8 ธ.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแหล่งประเทศไทยว่า นับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.2556 ที่มีสถานการณ์ความขัดแย้งจนทำให้ประเทศตกอยู่ในขั้นวิกฤต รัฐบาลต้องขอแสดงความเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่ทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนและไม่สบายใจ รัฐบาลได้พยายามอย่ายิ่งที่จะป้องกันเหตุรุนแรงต่างๆ รวมทั้งเปิดเวทีรับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุมทุกเมื่อ แต่การตั้งสภาประชาชนหรือการขอนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ตามข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ไม่มีบทบัญญัติใดภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมายใดรองรับ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะยุบสภา หากเป็นความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมาย กล่าวคือเมื่อยุบสภาก็ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 60 วันตามที่กฎหมายกำหนด แต่หากผู้ชุมนุมและพรรคการเมืองใหญ่ไม่ตอบรับ หรือไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ก็จะเป็นพียงการยืดเวลาของความขัดแย้งออกไป เช่นเดียวกับความวุ่นวายในปี 2549 ที่มีพรรคการเมืองบอยคอตไม่ลงสมัคร ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง นำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลเสนอให้มีเวทีหารือถึงข้อเสนอของผู้ชุมนุม หากยังขัดแย้งกันจนหาข้อยุติที่ตรงกันไม่ได้ ก็ขอเสนอให้ทำประชามติ เพื่อให้เสียงส่วนใหญ่ของประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ พร้อมทั้งสรุปแนวทางการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และเกิดฉันทามติของทุกพรรคการเมือง ผู้ชุมนุม และทุกภาคส่วน ให้ยอมรับผลการตัดสินใจของประชาชนตามกติกา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้หมดสิ้นไปอย่างแท้จริง

“ข้อเสนอของคุณสุเทพที่ยืนยันมาตลอดว่า ยุบสภาหรือลาออกก็ไม่เอา แต่ต้องการคืนอำนาจให้ประชาชน โดยไม่มีการเลือกตั้ง ถือเป็นสิ่งใหญ่ที่จะยังไม่มีข้อยุติ ว่าเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ หากจะเสนอให้ดำเนินการ น่าจะต้องถามความเห็นประชาชนก่อน ว่าเป็นความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ของประเทศจริงหรือไม่ ด้วยการทำประชามติ ซึ่งเป็นวิธีที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ อยากเห็นทุกคนหันหน้าเข้าหากันแก้ไขปัญหาประเทศ สำหรับในวันที่ 9 ธ.ค.2556 นี้ รัฐบาลยินดีรับฟังข้อเสนอของผู้ชุมนุมมาพิจารณา และหาทางออกร่วมกัน เพื่อที่จะไม่มีใครแพ้ แต่ทุกคนรวมถึงประเทศเป็นผู้ชนะด้วยกัน”

คำแถลงการณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม