ปชป. ลงพื้นที่บางแค ช่วย 'อรอนงค์ คล้ายนก' กลับมาเป็น ส.ส. เจอชูป้ายไล่ เผยแค้นที่ไร้ชื่อในปาร์ตี้ลิสต์ - 'มาร์ค' ฟุ้งกระแสตอบรับดีหลังประกาศจุดยืนฯ
15 มี.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะเดินพบปะ ทักทาย เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน ในตลาดเช้าบางแค และตลาดหมู่บ้านเศรษฐกิจเขตบางแค
เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และ นางอรอนงค์ คล้ายนก ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 28 (บางแค) หมายเลข 10 พร้อมขึ้นรถแห่รณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มีนาคม
โดยได้รับตอบรับจากแม่ค้าประชาชนขอถ่ายรูปเซลฟี่พร้อมบอกว่าตัวจริงหล่อกว่าในทีวี หล่อกว่าสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันก็มีแม่ค้าบอกไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์ก่อนชูป้ายไล่ ที่มีข้อความ "ไม่ต้อนรับพรรคการเมืองที่ไม่เอาลุงตู่ (หมดเวลาเกรงใจ)คนบางแค ต้องมาก่อน อย่าลังเลคืนความสุขให้ประเทศชาติ" โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวกับแม่ค้าที่ชูป้ายไล่ ว่า รู้อยู่แล้ว เพราะนายโกวิทย์ ธารณา อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลาออกเพราะไม่พอใจเรื่องไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.และได้ไปช่วยงานพรรคพลังประชารัฐ ได้บอกไว้แล้วว่าจะจัดคนมาด่า ซึ่งคนที่มาชูป้าย ปรากฎว่าคือ พี่สาวภรรยา นายโกวิทย์ ที่มาพร้อมกับกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งทีมงานของนายอภิสิทธิ์ได้ไปสอบถามพบว่าถูกจ้างมา
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์หลังการประกาศจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์พบว่า ได้รับเสียงตอบรับทางการเมืองอย่างดีในหลายพื้นที่ ซึ่งไม่มีปัญหา เพราะเราทุกคนต้องการความชัดเจน เมื่อประกาศจุดยืนก็มีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐมีการโจมตีตนเองนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขัน จะให้เขามาชอบคงไม่ได้ แต่ต้องการให้ประชาชนเห็นอย่างชัดเจนว่าบ้านเมืองมีความท้าทาย 2 เรื่องที่ต้องก้าวไปให้พ้นคือเรื่องเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมา 5 ปี แม้รัฐบาลจะมีความตั้งใจดีแต่การแก้ปัญหาก็ยังไม่ตรงจุด
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เสนอนโยบายที่ชัดเจนคือการเพิ่มกำลังซื้อ พลิกฟื้นภาคธุรกิจ ส่วนการให้ค่าแรงเพิ่มของพรรคพลังประชารัฐนั้นตนเองมีความเป็นห่วงในเรื่องการเพิ่มภาระให้ผู้ประกอบการ ซึ่งอาจเกิดการย้ายฐานการผลิตได้ โดยการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์มีวิธีปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนปัญหาอีกเรื่องคือ เรื่องการเมืองก็จะเห็นชัดเจนว่าทุกคนพูดตรงกันว่า รัฐบาลนี้สืบทอดอำนาจ เราจึงคิดว่าการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องเป็นทางออกที่ดี
สำหรับกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ทวิตข้อความ ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมงานกับพรรคการเมืองใด เพราะประกาศไม่ร่วมกับเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมองว่า เป็นความพยายามกดดัน ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่หลักการ หากไม่มีประเด็นสืบทอดอำนาจและการทุจริตเราก็สามารถร่วมงานได้ และการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศอยากให้เลิกพูดเรื่องสืบทอดอำนาจนั้น หากการแข่งขันในการเลือกตั้งครั้งนี้ทุกพรรคปฏิบัติเท่าเทียมกันหมดก็ไม่มีปัญหา แต่ตรงกันข้ามทุกพรรคเห็นตรงกันว่าควรให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ทำการจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่พรรคพลังประชารัฐกลับไม่ยอมยืนยันในเรื่องดังกล่าว
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งและเคารพการตัดสินใจของประชาชนเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพราะทุกฝ่ายก็เรียกร้องว่าให้เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งโดยยึดถือเจตนารมณ์ของประชาชนนั่นคือประชาธิปไตย เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ ขณะเดียวกัน ต่างชาติก็จะมองว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่สามารถตอบแทนพรรคพลังประชารัฐได้ว่า จะปล่อยให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อนหรือไม่ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องมีเส้นทางที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง ซึ่งหากเลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาจำนวนมากก็จะแก้ปัญหาได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'องอาจ'แจงปมพี่ภรรยา'โกวิทย์'ไล่'มาร์ค' แค้นไร้ชื่อบัญชีปาร์ตี้ลิสต์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี