วันที่ 18 เม.ย. 57 ที่กระทรวงยุติธรรม นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับการที่ทุกฝ่าย ควรใช้กลไกเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรูปแบบการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจไม่ใช่ในลักษณะแข่งขันทางนโยบาย โดยหากกำหนดและประกาศชัดเจน เลือกเพื่อเป็นรัฐบาลเฉพาะเพื่อการปฏิรูป เชื่อว่าจะทำให้โฉมหน้าของผู้สมัคร ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบเขตของทุกพรรคเปลี่ยนไป ใครที่เป็นคนที่มีปัญหาก็ถอยออกจากปาร์ตี้ลิสต์
ทั้งนี้มองว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ควรจะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกันก่อนวันที่ 22 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นกำหนดที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกประชุมพรรคการเมือง เพื่อหารือการกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยถือเป็นโอกาสนี้ได้ทำความเข้าใจ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ให้เหตุการณ์พัฒนาไปสู่ความขัดแย้งและการเผชิญหน้า
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลเฉพาะกิจเพื่อการปฏิรูปจะมีกำหนด ระยะเวลาในการทำหน้าที่ประมาณ 1 ปี- 1 ปีครึ่ง และเป็นรัฐบาลที่ไม่มีฝ่ายค้าน ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องทำความตกลงร่วมกัน ในการเป็นรัฐบาลว่ามีเป้าหมายเดียวกัน คือการปฏิรูปประเทศ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมกันนี้เห็นว่าหากกำหนดเวลาในการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน จะทำให้มีระยะเวลาพอสมควร ในการทำประชามติ สอบถามความเห็นจากประชาชนด้วย
ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่มีโอกาส ได้พูดคุยกับหลายฝ่าย ทำให้เห็นว่าทุกฝ่ายล้วนเห็นว่าประเทศไทย ต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นหากสามารถหาจุดร่วมที่มีเป้าหมาย ไม่ใช่เพื่อช่วงชิงทางการเมืองของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เห็นถึงประโยชน์ที่ต้องถอยคนละก้าวเพื่อประเทศ ก็ควรเริ่มทำในขณะที่ยังมีโอกาส เพราะหากปล่อยให้เลยช่วงเวลานี้แล้ว อาจทำให้ทางออกตีบตันมากขึ้นเรื่อยๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี