วันนี้ (10 ม.ค.56) สำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง ดูกันจะๆ (อีกครั้ง) 3 ตอนสุดท้ายละคร"เหนือเมฆ" ฝ่าฝืน ม.37 - ม.112 หรือไม่? โดยมีเนิ้อหาดังต่อไปนี้
ถอดบทละคร“เหนือเมฆ”3 ตอนสุดท้าย พิสูจน์ข้ออ้างฝ่าฝืน ม. 37 -กฎหมายอาญา ม.112 หรือไม่ - กับข่าวลือปริศนา ไฉน! ช่อง3 - ผู้จัด พร้อมใจสวมบท“เตมีย์ใบ้”?
นับตั้งแต่ช่อง 3 สั่งระงับการแพร่ภาพออกอากาศละคร “เหนือเมฆ 2”ในช่วงหัวค่ำวันที่ 4 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา จนถึงเวลานี้ สังคมไทย ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากผู้บริหาร ช่อง 3 รวมไป จนถึงผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดละคร ทีมงานนักแสดง ว่าเนื้อหาละคร เหนือเมฆ 2 ที่ถูกระบุว่า “บางช่วงบางตอนไม่เหมาะสม กับการออกอากาศ” อันเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ละครเรื่องนี้ ถูกระงับการออกอากาศ
อยู่ตรงฉากไหนของละครเรื่องนี้ กันแน่ ?
ทั้งนี้ มีการยืนยันจาก กรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) บางคนว่า ผู้บริหารช่อง 3 แจ้งเหตุผลการระงับออกอากาศละครเหนือเมฆ 2 ว่า มีเนื้อหาเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ม. 37
ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีการกระทำซึ่งเข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง”
ขณะเดียวกันก็มีการปล่อยข่าวจากคนบางกลุ่มบางสีว่าบทละครอาจเกี่ยวโยงกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ทำการตรวจสอบเนื้อหาในบทละคร เหนือเมฆ 2 ใน 3 ตอน สุดท้าย ที่ถูกระงับการแพร่ภาพออกอากาศ พบว่า มีเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การเฉลยปมของละครที่ซ่อนเอาไว้หลายเรื่อง โดยเฉพาะความจริงที่ว่า วิญญู (จอมมาร) ที่ปรึกษารองนายกฯ จักร นักการเมืองหนุ่มที่มีประวัติไม่โปร่งใส เป็นพ่อแท้ของแสงกล้า ตำรวจหนุ่ม แต่เพราะถูกมนต์ดำครอบงำเลยทำเรื่องชั่วร้าย
ทั้งนี้ เนื้อหาละคร เริ่มต้น จากการที่ พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์ ลูกน้อง วิญญู ที่ปรึกษาพิเศษของสำนักงานสอบสวนพิเศษ เข้าไปแจ้งข้อมูลสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจ ว่า นภา ภรรยา นายกฯ เมฆา เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การโจรกรรมวัตถุโบราณ เทวาศาสตราวุธ และการตายของ นภา ก็เป็นการจัดฉากความจริงแล้ว นภา ยังมีชีวิตอยู่
โดยมี หมวดแสงกล้า (พระเอก)และจ่าสมิง เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
ขณะที่ นายกฯ เมฆา กำลังถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด่วน ภายใน 24 ชั่วโมง จาก พิษกระสุนอาคม ที่วิ่งผ่านไปมาในร่างกาย ตามแผนการที่รองนายกฯ จักร กับพวกวางไว้เพื่อล่อให้ นภา และพวก ออกมาชิงตัว เพื่อจะได้กำจัด ในคราวเดียวกัน โดย แพรไพลิน สาวสวยผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางนิติวิทยาศาสตร์ (นางเอก) เป็นผู้รับผิดชอบการผ่าตัดครั้งนี้
แต่ “นภา” กับพวก ก็ใช้สติปัญญา บุกเข้าไปช่วยเหลือนำตัว “ เมฆา” ออกมาได้ แต่ในที่สุดเมฆา ก็ต้องจบชีวิตลงจากเวทย์มนต์ของจอมมาร
ขณะที่การต่อสู้แย่งชิงศาสตราวุธ ก็ยังดำเนินต่อไป โดยเฉพาะ ศาสตราวุธ ชิ้นสุดท้าย คือ “วัชระ” ที่อยู่กับแสงกล้า ซึ่งสุดท้ายจอมมาร ก็ได้ไปครอบครอง และเตรียมที่จะทำพิธีรวมศาสตราวุธ เพื่อความเป็นอมตะ
แต่สุดท้ายอำนาจของจอมมาร ก็ถูกทำลายไป พร้อมกับความจริง ที่ว่า แสงกล้าเป็นลูกชาย แท้ ของวิญญู และวิญญูก็สำนึกบาป และจบชีวิตตัวเอง เพื่อชุบชีวิตลูกชาย พร้อมกับชัยชนะของความดี
ก่อนที่จะมาถึงบทสรุป ของละคร เพชรแท้ เจ้าแม่ธุรกิจเครือข่ายสื่อสารอันดับหนึ่งของเมืองไทย สั่งขายหุ้นบริษัทในเครือทั้งหมด ด้วยเหตุผลว่า “พอกันทีกับธุรกิจไม่ถูกต้อง เบียดเบียนสังคมคนเราจะต้องการอะไรมากไปกว่าชีวิตที่มีความสุข"
“คมศร” นักการเมืองหนุ่ม ขึ้นเป็น เลขาธิการพรรคไททิวัตถ์ คนใหม่ พร้อมคำพูดที่ว่า “การเมืองของคนรุ่นใหม่... เป็นการเมืองเพื่อการเสียสละต่อบ้านเมืองผมจะไม่สัญญากับประชาชนว่าจะให้อะไรบ้างแต่ผมสัญญาว่าจะสร้างค่านิยมใหม่ให้กับสังคมไทย เราจะต้องทำทุกอย่างบนความถูกต้องเที่ยงตรง หมดยุคการเมืองต่างตอบแทนแล้ว คุณธรรมต้องมาคู่กับความดีผู้นำจะเป็นคนเก่งอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องเป็นทั้งคนเก่งและ คนดี”
“เตรียมทุกอย่างให้พร้อม... ปราศรัยครั้งต่อไปผมจะเปิดโปงทุจริตในกระทรวงฯ … ผมไม่สนหรอกว่าจะเป็นเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลมาจากไหน ถ้าทำผิดเราต้องตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้เตรียมข้อมูลให้พร้อมพวกมันต้องไม่มีที่ยืนในบ้านเมืองนี้"
“นภา” ผันตัวเองมาเป็นนักเขียนวรรณกรรมสะท้อนค่านิยมเกี่ยวกับการทำความดี(มีชายปริศนา คล้าย ดร.เมฆา ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง โดยไม่มีใครรู้ )
“แสงกล้า” กับ “แพรไพลิน”ครองคู่กัน อย่างมีความสุข
ฉากจบ
วันใหม่ หน้าอาคารฯ ออฟฟิศที่ทันสมัยนักข่าวที่มีชื่อเสียงมากกำลังรายงานข่าวอยู่ที่หน้าจอ
“เป็นที่แน่นอนแล้วว่านายจักร อมตฤทธา อดีตนักการเมืองที่มีชื่อเสียงจะได้รับการปล่อยตัวจากคดีสำคัญทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานสืบสวนพิเศษต้องการกันตัวไว้เพื่อเป็นพยานในคดีสำคัญอื่นๆอีกหลายคดี”
ดาหลากับบอดี้การ์ดกันจักรออกมาจากวงล้อมนักข่าวที่กำลังพยายามเข้ามารุมสัมภาษณ์
“บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ทำความผิดอะไรเมื่อไม่ผิด...ก็ต้องถูกปล่อยตัวเป็นเรื่องธรรมดา"
“แล้วเรื่องการเมือง...ท่านจะทำยังไงต่อไป”
“ผมกำลังตัดสินใจ...จะให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอีกครั้ง”
นักข่าวสาวถาม “หมายความว่าท่านจะเล่นการเมืองต่อไป”
“ยังไม่ตัดสินใจแค่อาจจะ ... เอาละ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ผมเหนื่อยมามากแล้วแหม...การเป็นคนดีที่ถูกกลั่นแกล้งเนี่ย มันน่าเหนื่อยใจจริงๆนะครับน้องๆ”
ดาหลากันจักรออกมาที่รถด้านหนึ่งและกำลังก้าวขึ้นรถไป
นักข่าวที่มีชื่อเสียงหันมากล่าวสรุปกับกล้อง
“สังคมคงต้องตั้งคำถามกันต่อไป ... เมื่อไหร่คนที่ทำร้ายสังคมจะได้รับการตัดสินรับกรรมในการกระทำของตัวเอง"
จักรสีหน้าหยิ่งยโสมากนั่งอยู่ที่เบาะหลังรถขณะที่ดาหลาเป็นคนขับรถออกรถไป
ดาหลาบิดกุญแจสตาร์ทรถ ฉับพลัน … รถยนต์ของจักรก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นเปลวเพลิงลุกโชติช่วง....
ผู้คนและนักข่าวที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจโกลาหลกันเป็นการใหญ่
จอภาพยักษ์เหนืออาคารสูงตรงนั้นดับวูบลง...พร้อมๆ กับตัวหนังสือขึ้นเต็มจอ
“ตาต่อตา ฟันต่อฟันนี่คือการลงทัณฑ์คนชั่ว ด้วยศรัทธาแห่งความดี ! จาก....จันทราปาฎิหาริย์”(จันทราปาฎิหาริย์ ถูกคาดหมายว่าจะเป็นตัวละครใหม่ใน เหนือเมฆ 3)
หากพิจารณา เนื้อหาบทละครใน 3 ตอน สุดท้าย ดังที่กล่าวไปแล้ว จะพบว่า ห่างไกล กับข้อกำหนด ใน มาตรา 37 ตามที่ผู้บริหารช่อง 3 ระบุไว้อย่างมาก และไม่มีเนื้อหาส่วนใดเกี่ยวโยงกับ ม.112
และในข้อเท็จจริงหากจะมีฉาก ที่ไม่เหมาะสม ช่อง 3 ก็สามารถสั่งการให้มีการตัดฉาก หรือเนื้อหาบางส่วนออกไปได้ (ตัวอย่างเช่นฉากการวางระเบิดรองนายกฯ จักร) โดยไม่จำเป็นต้องสั่งระงับการแพร่ภาพออกอากาศละครทั้งหมด
เพราะต้องไม่ลืมว่า ละครเรื่องนี้ ออกอากาศมาแล้วกว่า 9 ตอน? หากเนื้อหาละครมีปัญหาจริงก็คงถูกถอนออกไปแล้ว
ล่าสุด นายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ไทยทีวีสีช่อง 3 ออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “ที่งดออกอากาศไปเลยเพราะฝ่ายรายการมองว่าเนื้อหา 3 ตอนที่เหลือมันสุ่มเสี่ยง แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้ดูว่ามันเสี่ยงยังไง เพราะทุกอย่างทั้งรายการ ละคร จะต้องผ่านฝ่ายรายการแล้วไปฝ่ายเซ็นเซอร์ แต่เราจะไม่มีการชี้แจงครับ เพราะใช้คำว่าไม่เหมาะสมไปแล้ว”
พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้ไม่มีเบื้องหลัง และขอร้องไม่ให้เอาไปโยงกับการเมือง
ผอ.ฝ่ายประชาสัมพันธ์ช่อง 3 ยังย้ำด้วยว่า ละคร เหนือเมฆ 3 ตอนที่เหลือ จะไม่มีการนำมาออกอากาศอย่างแน่นอน
“ไม่มีทั้ง youtube ไม่ต้องรอดู ไม่ลงแผ่น เพราะลิขสิทธิ์ตอนนี้เป็นของเรา ไม่ใช่คุณฉัตรชัย"
อย่างไรก็ตาม ภายหลัง ช่อง 3 ตัดสินใจระงับการออกอากาศละครเรื่องเหนือเมฆ 2 มีปฏิกิริยา ที่น่าสนใจจาก คน 2 กลุ่ม คือ 1. แฟนละคร หรือประชาชนทั่วไป ออกมาแสดงความไม่พอใจ ต่อเรื่องนี้อย่างมาก2. นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ที่ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ ว่า ไม่ได้เป็นผู้สั่งการ หรืออยู่เบื้องหลังให้มีการแบนละครเรื่องนี้
แตกต่างจากผู้บริหารช่อง 3 และทีมงานผู้จัดละครเรื่องนี้ ที่เล่นบท “เงียบ” ไม่ยอมพูดจาโต้ตอบ หรือให้เหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากระบุว่า เนื้อหาไม่เหมาะสม
ว่ากันว่า เหตุผลที่ทำให้ผู้บริหารช่อง 3 และทีมผู้จัดละคร เลือกที่จะไม่อธิบายข้อเท็จจริงกับประชาชน ในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
มาจากเหตุผลสำคัญ 2 ข้อ คือ
1. “บุคคล” ที่ขอให้ช่อง 3 พิจารณาเหตุผลในการถอดละครเรื่องนี้เป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองสูง มากกว่านักการเมืองทั่วไป ทำให้ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
ส่วนเหตุผลที่ต้อง “ร้องขอ” กัน ก็เป็นเพราะว่า เนื้อหา และคำพูดของตัวละคร ที่โจมตีนักการเมือง แรงเกินไป
นอกจากนี้ ยังต้องการที่จะใช้กระแสการถอนละครเรื่องนี้ มากลบข่าวฉาวการบริหารงานรัฐบาลหลายเรื่องในช่วงผ่านมาด้วย เพราะประเมินแล้วว่า ช่อง 3 ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องใบสั่ง ว่ามาจากใคร
2. ภายหลังจากที่ได้รับการร้องจากฝ่ายการเมืองแล้ว ผู้บริหารช่อง3 ต่างมองเห็นช่องทางที่จะพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ในการสร้างประโยชน์จากกระแสถอดละครเรื่องเหนือเมฆ
ไม่ว่า จะเป็นการเอาคืนฝ่ายการเมือง โดยใช้กระแสสังคม เป็นเครื่องมือ ว่า บีบบังคับให้ช่อง 3 ต้องถอดละครเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่เต็มใจ
ขณะที่ ช่อง 3 ก็สามารถใช้เรื่องนี้ถกปัญหาสัมปทาน ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ด้วย
เพราะภาพที่ปรากฏออกมาในขณะนี้ คือ สามารถทำงานสนองคำสั่งผู้มีอำนาจทางการเมือง อย่างสุดลิ่ม?
ส่วน ผู้จัดละคร ก็ได้รับความสงสาร ความนิยมชมชอบของแฟนละคร
น่าสังเกตว่า ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมใจกันเล่นบท “เตมีย์ใบ้”?
แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ถึงเวลาแล้วที่ ผู้บริหารช่อง 3 และผู้จัดละคร จะต้องออกมาบอกความจริงให้ประชาชนได้รับทราบกันเสียทีว่า สาเหตุที่แท้จริง คืออะไรกันแน่?
เพราะถ้าวันหนึ่ง ความจริงปรากฏออกว่า เป็นแค่เกม “เหนือเมฆ” ในการต่อรอง ตามที่บางคนตั้งข้อสังเกต
สังคมไทย คงไม่มีวันให้ “อภัย” อย่างแน่นอน ...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี