11 ม.ค.57 นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวถึงกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่าน แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ประเด็น Mega Projects ของรัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และมีตนเอง และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งรับผิดชอบโดยตรง
โดยนายปลอดประสพ ระบุว่า การแสดงความคิดเห็นส่วนตัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่าน นั่น ไม่ใช่ภาระหน้าที่ และหวังว่า จะไม่ใช่คำพิพากษา และคิดว่านี่อาจเป็นพัฒนาการของขบวนการตุลาภิวัฒน์ ที่เริ่มคืบคลานมาในรูปแบบรัฐประหารเงียบหรือไม่
นายปลอดประสพ โพสต์ข้อความไว้ดังนี้
ข้อ ซัก สอน ของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ( บางท่าน ) หวังว่า คงไม่ใช่คำพิพากษานะครับ
ผม และดร.ชัชชาติ เรียกได้ว่าเป็น Technocrats ที่เป็นรัฐมนตรีรับผิดชอบ Mega Projects ผมด้านน้ำ ดร.ชัชชาติ ด้านคมนาคมขนส่ง ตอนนี้ผมเบาลงหน่อย เพราะศาลปกครองสูงสุด ท่านอาจยกคำร้อง แต่ท่านก็เร่งให้ทำเรื่องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนให้เสร็จ (เหลืออีก 3 จังหวัด) แต่ ดร.ชัชชาติ โดนสอบ (สอน) หนักหน่อย บางเรื่องผมว่าไม่ใช่ภาระหน้าที่ หรือกงการอะไรของท่าน ทำให้ผม (บังอาจ ) คิดว่าหรือนี่เป็นพัฒนาการของขบวนการตุลาภิวัฒน์ ที่เริ่มคืบคลานมาในรูปแบบรัฐประหารเงียบ (ผมก็ฟังจากคนอื่นมา) ไปแล้วหรือเปล่า
ท่านหนึ่งรำพึงว่า ค่าโดยสารรถไฟคงเพิ่มตามความเร็ว ชาวบ้านจะขนผัก ขนหญ้าต้นทุนมิแพงไปหรือ (OK รับได้ครับ) ท่านว่าระบบซอฟต์แวร์ ยังกำหนดไม่ได้ว่าจะใช้ของใคร (ท่านเป็นกรรมการกำหนดนโยบายจัดซื้อจัดจ้างหรือครับ) ท่านกล่าวหาว่าทำผิดแล้วผิดอีก เอาเควอร์เตอร์เกาหลีเข้ามา ญี่ปุ่น จีนเข้ามาเต็มเลย (ท่านแนะนำเลยดีกว่าครับ ว่าจะเอาใคร) ท่านบ่นว่า หากทำเฉพาะรางคู่จะเห็นด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งตรงนี้ ผมว่าท่านพูดเกินไป ท่านนั่งเพราะเป็นหน้าที่ครับ และรับเงินเดือนด้วย
ที่แย่หน่อย ( ขอโทษรับไม่ได้จริงๆ ) ท่านขอ “ออกความเห็นส่วนตัว” (ทำได้ด้วยหรือ หรือมันควรทำไหมครับ) ว่ารถไฟความเร็วสูง มันไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทย เมืองไทยยังไม่พร้อม เอ ผมแปลกใจว่านี่ท่านพิจารณาไปแล้วหรือครับนี่ (พร้อมหรือไม่พร้อม ก็ยังไม่ปรากฎหลักฐาน แต่ผมคิดถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช (รัชการที่ 5) ทรงเล็งเห็นประโยชน์ จึงพระราชทานรถไฟให้ประชาชนสยามเมื่อประมาณ 125 ปีก่อน ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าคนไทยพร้อมหรือยัง แต่ประชาชนก็ได้ประโยชน์จากรถไฟมานานแล้วจวบจนปัจจุบัน) และท่านตุลาการ ยังพยากรณ์ต่อไปอีกว่า คุณชัชชาติ ต่อไปคุณก็จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ต่อ ยุ่งล่ะสิครับ ตกลงจะเป็นหมอดู เป็นเพื่อนคุณสุเทพ หรือเป็นหัวหน้าคณะอะไรสักอย่างหรือเปล่าครับ ถึงกำหนดตัวรัฐมนตรีได้ (นี่ล่ะครับที่เขาคุยกันให้แซดทั่วบ้านทั่วเมืองเรื่องรัฐประหารเงียบ)
อีกท่านมาอีกแบบ แนะให้พิจารณาการร่วมทุนและให้สัมปทานกับเอกชน ( ดีนะที่ยังไม่แนะนำชื่อ ) ท่านยังเตือนรัฐบาลให้คิดถึงแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพราะท่านเห็นว่าการกู้เงินไม่สอดคล้องกับหลักการเศรษฐกิจพอเพียง ท่านครับ ท่านเคยได้ยินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงรับสั่งเรื่องยอมขาดทุน เพื่อกำไรบ้างไหม ผมขอยกพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 มีใจความตอนหนึ่งว่า “ถ้าอยากให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ก็ต้องลงทุน ต้องสร้างโครงการซึ่งต้องใช้เงินเป็นร้อย พัน หมื่น ล้าน ถ้าทำไปเป็นการจ่ายเงินของรัฐบาล แต่ในไม่ช้าประชาชนจะได้รับผล ราษฎรอยู่ดีกินดีขึ้น ราษฎรได้กำไรไป ถ้าราษฎรมีรายได้ รัฐบาลก็เก็บภาษีได้สะดวก เพื่อให้รัฐบาลได้ทำโครงการต่อไป เพื่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ ถ้ารู้รักสามัคคี รู้ว่าการเสียคือการได้ ประเทศชาติก็จะก้าวหน้า และการที่คนอยู่ดีมีสุขนั้น เป็นการนับที่เป็นมูลค่าเงินไม่ได้”
ผมเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงในระดับประเทศ ระดับบริษัทขนาดใหญ่ ของผู้มีอันจะกินและของเกษตรกรจะต่างกันตามมิตินะครับ (ลองอ่าน บทความจากสถาบันไทยพัฒน์ มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดูครับ http://faq.sufficiencyeconomy.com/2006/10/blog-post_17.html )
ท่านผู้อาวุโสทั้งหลายครับ ( ที่จริงผมก็อาวุโสนะ ) เมื่อวันเฉลิม ฯ มีพระราชดำรัสว่า ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ของตน พวกเราน้อมรับพระราชกระแสไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเถอะ อะไรเป็นเรื่องนิติบัญญัติก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสภา อะไรเป็นเรื่องของการบริหารก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล สำหรับเรื่องคดี ความถูกต้อง ความเป็นธรรม ภาคตุลาการ ก็ทำให้เต็มที่บ้านเมืองจะได้เป็นสุขครับ
อาจารย์ชัชชาติที่รัก สู้ต่อไปครับ ผมเชื่อในความรู้ความสามารถ เชื่อในความตั้งใจของท่าน บิดามารดาของเราสอนให้เราเป็นคนดี มีความมั่นคงซื่อตรงต่อชาติแผ่นดินและพระมหากษัตริย์เจ้า เราต้องยืนหยัดให้ได้
ก่อนหน้านี้ แนวหน้าออนไลน์ เสนอข่าว ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA แถลงโต้กรณี นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้ให้ความเห็นส่วนตัวใระหว่างการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญถึงการกู้เงิน ว่ายังไม่จำเป็น โดยระบุว่า รถไฟความเร็วสูงยังไม่จำเป็นสำหรับไทย และเป็นไปได้ควรให้ถนนลูกรังหมดไปจากประเทศก่อนนั้น ดร.โสภณ ระบุว่า แสดงให้เห็นว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่จะพิพากษา และอาจถือเป็นอคติส่วนตัว จึงอาจนำไปสู่การพิพากษาผิดพลาดได้
อ่านข่าว AREAแถลงโต้'สุพจน์'ปล่อยไก่'กู้เงิน' ทำตุลาการฯขายหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี