‘เอกยุทธ’หายตัวลึกลับ

หวั่นอุ้มฆ่า!

ญาติวิ่งโร่ร้องกองปราบ

พร้อมคนรถ-เงินสด5ล้านบาท

ตั้งปมไล่พนง.ออก-วิวาทโอเกะ

เผยคู่อริรบ.คดี‘ว.5โฟร์ซีซั่นส์’

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 มิถุนายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางอรุณี สุนทรภัทร อายุ 51 ปี น้องสาวของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 54 ปี นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง พร้อมด้วย นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ และ น.ส.วิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ธิติ เปฎะพันธุ์ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อประสานขอให้ตำรวจ บก.ป.ร่วมสืบสวนติดตามตัวนายเอกยุทธ ซึ่งหายตัวไป

อย่างลึกลับ พร้อมกับนายสันติภาพ เพ็งด้วง อายุ 25 ปี คนขับรถประจำตัวของนายเอกยุทธ โดยติดต่อไม่ได้ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นได้นำหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนและภาพถ่ายของผู้ต้องสงสัย มอบไว้ประกอบการพิจารณาดำเนินการ

นางอรุณี กล่าวว่า เมื่อช่วงสายของวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา นายเอกยุทธ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ถึงนางสุภากรณ์ แหวนหล่อ พี่สาวคนโต ว่าให้นำสมุดเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาทาวน์อินทาวน์ ไปให้กับพนักงานขับรถของบริษัท เพื่อนำไปให้นายเอกยุทธ เซ็นสั่งจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านบาท ที่ บริเวณประตู 8 สนามบินสุวรรณภูมิ แต่เมื่อเดินทางไปถึงจุดนัดพบกลับไม่พบนายเอกยุทธ มีเพียงรถตู้ ยี่ห้อโฟล์ค สีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณประตู 7

นางอรุณีกล่าวต่อว่า หลังจากพนักงานขับรถเดินไปพบ นายสันติภาพ คนขับรถประจำตัวของนายเอกยุทธ เป็นผู้มารับสมุดเช็ค โดยนายสันติภาพ อ้างว่าจะนำไปให้นายเอกยุทธ เซ็นสมุดเช็คเอง และขอให้พนักงานขับรถจอดรถรอที่จุดดังกล่าว กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 45 นาที นายสันติภาพ จึงนำเช็คที่มีลายเซ็นของนายเอกยุทธ ไปขึ้นเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาทาวน์อินทาวน์ โดยครั้งแรกเจ้าหน้าที่ธนาคารระบุว่าไม่สามารถขึ้นเงินได้เพราะมีการเซ็นข้อมูลเช็คผิด จากนั้นทางธนาคารจึงโทรศัพท์ติดต่อไปที่นายเอกยุทธ จึงมีการเบิกเงินจำนวน 5 ล้านบาท ออกมาได้

“ต่อมา พนักงานขับรถ ได้นำเงินที่เบิกมาเรียบร้อยแล้วไปยังจุดนัดหมาย ประตู 8 สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ก็ยังไม่ได้พบกับนายเอกยุทธ อีกเช่นเคย และมีนายสันติภาพ เป็นผู้รับเงินจำนวนดังกล่าวก่อนจะขับรถตู้ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนพนักงานขับรถก็กลับมาที่บริษัทหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อนายเอกยุทธได้อีก” น้องสาวของนายเอกยุทธ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับการหายตัวไปอย่างลึกลับของนายเอกยุทธนั้น ทางญาติพบว่าก่อนหน้านั้นนายเอกยุทธ ได้นัดรับประทานอาหารกับเพื่อน ที่ร้านอาหารกระแตย่านสะพานควาย เมื่อคืนวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา และสามารถติดต่อกับนายเอกยุทธทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายได้เมื่อช่วงค่ำวันที่7 มิถุนายน หลังจากนั้น ญาติได้เดินทางไปบ้านพักนายเอกยุทธ ย่านทาวน์อินทาวน์ก็พบว่าประตูไม้ด้านหลังบ้านถูกเปิดทิ้งไว้และเซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดถูกขโมยไป จึงรีบพากันไปแจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง เพื่อให้ช่วยตามหาตัวนายเอกยุทธ พร้อมทรัพย์สินที่ติดตัวไป ทั้งนาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ แหวนเพชร มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท รวมทั้ง พระสมเด็จที่ห้อยคอ และเงินที่พกติดตัวอีกประมาณ 1 แสนบาท

ขณะที่ นายสุวัฒน์กล่าวว่า ในส่วนของสาเหตุการหายตัวไปนั้นมีหลายประเด็นเพราะก่อนหน้านี้นายเอกยุทธ เพิ่งไล่พนักงานบริษัท 3 คน ออกจากงานไปเนื่องจากจับได้ว่าร่วมกันยักยอกเงินบริษัทกว่า 1 ล้านบาท ประเด็นต่อมาอาจเกิดจากความขัดแย้งระหว่างนายเอกยุทธ กับตำรวจเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งถูกออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธินกรณีทะเลาะวิวาทในร้านอาหารคาราโอเกะซิตี้ ย่านถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เมื่อเดือนธันวาคม 2555

ด้าน ร.ต.ท.ธิติกล่าวว่า ขณะนี้ ทาง พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1 บก.ป.ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ประสานข้อมูลร่วมกับทาง สน.วังทองหลาง และชุดสืบสวนกก.สส.บก.น.4 เพื่อเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในการติดตามตัวนายเอกยุทธ โดยทาง บก.ป.ไม่ได้รับแจ้งความ หรือลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานแต่อย่างใด เนื่องจากญาติของนายเอกยุทธ ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.วังทองหลาง แล้ว

มีรายงานว่า ทางญาติของนายเอกยุทธได้เข้าแจ้งความที่สน.วังทองหลาง ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ภายหลังนายเอกยุทธ ออกไปรับประทานอาหารกับเพื่อน ที่ร้านอาหารย่านสะพานควาย จากนั้นก็เริ่มมีข้อพิรุธ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่นายเอกยุทธ โทรศัพท์ไปถามที่ซ่อนกุญแจบ้านกับญาติ ซึ่งปกติก็ไม่เคยถาม กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 7 มิถุนายน ก็ไม่ไปตีกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อนตามที่ได้นัดหมายกันไว้

นอกจากนี้ยังมีกรณีที่สั่งให้คนขับรถที่บริษัท นำเอาสมุดเช็คไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ให้คนขับรถประจำตัวไปรับสมุดเช็คแทน พอเบิกเงิน 5 ล้านบาท มาได้แล้ว ก็หายตัวไปโดยติดต่อไม่ได้นับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ญาติจึงต้องเข้าแจ้งความเพราะเกรงว่า นายเอกยุทธจะตกอยู่ในอันตราย

สำหรับประวัติของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร หรือ จอร์จ ตัน นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ซึ่งต่อต้านรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยต้องคดีแชร์ชาร์เตอร์ และกบฏทหารนอกราชการ เมื่อ พ.ศ.2528 จนต้องหลบหนีคดีออกนอกประเทศ โดยเพิ่งจะเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากคดีหมดอายุความไปแล้ว

นายเอกยุทธ ยังเป็นผู้เปิดเผยกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปพบปะกับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือนายเศรษฐา ทวีสิน จนกลายเป็นกรณี ว.5โฟร์ซีซั่นส์ ที่อื้อฉาว โดยครั้งนั้น นายเอกยุทธระบุว่า ได้ถูกทำร้ายจากการ์ด ที่ติดตามนายกรัฐมนตรีด้วย จากนั้นก็มีกรณีอื้อฉาวในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ย่านถนนเลียบทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา เมื่อถูกกล่าวหาว่าใช้ให้ลูกน้องทำร้ายร่างกายพนักงานในร้านดังกล่าว จนมีการแจ้งความเป็นคดีและกำลังถูกพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ออกหมายเรียกในคดีให้การเท็จอีกด้วย