“ขงจื้อ” เป็นปรัชญาเมธีจีนผู้มีความคิดอันแยบคาย
เคยมีผู้คนจำนวนมากถามขงจื้อว่าทำไมท่านจึงได้คิดอะไรได้มากมายนัก ขงจื้อตอบคนเหล่านั้นว่า..ข้าพเจ้าคิดอะไรได้เพียงสองอย่างเท่านั้นเอง อย่างหนึ่งก็คือคิดสิ่งนั้นออกไปและอย่างที่สองก็คือคิดสิ่งนั้นกลับมา จากนั้นก็คิดกลับไปกลับมา ทบทวนอยู่เช่นนี้จนกระทั่งได้คำถามคำตอบเรื่องราวหลายๆ อย่างต่างๆ พรั่งพรูตามมาอย่างไม่รู้หมดสิ้น
นั่นคือวาทะและความคิดอันล้ำลึกของขงจื้อที่ได้ตอบกับมวลมหาประชาชนจีนเมื่อหลายพันปีก่อนโน้น ความคิดส่วนใหญ่ล้วนเป็นคำสอนและปรัชญาอันทรงคุณค่า
“ขงเบ้ง” เป็นนักการทหารระดับเสนาธิการของเล่าปี่ ผู้มีความคิดและกลอุบายอันแยบคายชนิดลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจากขงจื้อแม้ว่าลูกไม้นี้จะเกิดจากต้นไม้พืชพันธุ์เดียวกันห่างกันหลายยุคหลายสมัยก็ตาม ความคิดของขงเบ้งมีความหลักแหลมในเรื่องยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในด้านการทหารหลากหลาย
ความคิดต่างๆล้วนแล้วแต่เป็นยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่เฉียบคมทั้งสิ้น ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ วิธีการด้านส่งกำลังบำรุง (Logistics) โดยการจัดหายุทโธปกรณ์เกาทัณฑ์ให้ได้จำนวนมากที่สุดภายใน 10 วันโดยการคิดอย่างยุทธศาสตร์คือลงทุนน้อยที่สุด ด้วยการใช้ทรัพยากรการลงทุนที่น้อยที่สุด ในวิธีการที่ดีที่สุด (The best way)
จิวยี่ต้องการได้เกาทัณฑ์ (ลูกธนู) จำนวนสิบหมื่นดอก (ภายในเรื่องสามก๊กเขียนไว้อย่างนี้จริงๆบังเอิญเป็นภาษาเดียวกับนางมารยิ่งลักษณ์ใช้) ภายในเวลา 3 วันโดยไม่ต้องทำเอง ขงเบ้งจึงวางแผนด้วยการใช้กลอุบายแต่งเรือรบ 20 ลำและทหารทำด้วยหุ่นฟางบรรทุกไปในเรือ
ในสภาวะอากาศที่หมอกลงจัดไม่สามารถมองเห็นตัวแต่ละฝ่ายได้ถนัด ข้างฝ่ายโจโฉกลัวว่าจิวยี่จะตีกระหนาบ จึงสั่งให้เรือรบเพียงเข้าประจันและยั้งเรือรบของขงเบ้งไว้เท่านั้น โดยให้ทหารระดมยิงเกาทัณฑ์ออกไปดังห่าฝน ผลก็คือเกาทัณฑ์ทั้งหมดมากกว่าสิบหมื่นดอกด้วยซ้ำติดตามตัวทหารหุ่นฟางทุกตัวที่อยู่บนเรือ ขงเบ้งกระทำการตามแผนยุทธศาสตร์โดยใช้วิธีการทางยุทธวิธี สำเร็จผลความต้องการทางการส่งกำลังบำรุง
เรียบร้อยโรงเรียนจีนจริงๆ
ในอดีตที่ผ่านมา ยุคสมัยปราบปรามการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสด์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ (จิ๋ว หวานเจี๊ยบ) ผู้มีบทบาทสำคัญกับนโยบาย 66/23 อันโด่งดังจนกระทั่งถูกยกย่องให้เป็น “ขงเบ้งแห่งกองทัพบก” จิ๋ว หวานเจี๊ยบ ได้ซึมซับรับเอาความคิดของประเสริฐ ทรัพย์สุนทร คอมมิวนิสด์ตัวเอ้มาใช้ความคิดเชิงประยุกต์ (Apply thinking) จนกระทั่งเกิดนโยบายดังได้กล่าวมาแล้วซึ่งนโยบาย 66/23 นั้นใช้ได้ผลระยะหนึ่ง ในสมัยที่มีการรุกรานจากลัทธิคอมมิวนิสด์เท่านั้น
หลังจากนั้นมาก็ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของขงเบ้งแห่งกองทัพบกผู้นี้ ค่อยๆ เตี้ยลงสาละวัน และค่อยๆหมดไป จากพฤติกรรมความเสื่อมหลายๆ อย่าง หลายๆ ประการของจิ๋ว หวานเจี๊ยบนั่นเอง จนกระทั่งในที่สุดแล้วปัจจุบัน ชื่อเสียงของขงเบ้งแห่งกองทัพบกก็ไม่ได้รับการยกย่องให้ดำรงอยู่ในสังคมสื่อทุกประเภทอีกต่อไป หลังปลดเกษียณจากวงการทหารเข้าสู่วงการเมืองเป็นนายกรัฐมนตรี “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ได้สร้างจุดตกต่ำให้จิ๋ว หวานเจี๊ยบ จนกระทั่งวาระสุดท้ายมาถึง เขาไม่ได้รับการยอมรับใดๆ จากผู้ที่เคยศรัทธายกย่องเขามาก่อนอีกเลย
จากฉายา “ขงเบ้งแห่งกองทัพบก”ผู้เกรียงไกร กลับกลายเป็น “จิ๋ว อัลไซเมอร์” จอมพร่ำเพ้อผู้ไม่รู้เรื่องราวอะไรไปในที่สุด
“ขงเบ้งแห่งกองทัพบก” นั้นความจริงแล้วไม่เคยหมดไปจากกองทัพไทยเรา ปัจจุบันผู้ที่ก้าวเข้ามาแทนที่ในตำแหน่งขงเบ้งแห่งกองทัพบกตัวจริงเสียงจริงยิ่งเสียกว่าจิ๋ว หวานเจี๊ยบ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองทัพบก ด้วยนโยบายและยุทธศาสตร์ยุทธวิธีการดำเนินกลยุทธในด้านการเมือง-การทหารอย่างลึกซึ้งและลึกล้ำ ทำประหนึ่งคุณหนูผู้ไม่รู้ประสีประสาทางการเมือง
ต้องใช้ทั้งขันติความอดทนอดกลั้นทุกอย่างในมาตรการลับ-ลวง-พราง ประหนึ่งว่าเขาไม่เป็นข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย ระหว่างทักษิณจอมหินแห่งดูไบและมวลมหาประชาชนของกำนันสุเทพ พฤติกรรมดังกล่าวนี้ได้ถูกมรสุมมวลมหาประชาชนกระหน่ำด่ากราดมาโดยตลอดว่าเขาเป็นดังเช่นที่ “คลิปถั่งเช่า” ได้เล่าไว้ทุกอย่าง เขาเป็นองคุลีมาลรับใช้ทักษิณ กินสินบาทฟาดสินบนทักษิณ มีบ้านที่อังกฤษที่แม้วซื้อให้ มีความสนิทที่จะรับปูเป็นสนม ฯลฯ
การมองสถานการณ์เดินหมากการเมือง-การทหารด้วยความอดทนอดกลั้นอย่างเงียบสงบเฉียบคม (ฟิวส์ขาดเหมือนกันเป็นบางครั้งบางคราว) พยายามไม่ปะทะคารมกับใครๆ คำสั่งการไม่ให้ทหารแต่งเครื่องแบบมาทำงานหลังจากที่เขาได้แสดงจุดยืนผ่าน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 น้องชายอย่างเต็มตัวแล้ว
เป็นความสำเร็จที่ล้ำลึกเสมือนหนึ่ง ลับ-ลวง-พราง การไม่ตอบรับเต็มตัวเรื่องไหนและปฏิเสธเต็มกลืนเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องกับคู่อริทั้งสองฝ่าย โดยมุ่งประสงค์แต่เพียงการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวทั้งนกหวีด นกเขา นกแก้วและนกแสกในทางการเมืองคือ
1.เรื่องลับ–ลวง–พราง กับ กปปส. เรื่องการร่วมมือมาทำงานหรือไม่มาทำงาน
2.เรื่องไม่ลับ-ไม่ลวง-แต่พราง โดยการยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างมีนัยสำคัญในปฏิบัติการเชิงรุก
3.เรื่องลับ–ลวง–พราง เรื่องการไม่แต่งเครื่องแบบมาทำงาน โดยไม่ถูกคนแดงเดือดในระบอบทักษิณลอบทำร้ายให้เสียเกียรติภูมิเพราะข้อ 2
4.เรื่องลับ–ลวง–พราง แกล้งโง่ทำมองไม่เห็นลูกน้อง ให้ทหารอยู่ท่ามกลางผู้ชุมนุมประชาชนนอกเวลาราชการโดยไม่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญใดๆ
ผมอยากให้มวลมหาประชาชนคนไทยทั้งหลายมองสถานการณ์การเมืองอย่างกระจ่างชัด ว่าเวลานี้รัฐนาวาของไทยมีคนยืนถือหางเสือไม่ปรากฏตัวชัดแจ้งชื่อประยุทธ์ มีคนเป็นกัปตันเรือชื่อสุเทพ มีฝีพายทั้งหมดใต้ท้องเรือประจัญบาน คือมวลมหาประชาชนทั้งหลายที่อาสาช่วยกันพายตามที่สุเทพสั่ง ส่วนโจรสลัดผู้ร้ายบนเรือได้แก่นางมารร้ายยิ่งลักษณ์ , ปึ้ง , เป็ดเหลิม , เสี่ยอ๋อย , ภูมิธรรม , ประชา พรหมนอก และปลอดเป็นศพ ที่พยายามยึดเรือของมวลมหาประชาชนไว้ต่อไป ตามคำสั่งของหัวหน้าโจรสลัดโรคจิตที่นครดูไบ
หากระบอบทักษิณดันทุรังหน้าด้านสุดๆ อึดไว้ไม่ได้จริงๆ มันก็ได้เตรียมแผนสองสำรองไว้แล้วคือใช้ “ภูเขาน้ำแข็ง” เข้าชนเรือไททานิกให้พลิกอัปปางลงสู่ใต้มหาสมุทร ในทันทีที่นายห้างหน้าเหลี่ยมสั่ง
สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ อาจจะไม่เหมือนกับตอนที่ขงเบ้งวางแผนกลอุบายไปเอาเกาทัณฑ์จากโจโฉ เพราะหมอกไม่ได้ลงจัดหนาทึบ สามารถมองเห็นภูเขาน้ำแข็งได้ชัดเจนว่าลอยมาทางใด และกัปตันกับคนถือหางเสือเรือ คือเทพ “ขงจื้อ” และตู่ “ขงเบ้ง” จะหลบได้อย่างไร ดังนั้นรับประกันได้ว่า เรื่องเจ๊งทูเจ๊งแบบขายข้าวจีทูจีหรือเจี๊ยะทูเจี๊ยะจะไม่มีเด็ดขาด งานนี้สุเทพบอกว่ามีแต่คำว่าชนะลูกเดียวเท่านั้น
“เดินหน้าเต็มตัวไม่มีถอย” คือคำสั่งลับอันเฉียบขาดของกัปตันตู่ แห่งเรือประจัญบาน “เทือกสุบรรณจันทร์โอชา”
พล.ท.ณัฐพิพัฒน์ พิทักษ์ชาติ
เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการศึกษาและติดตาม
นโยบายความมั่นคง คณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี