20 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ค “สายตรงภาคสนาม” ได้โพสต์บทสัมภาษณ์ของ นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการและอดีตกรรมการใน คตส. ต่อกรณีการแปรญัตติในมาตรา 3 ของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ที่เป็นการช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายต้องคำพิพากษาศาลจำคุก 2 ปีในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาฯ และเชื่อว่าจุดมุ่งหมายต่อไปคือการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 309 ซึ่งจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณและบริวารพ้นข้อกล่าวที่ผ่านมาทั้งหมด
นายแก้วสรร กล่าวว่า รู้สึกเจ็บปวดมากในฐานะประชาชน เพราะสภาฯนี้มาออกกฎหมายให้พวกตนเองอยู่เหนือกฎหมาย มันทำให้ใครก็ตามที่โดน คตส.กล่าวหาตามข้อเท็จจริงนั้น กลายเป็นคนอยู่เหนือกฎหมายไป ทฤษฎี“ผลไม้พิษ” จากการรัฐประหารนั้นปฏิเสธการทำงานของ คตส. แต่ไม่ทำให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย ขณะที่กรณีนี้คดีที่พ.ต.ท.ทักษิณซุกหุนชินคอร์ปแล้วได้ประโยชน์โดยมิสมควรได้ก็ดี คดีที่คุณหญิงพจมานซื้อที่ดินรัชฎาก็ดี คดีที่คุณประชา มาลีนนท์ จัดการซื้อรถดับเพลิงกทม.หรือ คดีกรุงไทยที่บอร์ดธนาคารให้กู้โดยมิชอบ หรือคดีบ้านเอื้ออาทรที่แจกโควตาแล้วเรียกเงินฯลฯ เหล่านี้ เมื่อเอากฎหมายนิรโทษมาใช้กับคดีเหล่านี้ มันกลับทะลุซอยกลายเป็นการยกเว้นอำนาจกฎหมายปราบคอร์รัปชั่น มิให้นำมาใช้บังคับกับคนพวกนี้ในคดีเหล่านี้ไปตลอดกาล ดำเนินคดีใดๆ ต่อไปอีกไม่ได้เลย เป็นคนที่เหนือกฎหมายไปเลย
นายแก้วสรร กล่าวด้วยว่า การเพิ่มเติมคำว่า “การกระทำที่องค์กรอื่นกล่าวหาโดยสืบเนื่องจาก คดี คตส.ด้วย” ซึ่งมีแต่คดีหนีภาษีของชินวัตรที่กรมสรรพากรกล่าวหาสืบเนื่องจากสำนวน คตส. และคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ที่ ปปช.กล่าวหาพ.ต.ท.ทักษิณ ตามผลคำพิพากษายึดทรัพย์เท่านั้น นอกจากนี้ในมาตรา 4 เพิ่มเติมว่า“ให้องค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับกฎหมายนี้ไปปฏิบัติให้ชอบด้วยหลักนิติธรรมด้วย” หมายความว่าให้คลังรับผิดชอบหาทางคืนเงินที่ยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทกับพ.ต.ท.ทักษิณนั่นเอง
“แม้จะนิรโทษให้อย่างนี้ ก็อย่าเหลิงมาเรียกค่าเสียหาย เช่นค่าเสียหายจากการจับกุมคุมขังนะจะบอกให้ ร่างมาตรา 5 เดิมเป็นอย่างนี้ แต่พอแก้ไขกฎหมายเติมให้นิรโทษคดีคอรัปชั่นด้วยอย่างนี้แล้ว ก็มี กมธ.บริวารอีกคนหนึ่ง รับมาเสนอเพิ่มเติมจำกัดว่า บทตัดรอนสิทธิเช่นนี้ให้ใช้เฉพาะการนิรโทษคดีอาญาจากการชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น หมายความว่า ให้พ.ต.ท.ทักษิณมีสิทธิเรียกดอกเบี้ย เรียกความเสียหายจากการถูกยึดทรัพย์ด้วยนั่นเอง ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท นี่แหละที่มันฟ้องชัดเจนว่าการแก้ไขนิรโทษคดีคอรัปชั่นครั้งนี้ทำเพื่อนายใหญ่โดยเฉพาะเลย สมคบแบ่งงานกันเสนอทั้งหมด ตามรีโมตที่กดมาทั้งนั้น”
ข้อความคำให้สัมภาษณ์ของนายแก้วสรร
รายงาน...ร่างกฎหมายล้างผิดทรราชย์
แก้วสรร อติโพธิ กมธ.พิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรม
ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมกำลังกลายเป็นชนวนขยายความขัดแย้งให้กลายเป็นความรุนแรงทางการเมืองอย่างชัดเจนแล้ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการ และตามมติคณะกรรมาธิการก็มุ่งเปิดให้สื่อมวลชนช่วยรายงานโดยละเอียดด้วย ผมจึงขออาศัย”ไทยโพสต์” รายงานให้ท่านผู้สนใจได้ทราบความเป็นมาและแง่มุมต่างๆ ในทำนองปุจฉา – วิสัชนา โดยลำดับดังนี้
ร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ที่เสียงข้างมากในคณะกรรมาธิการแก้ไขแล้วครั้งล่าสุด
“มาตรา ๓ ให้บรรดาการกระทำทั้งหลายทั้งสิ้นของบุคคลหรือประชาชน ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมือง หรือความขัดแย้งทางการเมือง หรือที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ รวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมา ที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง
การกระทำตามวรรคหนึ่งไม่รวมถึงการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒”
( ความที่ขีดเส้นใต้ เสนอเพิ่มเติมโดยนายประยุทธ ศิริพาณิชย์ แล้วลงมติเห็นชอบ โดยกรรมาธิการจากพรรครัฐบาลทั้งหมด เมื่อ ๑๗ ตุลาคม ศกนี้ )
ถาม ทำไมอาจารย์ถึงเรียกร่างที่แก้ไขใหม่นี้ว่า ฉบับทะลุซอย
ตอบ ร่างนี้มีหลักการว่าจะนิรโทษกรรมการกระทำผิด ในการชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมือง คณะกรรมาธิการมาแก้ไขจนบานปลายออกไป ในสองเรื่องด้วยกัน ทั้งเรื่องความผิดทางการเมือง และเรื่องคดีคอร์รัปชั่นของระบอบทักษิณ
การนิรโทษความผิดทางการเมือง
ถาม ขอเรื่องความผิดทางการเมืองก่อน ครับ
ตอบ ร่างเดิม เขาพยายามจะเขียนครอบคลุมการกระทำที่เป็นผิดให้หมด แต่ตอบไม่ได้ว่าคดีขนอาวุธสงคราม ยิงระเบิดใส่วัดพระแก้ว ยิงทหารตาย มันเกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมหรือแสดงออกทางการเมืองที่ตรงไหน เนติบริกรของระบอบทักษิณจึงสั่งให้เติม การกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมืองลงไปด้วย อย่างที่เห็น
ถาม ครอบคลุมหมดทุกการกระทำ แล้วนิรโทษกรรมหมดทุกความผิดไหม
ตอบ เขานิรโทษหมดทุกความผิด ทั้งปล้น ฆ่า วางเพลิง ยิงระเบิด ก่อการร้าย ยุยงก่อความวุ่นวาย ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน นิรโทษหมด มีที่ยอมถอยเรื่องเดียวคือ เติมเป็นวรรคสองไว้ว่าไม่นิรโทษคดี ดูหมิ่นในหลวง ตามมาตรา ๑๑๒ เท่านั้น
ถาม คณะกรรมาธิการข้างน้อย เห็นค้านตรงไหน
ตอบ ก็ค้านไว้ว่า ไม่ควรนิรโทษความผิดกว้างไปถึงการก่อการร้ายทางการเมืองด้วย คดีปล้น ฆ่า วางเพลิง ยิงระเบิด พวกนี้มันไม่ใช่ ความผิดทางความคิดทางการเมือง มันเกินเลยเป็นอาชญากรรมไปแล้ว ความคิดความเชื่อทางการเมืองไม่ควรเป็นใบอนุญาตให้คนเราประกอบอาชญากรรมได้
ถาม พอลงมติแพ้ ก็ต้องสงวนไว้อภิปรายในสภาต่อไป
ตอบ เป็นเช่นนั้น ผมโผล่ไปสัมผัสแล้ว ขอรายงานว่า สภาสมัยนี้ไม่ฟังกันเลย ฝ่ายรัฐบาลก็เป็น “ฝ่ายยืนยัน”คือยืนลูกเดียวว่ากูจะเอาของกูอย่างนี้ ส่วนฝ่ายค้านก็เลยต้องเป็น”ฝ่ายสงวน”ไปตลอด
ถาม แล้วเรื่องคนตายจากปืนทหารว่าอย่างไร
ตอบ “ฝ่ายสงวน” ยืนอยู่แล้วว่าใครตายก็นิรโทษให้ไม่ได้ ส่วน “ฝ่ายยืนยัน” เขาให้หมดทุกความผิดและทุกฝ่าย
ถาม นิรโทษหมดอย่างนี้ มีปัญหารัฐธรรมนูญไหม
ตอบ ผู้คนเขามีสิทธิพื้นฐานในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน รัฐมีหน้าที่ต้องคุ้มครอง จะไปใช้อำนาจนิรโทษให้คนละเมิดสิทธิเขาได้อย่างไร
การนิรโทษความผิดคอร์รัปชั่น
ถาม ตรงไหนที่แก้ไขแล้วเป็นการนิรโทษคอรัปชั่น
ตอบ ตรงที่ระบุว่า “การกระทำของบุคคล ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำผิดโดยคณะบุคคลหรือองค์กรที่จัดตั้งขึ้นภายหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ รวมทั้งองค์กรหรือหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องต่อมา ที่เกิดขึ้นระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ไม่ว่าผู้กระทำจะได้กระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดนี้คือการระบุว่า บรรดาการกระทำต่างๆ ในคดีคอร์รัปชั่นกว่า ๑๖ คดี ของ คตส. ของบุคคลกว่า ๗๐ คน แม้จะเป็นผิดฐานคอร์รัปชั่นจริงก็ตาม ต้องกลายเป็นการกระทำที่อยู่เหนือกฎหมายไม่มีกฎหมายใดเอาผิดได้อีกต่อไป
ถาม ในฐานะที่เป็น คตส. เจ็บปวดไหมครับที่ถูกระบอบทักษิณเขาดัดหลัง ออกกฎหมายให้ ใครก็ตามที่ คตส.กล่าวหาสามารถพ้นผิดไปหมดอย่างนี้
ตอบ ผมเจ็บปวดในฐานะประชาชนมากกว่า ว่า สภามาออกกฎหมายให้พวกตนเองอยู่เหนือกฎหมายอย่างนี้ได้อย่างไร มันทำให้ใครที่ คตส.กล่าวหากลายเป็นคนเหนือกฎหมายไปเลยนะครับ
ถาม ก็คดีต่างๆที่ คตส.ทำมานั้นมันเป็น “ผลไม้พิษ” จากการรัฐประหารไม่ใช่หรือ
ตอบ ทฤษฎีนั้นปฏิเสธการทำงานของ คตส.เท่านั้น แต่ยังดีที่ไม่ทำให้ใครอยู่เหนือกฎหมาย ตามแนวทางนี้ คดีคุณทักษิณซุกหุนชินคอร์ปแล้วได้ประโยชน์โดยมิสมควรได้ก็ดี คดีที่คุณหญิงพจมานซื้อที่ดินรัชฎาก็ดี คดีที่คุณประชา มาลีนนท์ จัดการซื้อรถดับเพลิงกทม.หรือ คดีกรุงไทยที่บอร์ดธนาคารให้กู้โดยมิชอบ หรือคดีบ้านเอื้ออาทรที่แจกโควตาแล้วเรียกเงินฯลฯ เหล่านี้ ทฤษฎี”ผลไม้พิษ” จะเรียกร้องให้ดำเนินคดีใหม่ เท่านั้น แต่เมื่อระบอบทักษิณเอากฎหมายนิรโทษมาใช้กับคดีเหล่านี้ มันกลับทะลุซอยกลายเป็นการยกเว้นอำนาจกฎหมายปราบคอร์รัปชั่น มิให้นำมาใช้บังคับกับคนพวกนี้ในคดีเหล่านี้ไปตลอดกาล ดำเนินคดีใดๆ ต่อไปอีกไม่ได้เลย เป็นคนที่เหนือกฎหมายไปเลย
ถาม แล้วมันขัดกับรัฐธรรมนูญไหมครับ?
ตอบ ขัดแน่นอน...คนอื่นคอร์รัปชั่นก็ผิดกฎหมาย แต่คนพวกนี้ทำแล้วไม่ผิดกฎหมาย เหตุที่ไม่ผิดเพราะ คตส.ไปกล่าวหาเขา เขียนอย่างนี้พวกผมเหล่า คตส.กล่าวหาใครเมื่อใด ก็กลายเป็นนิติเหตุให้คนพวกนี้ทำอะไรไม่ผิดไปเลยได้อย่างไร ถ้าพวกผมทำงานไม่ถูกไม่เป็นธรรมก็ต้องเพิกถอนการดำเนินคดีที่ทำไปสิครับ ไม่ใช่มาถือโอกาสเขียนให้ไม่ผิดไปเลยอย่างนี้ คุณอ่านคำในร่างกฎหมายดูสิครับมันเสียดแทงใจไหม
“บรรดาการกระทำของบุคคลในคดีทั้งหลายที่ ถูก คตส.กล่าวหาว่ากระทำความผิด หากการกระทำนั้นผิดกฎหมาย ก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง “
อ่านแล้วเสียดไหม...
ถาม กฎหมายอะไร เขียนว่าหากใครทำผิดกฎหมายก็ให้พ้นผิด
ตอบ กฎหมายนิรโทษก็เขียนอย่างนี้ทั้งนั้นล่ะครับ แต่ที่ผ่านมาเขานิรโทษกันที่เหตุการณ์เช่น “บรรดาการกระทำในการชุมนุม ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ หากเป็นผิดกฎหมายก็ให้พ้นจากความผิดทั้งสิ้น” นิรโทษกันที่เหตุการณ์อย่างนี้อ่านแล้วมันไม่เสียดแทงใจ เป็นเรื่องความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านไปแล้ว สงบแล้วจริงๆ ก็นิรโทษได้ไม่ว่ากัน
แต่พอมานิรโทษให้บุคคลในคดีคอร์รัปชั่นอย่างนี้ มันกลายเป็นการยกคนกลุ่มหนึ่งให้อยู่เหนือกฎหมาย เหมือนออกใบอนุญาตให้คอร์รัปชั่นไปเลย อย่างนี้มันเลยไม่ใช่นิรโทษกรรมเหตุการณ์ขัดแย้งทางการเมืองอีกต่อไปแล้ว
ถาม ถ้าเป็นที่ปรึกษากฎหมายรับใช้คุณทักษิณ อาจารย์จะให้คำแนะนำเขาอย่างไร
ตอบ ก็ควรชี้ว่า น่าจะไปแก้รัฐธรรมนูญมาตรา ๓๐๙ ที่รับรองกฎหมายตั้ง คตส.ก่อน แล้วเติมบทเฉพาะกาลไปว่า การกระทำใดที่ คตส.กล่าวหาว่าคอร์รัปชั่นนั้น ต้องถูกนำไปดำเนินคดีใหม่ ด้วยองค์กรปกติ ถ้าอาศํยช่องทางอย่างนี้มันไม่ใช่การนิรโทษกรรม จะทำได้สบายกว่าเยอะ
ถาม ถ้ารับทำตามที่แนะนำอย่างนี้ กฎหมายนิรโทษก็เหลือแต่ปัญหาการกำหนดกรอบความผิดของคดีการเมืองที่เกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองเท่านั้นว่า จะยกเว้นความผิดฐานใดบ้าง
ตอบ ถูกต้องครับ ถ้ารู้จักแยกแยะใช้เครื่องมือทางกฎหมายให้ถูกต้อง คือใช้รัฐธรรมนูญเพิกถอนคดี คตส. และใช้กฎหมายนิรโทษยกเว้นการใช้กฎหมายในคดีการเมืองอย่างนี้ มันจะอ้างความชอบธรรมได้ดีกว่า มั่วๆนิรโทษมา จนกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน เกิดเป็นหลักกฎหมายใหม่ว่า “Thaksin can do no wrong” อย่างนี้วุ่นแน่
มุ่งช่วยทักษิณจนหางโผล่
ถาม ทำไมไปว่าว่า เขามุ่งช่วยทักษิณ คดี คตส.กล่าวหาผู้เกี่ยวข้องไว้หลายคดีหลายคน กว่า ๗๐ คนไม่ใช่หรือ
ตอบ หางมันโผล่ครับ...หางแรกก็โผล่ตรงที่ไปเขียนว่ารวมถึง “การกระทำที่องค์กรอื่นกล่าวหาโดยสืบเนื่องจาก คดี คตส.ด้วย” ซึ่งก็มีแต่กลุ่มคดีหนีภาษีของชินวัตรที่สรรพากรกล่าวหาสืบเนื่องจากสำนวน คตส. และคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ที่ ปปช.กล่าวหาคุณทักษิณ ตามผลคำพิพากษายึดทรัพย์เท่านั้น
ถาม หางที่สองคืออะไร
ตอบ โผล่ตรงมาตรา ๔ ที่เดิมระบุแต่เฉพาะว่าให้เลิกคดีอาญาเท่านั้น ไม่พูดถึงคดียึดยึดทรัพย์เลย แต่พอมาเติมให้นิรโทษคดีคอร์รัปชั่นของระบอบทักษิณด้วยแล้ว ก็มีปัญหาว่าคดียึดทรัพย์จะเลิกกันอย่างไร เขาก็แก้ไขแบ่งงานให้ กมธ.อีกคนหนึ่งโผล่มาเติมว่า “ ให้องค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับกฎหมายนี้ไปปฏิบัติให้ชอบด้วยหลักนิติธรรมด้วย” นั่นก็คือให้กระทรวงคลังรับผิดชอบหาทางคืนเงินที่ยึดไป ๔.๖ หมื่นล้าน ให้ทักษิณนั่นเอง แต่เขายังไม่กล้าเขียนตรงๆอย่างนี้ ได้แต่รับรองให้เป็นฐานไว้กว้างๆเท่านั้น
ถาม หางที่สามมีอีกหรือ
ตอบ คือที่มาตรา ๕ มีหลักตัดสิทธิไว้ว่า พวกคุณทั้งหลายแท้ที่จริงทำผิดกฎหมายนะ
แม้จะนิรโทษให้อย่างนี้ ก็อย่าเหลิงมาเรียกค่าเสียหาย เช่นค่าเสียหายจากการจับกุมคุมขังนะจะบอกให้ ร่างมาตรา ๕ เดิมเป็นอย่างนี้ แต่พอแก้ไขกฎหมายเติมให้นิรโทษคดีคอร์รัปชั่นด้วยอย่างนี้แล้ว ก็มี กมธ.บริวารอีกคนหนึ่ง รับมาเสนอเพิ่มเติมจำกัดว่า บทตัดรอนสิทธิเช่นนี้ให้ใช้เฉพาะการนิรโทษคดีอาญาจากการชุมนุมทางการเมืองเท่านั้น
ถาม เพิ่มอย่างนี้...มีผลอย่างไร
ตอบ ก็หมายความว่า ให้คุณทักษิณมีสิทธิเรียกดอกเบี้ย เรียกความเสียหายจากการถูกยึดทรัพย์ด้วยนั่นเอง ประมาณ ๑ หมื่นล้านบาทเห็นจะได้
หางทั้งสามนี่แหละครับ...ที่มันฟ้องชัดเจนว่าการแก้ไขนิรโทษคดีคอร์รัปชั่นครั้งนี้ทำเพื่อนายใหญ่โดยเฉพาะเลย สมคบแบ่งงานกันเสนอทั้งหมด ตามรีโมตที่กดมาทั้งนั้น
ความงี่เง่าที่ปรากฏ
ถาม การกระทำของคุณทักษิณและคณะ ที่เป็นคดีคอร์รัปชั่นให้ คตส.กล่าวหา เกิดขึ้นเมื่อใด
ตอบ ตั้งแต่ ๒๕๔๔ ก็เกิดขึ้นแล้วว่าซุกหุ้นแจ้งบัญชีเป็นเท็จ แล้วจากนั้นก็เกิดตามมาอีกหลายคดีเป็นระยะไป จนถึงปี ๒๕๔๙ คุณถามเรื่องนี้ทำไม
ถาม ก็ผมเห็นเขากำกับไว้ตอนท้ายว่า บรรดาการกระทำที่นิรโทษนั้นต้องเกิดระหว่างปี ๒๕๔๗ ถึงสิงหา ๒๕๕๖ เท่านั้น เมื่อวางกรอบไว้อย่างนี้คดีคอร์รัปชั่นของคุณทักษิณและคณะที่เกิดก่อน ปี ๒๕๔๗ ก็คงนิรโทษให้ไม่ได้ใช่ไหมครับ
ตอบ เออ..จริงของคุณแฮะ..ที่จริงนั้น กรอบ ๒๕๔๗ ถึงสิงหา ๒๕๕๖ นี้ คณะ กมธ.กำหนดขึ้นมาในช่วงคุยกันถึงการชุมนุมทางการเมืองเท่านั้นว่า ควรจะนิรโทษให้ในช่วงใด แต่พอข้างมากมาถูกสั่งให้ยัดคดีคอร์รัปชั่นลงไปในกฎหมายนิรโทษด้วย เขาก็เลยยัดแทรกเติมลงไปเลยในต้นมาตรา ๓ โดยไม่ได้ดูกรอบเวลาที่วางกำกับกันไว้ เรื่องมันเลยผิดพลาดไม่อาจใช้งานนิรโทษคดีคอร์รัปชั่นได้ทั้งหมด
ทั้งหมดนี้ถือเป็นความงี่เง่า ผิดพลาดอย่างน่าหัวเราะมาก นี่คงถูกสั่ง ถูกเร่งกันจนทำงานลวกๆไปหมด
ถาม แล้วเขาจะทำอย่างไร
ตอบ ก็คงกลับมติมาแก้ไขใหม่ แยกคดีชุมนุมทางการเมือง กับคดี คตส.ออกจากกันให้ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งก็คงหน้าไม่บาง..ทำกันได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
ประเทศชาติที่น่าสงสาร
ถาม ร่างกฎหมายอย่างนี้ คงเป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้ความขัดแย้งลุกโชนเป็นความรุนแรงได้
ตอบ แน่นอนครับ ทักษิณเขาพร้อมแลกอยู่แล้ว ผมเองได้ถามในที่ประชุมแล้วว่า บ้านเมืองจมน้ำ..ข้าวยากหมากแพง..เศรษฐกิจถดถอย..คดีเขาพระวิหารอาจจะระเบิดตูมอย่างนี้ พวกคุณยังเติมความขัดแย้งขนาดใหญ่อย่างนี้เข้ามาอีกได้อย่างไร ไม่สงสารบ้านเมืองบ้างหรือ...พวกเขาก็นิ่งไม่ตอบเลย
ถาม แสดงว่าเป็น ควายชัดๆ
ตอบ ถ้าแรงไป..ก็ให้เป็นแค่หุ่นยนตร์ของทักษิณแล้วกันครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี