20 ส.ค.61 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งขอกล่าวหา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการอนุมัติโครงการก่อสร้างแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ 163 แห่งทั่วประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกรณีกล่าวหาร่วมกับพวกทุจริตโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือโรงพักทดแทน 396 แห่ง แต่ไม่ตั้งข้อกล่าวหาตนทั้งที่ขณะนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีว่า ตนไม่ทราบ และคงต้องสอบถามป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างดังกล่าวอนุมัติโดยคณะรัฐมนตรี(ครม.) ของรัฐบาลตน ดังนั้น ครม.ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ แต่สมัยนั้นครม.อนุมัติเฉพาะหลักการว่าจะทำอะไรบ้าง แต่ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ คือ เปลี่ยนแปลงวิธีประมูลที่จากเดิมประมูลเป็นรายภาค กลายมาเป็นประมูลรวมครั้งเดียว ซึ่งวิธีการประมูลดังกล่าวไมได้เสนอมายังตนและครม. แต่เสนอตรงไปที่นายสุเทพ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และเท่าที่ทราบนายสุเทพอนุมัติตามที่สตช.สรุปขึ้นมา
“ในส่วนที่ผมเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ มีคนทำหนังสือร้องเรียนมายังผม ว่าผมไม่ทำอะไร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า สำนักงานของผมได้ส่งเรื่องให้สตช.พิจารณาข้อร้องเรียนว่าเป็นอย่างไรไปแล้ว ผมเกี่ยวข้องเท่านี้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่นายสุเทพไลฟ์สดชี้แจงในเฟสบุ๊คนั้น ตนคิดว่านายสุเทพอาจกลัวว่าถ้าอยู่เฉยจะเกิดความเคลือบแคลง ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าจะชี้แจงตรงกับข้อกล่าวหาที่ป.ป.ช.ตั้งไว้หรือไม่ เพราะโดยทั่วไป ป.ป.ช.จะตั้งข้อกล่าวหาค่อนข้างกว้าง ไม่บอกรายละเอียด จะสรุปชัดเจนก็ตอนชี้มูล ส่งเรื่องให้อัยการและศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี