13 มี.ค.56 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 1 ดีเอสไอ หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ได้แจ้งว่า วันที่ 14 มี.ค. เวลา 09.00น.จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ดีเอสไอตามหนังสือเชิญ

“ดีเอสไอเข้าใจดีว่าทุกคนไม่ได้เป็นอาชญากรร้ายแรง เราอยากเรียกว่ามันเป็นความผิดทางกฏหมายเทคนิค อาจจะไม่ใช่ความผิดในลักษณะอาชญากร แต่ในเมื่อบ้านเมืองนี้มีกฏหมายเพื่อความถูกต้องของสังคมเราต้องมีหน้าที่ปฎิบัติตามในฐานะผู้บังคับใช้กฏหมาย และเป็นการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น ยังไม่ได้มีการชี้ถูก ชี้ผิดอย่างไร”

นายธาริต กล่าวว่า เป็นข้อกฎหมายพรรคการเมืองที่กำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะบริจาคเงินให้พรรคต้องมีการดำเนินการดังกล่าวเพื่อให้มีที่มา ที่ไปที่ถูกต้อง เบื้องต้นว่าเป็นเรื่องเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สมควรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้มีการพิสูจน์ความผิดความถูกที่ศาล ยืนยันว่าดีเอสไอทำตามหน้าที่ไม่ใช่ฝ่ายหาเรื่องหรือกลั่นแกล้งม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แต่อย่างใด

ทั้งนี้ ดีเอสไอแจ้งข้อหา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีทั้งหมด 48 คน โดยได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรายแรกไปแล้ว ส่วน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะเป็นรายที่สอง ขณะที่ ส.ส.เหลืออีก 46 คน จะเชิญมาหลังปิดประชุมสภาฯวันที่ 20 เม.ย.นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีบริจาคเงินตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป ไม่ทำเป็นเช็คขีดคร่อมระบุชื่อ

สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่า กทม.เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากมอบอำนาจให้สภาฯ หักบัญชีเงินเดือน ครั้งละ 20,000 บาท รวม 5 ครั้ง จำนวน 100,000บาท ขัดมาตรา 57 วรรค 2 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง2550 ที่กำหนดให้การบริจาคเงินเข้าพรรคการเมืองเกิน 20,000 บาท ต้องทำเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือเช็คขีดคร่อม เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินบริจาคได้ โดยมีโทษ ตามมาตรา 114 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 เท่าของเงินบริจาค หรือทั้งจำและปรับ และมีโทษเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี