“บิ๊กตู่”บอกอบอุ่นลงพื้นที่ลพบุรีบ้านเก่า  ย้ำไปได้ทุกตารางนิ้วไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ยิ่งเกลียดยิ่งต้องไป เอาคนเลวออกจากระบบ ลั่นถึงเวลาเลือกตั้งขอชาวบ้านสัญญาเลือกคนดี              

เมื่อเช้าวันที่ 7 ก.ย.61 ที่ จ.ลพบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ลพบุรี เยี่ยมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ โดยมีข้าราชการ และประชาชน นักเรียน สวมชุดไทยมาต้อนรับประมาณ 1 พันคนให้การต้อนรับ      

โดยนายกฯกล่าวว่า มาครั้งนี้รู้สึกอบอุ่นใจ ลพบุรีเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นดินแดนแห่งราชธานีแห่ง 2 ของไทย และตนเองเป็นคนลพบุรี เกิดที่โคราชแต่มาโตที่ลพบุรี เพราะพ่อมาเป็นทหารที่นี่ วันนี้ตื่นเต้นกลับมาบ้านเก่า ไม่ได้ถึงตายนะ แต่บ้านเก่าหมายถึงบ้านที่เคยอยู่อาศัย มาติดตามงาน ติดตามปัญหาประชาชน ทำความเข้าใจกัน ไม่ได้มาทำงานการเมือง รัฐบาลไม่สามารถทำงานเพื่อคนใดคนหนึ่งได้ ทำเพื่อคนลพบุรีหรือโคราชอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำให้ทุกจังหวัด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ลพบุรีถือเป็นดินแดนแห่งวัฒนธรรม ดินแดนที่สงบสุข เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากภัยสงครามตั้งแต่อดีต เป็นที่ตั้งของกองกำลังทหาร ซึ่งทหารไม่ใช่ศัตรูของประชาชน ตนเป็นทหารมา 40 ปี ไม่เคยคิดเป็นศัตรูกับประชาชนเลย ซึ่งทหารมีคติพจน์ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ปกป้องอธิปไตยและรักษาความมั่นคงภายใน ดังนั้นจำเป็นที่ต้องมีทหาร

“อย่าเชื่อหากใครบอกไม่ต้องมีทหารแล้วก็ได้ เพราะในยามที่ไม่มีการสู้รบก็ต้องมีทหารเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ทุกคนทิ้งดินแดนแห่งนี้ไม่ได้ ประเทศไทย เป็นดินแดนที่ดีที่สุด ซึ่งวันหน้าประเทศไทยต้องเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย แต่ขอให้เป็นประชาธิปไตย ที่ลดความขัดแย้ง รบกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ จึงขอให้ทุกคนช่วยกันและมีหลักคิด เพราะไม่มีรัฐบาลไหนทำเองได้ทั้งหมด”นายกฯกล่าว

นายกฯ  กล่าวว่า ทุกรัฐบาลต้องมีธรรมาภิบาล สิ่งสำคัญต้องไม่มีทุจริต ส่วนรัฐบาลนี้หากมีข้อมูลหลักฐานส่งมาที่ตนเองได้ทันที ส่วนการตัดสินใครผิดถูกก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ถ้ามีคนเลวๆในระบบก็ต้องให้คนเหล่านั้นออกไป หากมีใครรังแก ทุจริต ก็แจ้งมายังตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นใครถูกลงโทษสถานหนัก จะเห็นว่าการปลดหรือย้ายคนจำนวนมาก ซึ่งตนทำด้วยบริสุทธิ์ใจ จึงไม่กลัวอะไรในการใช้อำนาจในการบริหาร และไม่ได้ตั้งใครเพื่อเป็นพวกของตน หรือผลประโยชน์ทางการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาปะเทศไทยติดกับดักประชาธิปไตยและกับดักรายได้ปานกลางทำให้ไปไหนไม่ได้ เสียเวลามากว่า 10 ปีที่มีขัดแย้ง ทุกรัฐบาลติดขัดไปหมด รัฐบาลนี้จึงต้องไปทุกที่ทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าที่ไหนจะชอบหรือไม่ แม้จะเกลียดก็จะไปก็มาให้เกลียด ไม่ได้มาให้รัก  หากจะเกลียดก็เป็นเรื่องของประชาชน ยิ่งเกลียดก็จะรักให้มากขึ้นเพราะแสดงว่าเขายังไม่รัก เป็นเพราะเราไม่ได้ทำอะไรให้ หรือยังไม่เป็นธรรม

“ดังนั้นอย่าเลือกที่รักมักที่ชัง ทุกรัฐบาลต้องคิดแบบนี้ ไม่ใช่นำพาไปพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ย้ำผมไม่ได้อยู่ถึงวันนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การเลือกตั้ง วางยุทธศาสตร์ทำเป็นกฎหมายควบคู่กับรัฐธรรมนูญที่ต้องเดินไปตามนี้ ส่วนใครจะล้มอีกก็ช่วยไม่ได้แล้วเพราะปล่อยให้ทำกันเอง”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามทุกพรรคต้องเข้ามาวาดประเทศว่าจะไปทางไหน วันนี้ทุกจังหวัดได้งบประมาณมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะนายกฯไม่ได้อยู่พรรคไหน ทุกจังหวัดคือพรรครัฐบาล เดียวจะหาว่าตนเองพูดหารเมืองอีก แต่เราต้องดูแลคนไทยทุกคน และขอให้คนไทยเลิกทะเลาะกันเอง   เลิกเอาคนไปตีกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา  คือขณะนั้นมีชาวต่างชาติแต่วันนี้มีแต่คนไทยตีกันเองและจะตีกันเองทำไมประชาธิปไตย ตีกันมากกว่า 10 ปีทำให้เส้นเลือดของประเทศ 10 ตันวันนี้  จึงต้องปลดล็อคสิ่งเหล่านี้ให้ได้ และ วันนี้วันนี้ปฏิรูปประเทศเพื่อประชาชน ไม่ได้ปฎิรูปให้ตนเองมีอำนาจอยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มาหาเสียงแต่มาพูดเพื่อให้เห็นว่ารัฐบาลมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นอะไร การเมืองต้องไม่ทำให้ประเทศถอยหลังอีกต่อไปสัญญากับผมได้หรือไม่ ใครคิดว่าจะทำให้การเมืองมันดีขึ้น ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลดีขึ้น เลือกตั้งได้คนดีขึ้นยกมือ คนดีคือคนที่ทำให้เราอย่างแท้จริง และทำให้คนอื่นด้วย ไม่ว่าพรรคไหนเข้ามาเป็นรัฐบาลต้องทำเพื่อคนทั้งประเทศทั้งที่ที่เลือก และไม่เลือกตัวเองมา เพราะรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยทำตามเสียงส่วนใหญ่ ไม่ใช่เสียงที่เลือกเรามาเท่านั้นแต่คือคนทั้งประเทศ

“ไม่ว่าพรรคไหนเข้ามาเป็นรัฐบาล นั่นคือเสียงจากคนทั้งประเทศ แต่คนที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่จะไม่ดูแลเขาเลยหรือ เขาไม่ใช่คนไทยหรือ ดังนั้นอย่าให้ระบบประชาธิปไตยคัดกรองคนแบบนี้เข้ามา มาแบ่งแยกภาคเหนือ ภาคใต้ ตะวันออกและตะวันตก เป็นของคนคนนั้นคนนี้ ไม่ได้อีกแล้ว เพราะหากทำอย่างนั้นร่างกายเราก็จะสิ้นสภาพ พร้อมขอให้วันหน้าเทียบดูว่าสิ่งที่เขาพูดกับที่ผมพูดต่างกันหรือไม่ผมไม่ได้พูดให้ใคร แต่พูดให้ประชาชน และวันหน้าใครเป็นรัฐบาลท่านก็คงอยากได้รัฐบาลดีๆผมก็ไม่ได้บอกว่าผมดีที่สุดหรือรัฐบาลนี้ดีที่สุด เพียงแต่ผมคิดแบบนี้ทุกเรื่องไม่มีผลประโยชน์" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้น นายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลงานรัฐบาล สินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปจังหวัด ปรากฎว่าเมื่อถึงจุดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อย นายกฯจึงถามว่าอยากให้ช่วยอะไรไหม ชาวบ้านจึงบอกว่าอยากให้ช่วยพยุงราคาข้าว นายกรัฐมนตรี จึงกล่าวว่า จะพยุงได้อย่างไร เพราะตอนนี้รัฐบาลยังใช้หนี้ 5 แสนล้าน ให้กับโครงการรับจำนำข้าว และข้าวต้องมีราคากลางจะให้ 15,000 บาท ทุกประเภทไม่ได้ อย่าให้ใครมาบอกว่าจะให้ราคาข้าว 15,000 ถึง 20,000 มันผิดกฎหมาย ที่ผ่านมารัฐบาลต้องแบกให้มาเท่าไร ใช้หนี้มา 4 ปีแล้ว จากที่ผลาญมาจากรอบที่แล้ว

พร้อมกันนี้นายกฯทานข้าวกับน้ำพริกกะปิ น้ำพริกปลาร้า ขนมจีนน้ำยา โดยบอกว่า อร่อยมาก ขอซื้อกลับบ้านทั้งหมด ก่อนชิมข้าวหมากและน้ำมะนาวสด จากนั้นนายกฯสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยอธิบดีกรมศิลปากรได้มอบรูปหล่อโลหะจำลองสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและหนังสือนำชมพระนารายณ์ราชนิเวศ ให้แก่นายกรัฐมนตรี ก่อนเยี่ยมชมโครงการบำรุงรักษาและอนุรักษ์ต้นจัน อายุ 300 ปี ให้กับนายกฯ โดยมีประชาชนขอถ่ายเซลฟี่และมีเด็กนักเรียนอนุบาลแต่งชุดไทยชูป้าย"ลุงตู่สู้สู้ ลุงตู่หล่อ หนูรักลุงตู่