25 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค แสดงความคิดเห็นต่อกรณีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สิ้นพระชนม์ ขยายเวลาไว้ทุกข์ของส่วนราชการจาก 15 วันเป็น 30 วัน โดยระบุว่าเป็นความโกหกหลอกลวงของสังคมไทย หน้าไหว้หลังหลอก ต้องการสร้างภาพว่ามีความโศกเศร้าอาลัย

“คนส่วนใหญ่ทีสุด รับทราบข่าวสังฆราชสิ้นพระชนม์ ในลักษณะปกติธรรมดา ไม่ได้มีอาการเศร้าโศกมากมายอะไร อย่างน้อยๆ เพราะรู้ว่า ทรงอยู่ในสภาพที่ชาวบ้านเรียกว่า "เป็นผัก" มานานแล้ว และต่อให้คนทีรู้สึกอะไรบ้าง อย่างมากทีสุด ก็ในลักษณะที "หมองเศร้า" ลงเล็กน้อย ตามประสา เห็นพระสูงอายุสิ้น ไม่ได้มากกว่านั้น”

"ให้ข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ แต่งไว้ทุกข์สังฆราช ก็ไม่ make sense ครับรัฐ หรือบุคคลากรระดับสูงของรัฐ (ตำแหน่งสังฆราชเป็นบุคคลากรรัฐอย่างหนึ่งในปริบทประเทศไทย) ไมใช่เจ้านาย หรือเจ้าเหนือหัว เหนือชีวิต ของคนทีทำงานกับรัฐครับ"

ข้อความที่นายสมศักดิ์โพสต์ลงเฟซบุ๊ค

ห่างจากประกาศแรกไม่ถึง 24 ชม. สงสัยรัฐบาลจะเห็นว่า เกิดความเศร้าโศกสลดอย่างใหญ่หลวงแทบจะสิ้นใจในหมู่ประชาชน จึงออกคำขอให้ขยายเวลาไว้ทุกข์สังฆราช จาก 15 วัน เป็น 30 วัน

หรือไม่ ก็อธิบายอีกอย่างได้ว่า รัฐไทยและวัฒนธรรมการเมืองทางการของรัฐนี้ ยังไม่เข้าสู่ความเป็นสมัยใหม่ ยังไม่เข้าใจ หรือรับไม่ได้ว่า การเศร้า เป็นเรืองส่วนบุคคล ไม่เกียวกับรัฐ

และในเมื่อ ความจริงคือ คนส่วนใหญ่ทีสุด รับทราบข่าวสังฆราชสิ้นพระชนม์ ในลักษณะปกติธรรมดา ไม่ได้มีอาการเศร้าโศกมากมายอะไร อย่างน้อยๆ เพราะรู้ว่า ทรงอยู่ในสภาพที่ชาวบ้านเรียกว่า "เป็นผัก" มานานแล้ว

และต่อให้คนทีรู้สึกอะไรบ้าง อย่างมากทีสุด ก็ในลักษณะที "หมองเศร้า" ลงเล็กน้อย ตามประสา เห็นพระสูงอายุสิ้น ไม่ได้มากกว่านั้น (คล้ายๆ ตอนที่ พระเพ็ชรัตน์ เสีย อะไรแบบนั้นนะ ผมว่า) ไม่ถึงขั้นมีความรู้สึก "เศร้าโศก" จริงๆ

แต่เพื่อรักษาความเป็นสังคมแบบตอแหล หน้าไหว้หลังหลอก ต้องการให้ "ภาพ" ออกมาว่า มีการเศร้าโศกใหญ่หลวง เลยต้องออกประกาศมาขอกัน

คือ ของจริง ไม่ได้ ก็ของให้ "ได้ภาพ" ก็แล้วกัน