21 ก.พ.57 ที่โรงแรมโกเด้นทิวลิป พระราม 9 ตัวแทน 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสากรรม และนายสรรศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังชล ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่ยังไม่เรียบร้อย
โดย นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคร่วมฯ ได้หารือกันโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงนี้ที่สถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งเป็นห่วงการเลือกตั้งที่ยังไม่ลุล่วง และจะครบกำหนด 30 วันที่ต้องเปิดประชุมรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 ในวันที่ 4 มี.ค.แล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่ต้องดำเนินการจัดเลือกตั้งให้สำเร็จ พร้อมทั้งมองว่า กกต.ควรดำเนินการเป็นขั้นตอน ประกาศผลการเลือกตั้งในเขตที่สามารถประกาศได้ก่อน เพื่อจะได้เห็นว่าปัญหาที่มีอยู่อยู่ตรงไหนแล้วก็ค่อยๆ คลี่คลายปัญหาไปที่ละปม ซึ่งพรรคร่วมฯ พยายามที่จะหาทางออกในสิ่งที่เป็นอุปสรรคของ กกต.อยู่แล้ว
จากนั้น นายจารุพงศ์ ได้เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ในนามพรรคร่วมรัฐบาล เรียกร้องให้ กกต.จัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะถือเป็นหน้าที่ของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทันการเปิดประชุมรัฐสภา ภายใน 30 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง 2 ก.พ.ตามมาตรา 127 ของรัฐธรรมนูญ และตามมาตรา 8 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ ดังนั้น จากการที่ กกต.เคยมีข้อเสนอจะจัดการเลือกตั้งทดแทน การเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งทั่วไปในเขตที่ไม่สามารถลงคะแนนได้ ในวันที่ 20 และ 27 เม.ย.57 ถือเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 127 โดยชัดแจ้ง อีกทั้งการว่างเว้นไม่มีรัฐบาลเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ อย่างมากมาย โดยเฉพาะความเสียหายทางเศรษฐกิจ เช่น การเบิกจ่ายงบประมาณ การอนุมัติโครงการ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ อีกทั้งยังกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชนได้อย่างทันท่วงที เช่น กรณีการจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนา
นายจารุพงศ์ กล่าวต่อว่า ข้าพเจ้าในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลรักษาการที่ลงนามท้ายหนังสือนี้ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศตามกรอบรัฐธรรมนูญ ขอเรียกร้องให้ กกต.ใช้อำนาจจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการเลือกตั้งใน 28 เขตเลือกตั้งที่รับสมัครไม่ได้ ซึ่ง กกต.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ในการดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งอยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นใหม่เพื่อดำเนินการเลือกตั้งในเขตดังกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กตต.ระบุว่าไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 127 ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้ได้ และเปิดประชุมรัฐสภาให้ได้ภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้ง การอ้างเหตุใดๆ นั้น กกต.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เราคงต้องให้เกียรติ กกต.ว่าจะทำอย่างไร และรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าถ้าสถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบจะเลื่อนการเลือกตั้งได้ เมื่อถามต่อว่า จะรอดูท่าที กกต.นานเพียงใด นายภูมิธรรม กล่าวว่า กกต.ต้องดำเนินการให้การเลือกตั้งแล้วเสร็จตามกำหนด พรรคร่วมรัฐบาลได้แสดงเจตนารมณ์แล้ว กกต.ต้องทำตามหน้าที่ เราคงต้องรอต่อไปจนกว่าจะถึงกำหนด 30 วันก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี