า 100 ฉบับ ที่ กกต.ส่งไปยัง คสช. แต่ก็ขึ้นอยู่กับ คสช. จะพิจารณา”รองเลขาธิการ กกต.กล่าว
นายแสวง กล่าวอีกว่า ในการทำไพรมารีโหวตตามมาตรา145 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนดให้พรรคการเมืองออกแบบเอง ซึ่งน่าจะมีประมาณ 7-9 รูปแบบ ซึ่งไม่ว่า จะเป็นรูปแบบไหนหัวหน้าพรรคก็จะต้องเป็นคนเซ็นรับรอง ส่วนการเปลี่ยนให้ทำไพรมารีโหวตแบบภาคนั้นตนเห็นว่า กระบวนการขั้นตอนก็ไม่ได้ลดลงไปจากเดิม เพราะตามกฎหมายกำหนดให้สมาชิกพรรคในเขตเลือกตั้งนั้นมีส่วนร่วม นอกจากนั้นอาจจะมีการปรับเปลี่ยนการทำไพรมารีโหวตเป็นรูปแบบของการรับฟังความคิดเห็นแทน ซึ่งก็มี 2 แนวทางคือ ให้การรับฟังความคิดเห็นเป็นไปตามที่ กกต. กำหนด ซึ่ง กกต.ก็จะต้องมีการออกระเบียบรองรับเพิ่มเติม ส่วนที่สองคือให้การรับฟังความคิดเห็นให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนด ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ กกต.สบายขึ้น
"เรื่องจะมีไพรมารีโหวตหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของ กกต. เพราะเราเป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย เมื่อกฎหมายกำหนดว่า ต้องทำเราก็ต้องทำ โดยมีหน้าที่ให้ความรู้พรรคการเมือง ผู้สมัคร ตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีกำหนดอยู่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็เชื่อว่า จะมีไพรมารีโหวต อย่างไรก็ตาม สำหรับกกต.คิดว่าเรื่องไพรมารีโหวตจะไม่เป็นปัญหา เพราะไม่ว่า จะเป็นรูปแบบไหนเราก็สามารถทำได้ เราได้เตรียมขั้นตอนไว้แล้ว" รองเลขาธฺการ กกต. กล่าว
รองเลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งนี้เปลี่ยนไปเยอะ เพราะจะใช้ค่าใช้จ่ายเป็นเครื่องมือทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยกกต.จะออกระเบียบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายกว่า 5 เรื่อง อาทิ การกำหนดค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของพรรค ซึ่งจากการคำนวณเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งพรรคการเมืองกับ กกต.เคยมีข้อเสนอว่า อาจจะต้องกำหนดค่าใช้จ่าย 2 ล้านบาทต่อผู้สมัครแต่ละคนในแบบแบ่งเขต
นายแสวง กล่าวว่า สุดท้ายก็จะต้องให้ กกต.หารือกับพรรคการเมืองต่างๆ อีกครั้งก่อนสรุปยอดเงินที่ชัดเจน ส่วนค่าใช้จ่ายการส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อจะอยู่ตั้งแต่ 20-70 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัครที่แต่ละพรรคส่ง ส่วนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งเฟซบุ๊ก หรือ ไลน์ ถือว่า น่ากังวลที่สุด เพราะอาจจะมีปัญหาว่า จะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายการหาเสียงผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์อย่างไร เพราะนอกจากตัวผู้สมัครเอง ยังมีกองเชียร์อีก ซึ่งพรรคการเมืองจะต้องรวบรวมออกมาเป็นตัวเลข ส่วนจะทำได้ทั้งหมดหรือไม่ตอนนี้ กกต. ก็คงเอาเท่าที่รวบรวมได้ ส่วนหากมีการมายื่นเรื่องร้องเรียนก็ค่อยตรวจสอบในกระบวนการสืบสวนสอบสวนกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี