23 พ.ค.56 น.พ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานบอร์ดองค์การเภสัชกรรมและรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดเผยถึงกรณีกรณีที่ บอร์ด อภ. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุติสัญญาจ้างน.พ.วิทิต อรรถเวชกุล เป็น ผอ.องค์การเภสัชกรรมว่า การปลด น.พ.วิทิต เป็นการส่งสัญญาณว่าการเมืองจะเข้าไปแทรกแซง ซึ่งองค์กรรัฐวิสาหกิจเป็นองค์กรธุรกิจต้องบริหารตามหลักบริหารธุรกิจ มีระบบธรรมาภิบาล แต่เมื่อการเมืองเข้าไปแทรก ระบบธรรมาภิบาลก็จะไม่เหลือ องค์กรก็จะเสื่อมไป และถูกทำลายและถูกฉกฉวยผลประโยชน์  โดยไม่ได้ทำเพื่อประชาชน ตามเจตนารมณ์ของการตั้งองค์กรอีกต่อไป

น.พ.วิชัย กล่าวว่า การปลดน.พ.วิทิตครั้งนี้ ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการสนองอำนาจทางการเมือง มีการร่นการประชุมเข้ามาเพื่อให้ทันกับที่รมว.สาธารณสุข จะไปต่างประเทศ และในการมีมติเลิกจ้างก็มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายประการ เท่าที่ทราบข่าวมาหลายคนถูกบังคับให้ต้องมาเข้าประชุม ทั้งที่มีภารกิจต้องไปต่างประเทศหรืออยู่ต่างจังหวัดและต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วย โดยไม่มีโอกาสได้ฟังข้อมูลต่างๆ เมื่อลงมติออกมาก็บอกว่าเลิกจ้างทันทีในวันที่ 17 พ.ค. 2556 แต่ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2556 ก็มีการออกคำสั่งใหม่ว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ เป็นลักษณะที่ลุกลี้ลุกลนไม่ได้เป็นไปตามเหตุผลที่ควรจะเป็น        
         
“ปัจจุบันความเกรงกลัวต่ออำนาจมีมาก จนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต้องออกมาพูดโกหกกับประชาชน ถูกบังคับก็บอกไม่ถูกบังคับ ถูกแทรกแซงก็บอกไม่ถูกแทรกแซงในหลายองค์กร นี่คืออำนาจที่มันรุนแรง”
             
ต่อข้อถาม กรณีที่ชมรมแพทย์ชนบทจะมีการชุมนุมที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรีโดยมีการนำผู้ป่วยโรคไตมาล้างไตในบริเวณดังกล่าวอาจไม่เหมาะสม น.พ.วิชัย กล่าวว่า ต้องพิจาณาต่อไป แต่ขอเรียนว่าในช่วงน้ำท่วมหลายคนไปล้างไตที่ศาลาวัด เพราะการล้างไตในปัจจุบันให้ล้างไตทางช่องท้อง พัฒนาการจนผู้ป่วยสามารถช่วยตนเองได้มาก
              
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในกรณีไม่ฉุกเฉินการเอาผู้ป่วยไปไว้ในสถานการณ์เช่นนั้น จะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงอันตรายเกินไปหรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาดู แต่จากการที่ตามข่าวไม่ได้เป็นการที่แพทย์ชนบทจะนำผู้ป่วยไป แต่เป็นการสมัครใจไปของผู้ป่วยโรคไตเอง เพราะผู้ป่วยที่ล้างไตได้อานิสงค์อย่างมากจาก อภ. เนื่องจากก่อนหน้านี้น้ำยาล้างไตราคายังสูง แต่น.พ.วิทิตมีส่วนต่อรองทำให้ราคาถูกที่สุดในโลก ทำให้ผู้ป่วยสามารถพึ่งตนเองได้มากขึ้น เข้าใจว่าผู้ป่วยต้องการแสดงออกทางสัญลักษณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะไปทำอะไรที่ไม่ชอบไม่ควร
             
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าสามารถทำได้เมื่อผู้ป่วยสมัครใจ นพ.วิชัย กล่าวว่า ทำได้ ความเห็นส่วนตัวเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความผิดปกติ แต่เป็นเรื่องการแสดงออกของภาคประชาชน