กกต.กทม.รับสอบ
“ปู”ช่วย“จูดี้”
หาเสียงมิชอบในค่ายทหาร
“ชายหมู”เจอเพิ่มอีกกระทง
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) แถลงหลังประชุม กกต.กทม.เมื่อวันที่ 20มีนาคมว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) เข้ามายังกกต.กทม. นับตั้งแต่วันเลือกตั้งจนถึงขณะนี้ มีเรื่องร้องคัดค้านทั้งหมด 24 เรื่อง โดยไม่รับเป็นคำร้อง 12 เรื่อง ส่งให้กกต.กลางพิจารณาแล้ว 2 เรื่อง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กกต.กทม.ว่าจะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ 7 เรื่อง
ทั้งนี้ ที่ประชุม กกต.กทม.มีมติเอกฉันท์รับคำร้องคัดค้าน กรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ยื่นคำร้องขอให้กกต.กทม. ตรวจสอบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบช่วยพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย หาเสียงที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ดินแดง โดยขณะนี้กกต.กทม.อยู่ระหว่างประสานงาน ขอให้พยานซึ่งเป็นผู้บังคับการหน่วยมาชี้แจง แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่เชิญมาชี้แจงได้ เนื่องจากต้องได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาก่อน ซึ่งกกต.กทม. อาจเดินทางไปขอคำชี้แจงในหน่วยงานดังกล่าวเพื่อความสะดวกต่อพยาน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นการพิจารณาคำร้องนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเชิญนายกฯมาชี้แจง เนื่องจากกระบวนการและขั้นตอนยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องเชิญตัวนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงแต่อย่างใด
พล.ต.อ.ทวีศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม กกต.กทม. มีมติเป็นเอกฉันท์รับคำร้องที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหากับนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบการกระทำของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการเลือกตั้ง พร้อมด้วยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอิสสระ สมชัย และพล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เข้าข่ายกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57(5) ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2545 กรณีการให้ผู้แทนหรือหัวคะแนนปราศรัยจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจผิดในคะแนนนิยมอันเป็นคุณหรือโทษต่อพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อไทย
พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวต่อว่า กกต.กทม.ยังมีเวลาสืบสวนก่อนที่เสนอไปยังกกต.กลาง ภายในวันที่ 2 เมษายน เนื่องจากวันที่ 3 เมษายนจะครบกำหนดกรอบ 30 วัน ที่กกต.ต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ถ้ากกต.กลางเห็นว่าการทำงานของ กกต.กทม. เป็นไปด้วยความล่าช้า และเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็สามารถหยิบคำร้องคัดค้านดังกล่าวไปพิจารณาเองตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนและการวินิจฉัยชี้ชาด พ.ศ.2554 ได้
“แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ กกต.กทม.ถึงการสืบสวนสอบสวนคำร้องคัดค้านล่าช้า ขอชี้แจงว่า กกต.กทม.แต่ละคนมีประสบการณ์และพื้นฐานในการทำงานไม่เหมือนกัน จึงทำให้บางครั้งมติของ กกต.กทม.ไม่เป็นเอกฉันท์ จนบางครั้งต้องมีการโหวตกัน ซึ่งการพูดครั้งนี้ไม่ได้เป็นการนำความลับของสำนวนมาเปิดเผย แต่เป็นการพูดถึงการทำงานของ กกต.กทม.”พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าว
และว่า ทั้งนี้ตามระเบียบ กกต.กทม.มีเวลาพิจารณาเรื่องคำร้องคัดค้านภายใน 20 วัน ถ้าพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ สามารถขอขยายเวลาได้ 2 ครั้งๆละ 15 วัน ตนจะเร่งพิจารณาได้แล้วเสร็จ แต่ไม่รับประกันว่าคำร้องจะสามารถส่งกกต.กลางได้ทันวันที่ 2 เมษายนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีกระแสข่าวระบุวันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.ทวีศักดิ์จะลาออกจากประธาน กกต.กทม. พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวว่า ตำแหน่งประธาน กกต.กทม. ไม่มีคำว่าลาออก แต่มีการตกลงกันภายใน กกต.กทม.ว่าจะให้บุคคลใดมาทำหน้าที่เป็นประธาน กกต.กทม.โดยต้นเดือนเมษายนนี้จะให้นายสุพจน์ ไพบูลย์ กกต.กทม.มารับหน้าที่เป็นประธาน กกต.กทม.แทนตน ดังนั้น จึงไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะ กกต.กทม.แต่ละคน มีเสียงเท่านั้น ไม่มีใครเหนือกว่าใคร ส่วนที่มีข้อกังวลว่าเมื่อเปลี่ยนบุคคลที่จะมารับตำแหน่งประธาน กกต.กทม. แล้ว จะทำให้การพิจารณาเรื่องคำร้องคัดค้านมีรอยต่อนั้น ตนยืนยันว่าบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อจากตนคือ นายสุพจน์ ไพบูลย์ กกต.กทม.สามารถทำงานต่อได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี