แห่ทวงสัญญา“ยิ่งลักษณ์”
หาเสียงกระชากค่าครองชีพ
จี้ให้เร่งลดค่าน้ำมัน-ไฟฟ้า
อาหารขึ้นราคารับแก๊สแพง
เมื่อวันที่ 3 กันยายน เวลา 10.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มตัวแทนสภาปฏิรูปพลังงานไทย และเครือข่ายภาคประชาชน อาทิ เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล เครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย ประมาณ 100 คน นำโดย พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส นักวิชาการอิสระเชี่ยวชาญด้านพลังงาน รวมตัวชุมนุมที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลโดยมีการปิดการจราจร 1 ช่องทาง
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือ ถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนขึ้นราคาพลังงานโดยหนังสือระบุว่า ก่อนการเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศจะกระชากค่าครองชีพ แต่วันนี้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น จากค่าไฟฟ้า ค่าเชื้อเพลิง รัฐบาลโยนภาระให้กับประชาชน อุ้มชูปิโตรเคมี ทำให้ประชาชนต้องแบกภาระจากการบริหารงานที่ขาดประสิทธิภาพ หมกเม็ดของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่สร้างโรงแยกก๊าซให้เพียงพอทั้งๆ จึงขอให้ดำเนินการตามนโยบายที่แถลงไว้ ทั้งการยกเลิกกองทุนน้ำมัน ลดราคาน้ำมันลง และหยุดขึ้นค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายน-ธันวาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เชิญชวนประชาชนให้ร่วมคัดค้านนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล โดยชูป้ายเขียนข้อความต่างๆ มีการแต่งกายด้วยการนุ่งกางเกงตัวเดียวเปรียบเทียบว่าขณะนี้กำลังหมดตัว รายรับไม่พอกับรายจ่าย และถือพวงหรีดมอบให้รัฐมนตรีพลังงาน นอกจากนี้ จะเดินทางไปยืนหนังสือต่อองค์กรสหประชาชาติ ในวันที่ 4 กันยายน เวลา 14.00 น.
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ เครือข่ายผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการขึ้นราคาก๊าซภาคครัวเรือน เตรียมเคลื่อนพลเข้าเมืองหลวง นำโดย นางนิตยาพร สุวรรณชิน เครือข่ายผู้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำมันแพง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในนามของเครือข่ายประชาชนเจ้าของพลังงานไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวของเครือข่ายและหน่วยงานกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ จะรวมตัวกันเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีใน 5 ประเด็น หรือ 5 ป. คือ “ปลด” รมว.พลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน และอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ, “เปิด” คือ ให้เปิดเผยสัญญาปิโตรเลียมทั้งหมดของรัฐและผลกระโยชน์ตอบแทนด้านพลังงาน, “ปัน” คือให้ประชาชน ชุมชนได้รับการแบ่งปันผลกระโยชน์ด้านพลังงาน, “ไป” คือ ให้ข้าราชการกระทรวงพลังงาน ลาออกจากการเป็นกรรมการในธุรกิจพลังงาน และ “เปลี่ยนแปลง” ระบบการสัมปทานการขุดเจาะน้ำมันให้เป็นระบบรัฐสวัสดิการ
ทั้งนี้เครือข่ายจะไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่หน้าสำนักงานของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ที่กรุงเทพฯ วันที่ 9 กันยายนนี้ และจะยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อพิจารณาให้การคุ้มครองชั่วคราวในการปรับขึ้นราคาค่าก๊าซด้วย
ส่วนที่ จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังรัฐบาลประกาศปรับขึ้นราคาก๊าชหุงต้มภาคครัวเรือนอีกกิโลกรัมละ 50 สต. ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนไปจนถึงสิ้นปีได้ส่งผลกระทบทั้งกับพ่อแม่ค้าที่ใช้ก๊าซหุงต้มในการประกอบอาหารขายและประชาชนทั่วไปอย่างถ้วนหน้า
โดยร้าน"น้ำเงินตามสั่ง"ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเปิดขายข้าวแกง และก๋วยเตี๋ยวราคาถูกจานละ 10-15 บาท มานานกว่า 15 ปี ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักเรียนนักศึกษา และประชาชนที่มีรายได้น้อยก็เตรียมปรับขึ้นราคาเพื่อความอยู่รอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี