'เหลิม'ซัด'เทือก'ผิดชงข้อหากบฏ กร้าวไม่เคารพอำนาจศาลรธน.
วันเสาร์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556, 19.09 น.
Tag :
เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน แถลงสถานการณ์ทางการเมืองว่า การที่ตนมาช่วยดูแลสถานการณ์การชุมนุม นั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่ได้มอบหมายอย่างเป็นทางการ แต่เนื่องจากมีผู้ใหญ่บางท่านเห็นว่าตนสนิทกับได้ทำงานกับตำรวจเยอะเท่านั้น จึงเห็นว่าน่าจะสามรถที่จะประสานแนะนำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้ ทั้งนี้ตนไม่ได้มีอำนาจสั่งการใดๆ ตนเป็นเพียงแค่คนที่อาสาเข้ามาช่วยทำงานเท่านั้น และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านไม่ได้สั่งให้ช่วย สำหรับการทำงานของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ท่านคือคนที่ดูแลตำรวจมีอำนาจสั่งการได้ และตนไม่ได้ไปทำงานยุ่งเกี่ยว เพราะมีหน้าที่เพียงแค่เรียกน้องๆ ตำรวจที่รักกันมาพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์ วันนี้ก็เรียก พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ชลบุรี มาคุยเพราะมีข่าวว่าจะมีการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานใน จ.ชลบุรี มาร่วมชุมนุมจึงต้องตรวจสอบ ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รู้สึกไม่ปลอดภัยที่มีตำรวจ 4 นายตามประกบนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่แต่หวังดี ผิดด้วยหรือที่ขอร้องให้นายตำรวจ 4 นายไปดูแลเวลาที่นายสุเทพเคลื่อนไหว หากไม่ต้องการตำรวจก็จะไม่ดูแล
“หลังจากนี้ผมจะไปขอใบมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อฟ้องนายสุเทพในข้อหาหมิ่นประมาท ที่ปราศรัยใส่ร้ายถึงขั้นจะเนรเทศนายกรัฐมนตรีและตระกูลชินวัตร ออกนอกประเทศ ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน ไล่ไม่ได้ เพราะเป็นคนไทยมาตั้งแต่เกิด และไม่มีใครกลัวใคร ขอยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ยุบสภา ไม่ลาออก หากใครทำ ผมและ สส.เพื่อไทย จะประท้วง และจะไม่ยอม การที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายสุเทพ เป็นแกนนำ แสดงว่าไม่มีเบี้ยที่จะเล่น และต้องถูกเช็คบิลแน่ ขอบอกเลยว่า พรรคประชาธิปัตย์หวังให้เกิดเหตุการณ์ทางการเมือง เกิดการซ้ำรอบทางการเมือง รัฐบาลยืยันว่าจะไม่มีงูเห่าย้ายขั้วไปร่วมกับ ปชป. ตั้งรัฐบาลแน่นอน แม้แต่สุนัขเฝ้าพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ยอมเข้าร่วม ส่วนกรณีที่พรรค ปชป.ขอขยายเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็น 3 วัน ถ้ามีข้อมูลเด็ด 3 ชั่วโมงก็พอแล้ว และรัฐบาลจะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวการชุมนุม การกล่าวบนเวทีปราศรัยของนายสุเทพนั้น ตอนนี้ถือว่าทำความผิดฐานเป็นกบฏ เนื่องจากผิดตามข้อกฎหมายม.113 ที่ว่าด้วย ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อ(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 24 พ.ย. สิ่งที่ตนกลัวมากที่สุดคือมือที่สาม ที่พูดไม่ได้ขู่ แต่ถ้าเกิดมีใครโยนระเบิด 3 ลูกเข้าไปและมีคนตาย 300 คน จะทำยังไง ถ้าเกิดขึ้นจริงยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือตำรวจ ทหารและรัฐบาลเด็ดขาด เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง เพศแม่ ไม่มีใจอำมหิต ส่วนกรณีที่ม็อบจะเคลื่อนขบวนไปบนถนน 12 เส้นทาง จะไม่ยอมให้มีการยึดทำเนียบฯ หรือปิดสนามบิน ส่วนการประชุมครม.ในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย. นี้ ยังไม่มีการหาสถานที่ประชุมสำรอง และเชื่อว่าสถานการณ์ยังคงไม่ถึงขั้นนั้น และยืนยันว่าจะไม่มีการสลายการชุมนุมในเวลากลางคืน จะไม่ใช้กระสุนจริงอย่างแน่นอน
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. เป็นโมฆะ ว่า พวกตนมีสิทธิ์ที่จะไม่เชื่อถือ ไม่เคารพ และไม่รับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ตนไม่กลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อม จากนี้ต่อไปศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนเวลาไปเมืองนอกต้องเอาปี๊บคลุมหัวเพราะคำว่าสภาผัวเมีย ภาษากฎหมายไม่ใช้กันแสดงว่าดูทีวีช่องบลูสกายกันมาก แล้วจะให้พวกตนยอมรับคำตัดสินได้อย่างไร สำหรับกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนความผิดประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา สส.และ สว. 312 คน ว่า ตามปกติคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาจะต้องเขียนเป็นคำพิพากษารวมและพิพากษารายบุคคล หลังจากนั้นเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องส่งคำพิพากษาทั้งหมดมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา จึงจะมีผลบังคับใช้สมบูรณ์ตามกฎหมายและมีผลผูกพันกับทุกองค์กร ทาง ปปช.จึงจะหยิบมาพิจารณาได้ แต่ขณะนี้ ปปช.ระริกระรี้จะพิจารณาให้เสร็จภายใน 72 ชั่วโมง ทั้งที่เคยแถลงว่ามีคดีสำคัญค้างอยู่กว่า 2 หมื่นคดี