ปชช.ถวายกำลังใจ‘ในหลวง’
หมอให้พักฟื้น-งดพระราชกิจ
เปล่งเสียงดังกึกก้องรพ.ศิริราช
5ธันวาฯมหาราชคึกคักทั่วไทย
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 11 ความว่า ตามที่หมายกำหนดการการพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาในวันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม 2557 ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชน ถวายพระพรชัยมงคล นั้น
คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายตรวจพระวรกาย เมื่อเย็นวันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม 2557 มีความเห็นว่า ยังไม่ทรงพร้อมที่จะเสด็จออก จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้งดพระราชกิจไว้ก่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
หมอเผยในหลวงอยู่ในช่วงพักฟื้น
ด้านศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวถึงกรณีคณะแพทย์ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงดพระราชกรณียกิจ ซึ่งเดิมทรงมีหมายกำหนดการเสด็จออกมหาสมาคม ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาว่า หลังมีแถลงการณ์อาจทำให้ประชาชนกังวล แต่ขอยืนยันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้ประชวร เพียงแต่คณะแพทย์มีความเห็นว่า ต้องการให้ทรงพักฟื้นพระวรกาย เนื่องจากต้องเข้าใจก่อนว่า เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาทรงมีพระปรอท (ไข้)และพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่)อักเสบ แม้ถวายพระโอสถจนพระอาการปกติ แต่ตามหลักยังต้องพักฟื้น เนื่องจากด้วยอายุของคนวัย 80 ปีของผู้สูงอายุทั่วไป ต้องการพักผ่อน การพักฟื้นที่เหมาะสมก็ประมาณ 1 เดือนโดยคณะแพทย์ต้องดูแลพระวรกายในทุกด้านทั้งภาวะโภชนาการ และการพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่ได้ประชวรให้ทุกคนสบายใจ
“ขอย้ำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปกติ ไม่ได้ประชวร แต่ต้องการพักผ่อน ขอให้ทุกคนสบายใจได้ และการเสด็จออกมหาสมาคมก็เป็นพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลอดวันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะไม่มีการเสด็จพระราชดำเนิน แต่หากประชาชนต้องการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายกำลังใจ ถวายพระพรก็สามารถมาได้ที่รพ.ศิริราช และในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ โรงพยาบาลจัดกิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพร ในเวลา 19.00 น.” ศ.คลินิก นพ.อุดมกล่าว
ปชช.สวมเสื้อเหลืองรอเฝ้าฯแน่นศิริราช
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่โรงพยาบาล (รพ.)ศิริราช หลังสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ฉบับที่ 11 ระบุความเห็นของคณะแพทย์ฯหลังตรวจพระวรกายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้วขอทรงงดพระราชกิจ ปรากฎว่าตลอดทั้งวัน ยังคงมีประชาชนจำนวนมากสวมเสื้อสีเหลืองเดินทางมาปักหลักเฝ้าฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ถวายพระพรและถวายกำลังพระทัย โดยบางส่วนเดินทางมาปักหลักจับจองพื้นที่ค้างคืนตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา
แซ่ซ้อง“ทรงพระเจริญ”ดังกึกก้อง
ทั้งนี้ ประชาชนที่เดินทางมา เมื่อทราบแถลงการณ์สำนักพระราชวังดังกล่าว พร้อมใจนั่งหันหน้ามองขึ้นไปบนที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ร้องเพลงสรรญเสริญพระบารมีและเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พร้อมโบกธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ ภปร.และสก. และธงชาติ พร้อมชูพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เหนือศีรษะ หลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงทำให้คนไทยมาตลอด
ขอถวายกำลังใจให้“ในหลวง”
นางเปิ้ล เผ้าอาบ แม่บ้านอายุ 42 ปี เดินทางมาจากอ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด กล่าวด้วยความตื้นตันว่า ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯตนจะไปรอเฝ้าฯรับเสด็จฯทุกครั้งที่มีโอกาส ส่วนใหญ่จะไปที่รพ.ศิริราช และวันนี้ถือเป็นวันมหามงคลก็มาเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จอีกครั้ง แต่เมื่อทราบว่าในหลวงไม่เสด็จออกมหาสมาคม เนื่องจากแพทย์ต้องการให้พักฟื้นจากพระอาการประชวรก็น้ำตาไหล อยากให้พระองค์ทรงแข็งแรง หายประชวร อายุยืนเป็นร้อยๆ ปี และถึงแม้ไม่ได้เห็นในหลวง ตนก็จะนั่งอยู่ที่นี่ เพราะอยากให้ในหลวงเห็นตัวเอง และให้ในหลวงทรงได้ยินเสียงทรงพระเจริญ เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระกำลังใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องการให้พระองค์ทรงทราบว่า มีพสกนิกรอีกจำนวนมากมายในประเทศนี้รักและเทิดทูนพระองค์ สามารถยอมถวายชีวิตให้พระองค์ด้วย พร้อมระบุว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงไปใช้ ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ดังนั้น ถ้าคนไทยทุกคนนำแนวทางของในหลวงไปใช้ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นแน่นอน
รอเฝ้าฯแม้ได้เห็นแค่หน้าต่างก็ยังดี
เช่นเดียวกับ นายอเล็กซานเดอร์ แฟรงค์ อายุ 46 ปี อาจารย์วิศวกรไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเอเทฮาร์ อีทีเอช เมืองซูริก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์กล่าวว่า ตนรักในหลวงมาก เพราะในหลวงรักประชาชน ตนเดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาลงนามถวายพระพรในวันที่ 5 ธันวาคม และวันที่ 12 สิงหาคมทุกปี ทำแบบนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เพราะในหลวงเป็นวิศวกรที่ยิ่งใหญ่ ทรงรักและทำทุกอย่างเพื่อประชาชน เห็นได้จากโครงการพระราชดำริต่างๆ ทั้งโครงการเศรษฐกิจพอเพียง โครงการชั่งหัวมัน
“ปีนี้แม้จะทราบข่าวว่าในหลวงงดออกมหาสมาคม แต่ก็ยืนยันจะเดินทางมา เพื่อขอให้เห็นหน้าต่างก็ยังดี และยังอยากให้ในหลวงทรงได้ยินเสียงทรงพระเจริญ เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระกำลังใจมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องการให้พระองค์ทรงทราบว่ามีพสกนิกรอีกจำนวนมากมายในประเทศนี้รักและเทิดทูนพระองค์ ยอมถวายชีวิตให้พระองค์ด้วย ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป” นายอเล็กซานเดอร์กล่าว
กก.มูลนิธิป่า5รอยต่อถวายพระพร
ขณะเดียวกัน หลายหน่วยงานจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 โดยที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ในกรมทหารราบที่1มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะ ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการ มูลนิธิฯร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดีและถวายพระพรชัยมงคล หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปล่อยขบวนจยย.เฉลิมพระเกียรติ
ส่วนบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.) ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นประธานเปิดกิจกรรม
เฉลิมพระเกียรติ”รักพ่อหลวง” ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองดุริยางค์ทหารบก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย จากนั้นได้ปล่อยขบวนรถจักรยานยต์ ขับขี่ไปตามถ.ราชดำเนินตลอดสายและถ.หน้าพระธาตุเพื่อร่วมลงนามถวายพระพร ที่ท้องสนามหลวง
นายกฯนำจุดเทียนชัยถวายพระพร
ที่ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ข้าราชการ คณะทูตานุทูต บุคคลสำคัญทยอยเข้าลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เข้าลงนามถวายพระพร นอกจากนี้ ยังมีนายบรรหาร ศิลปอาชา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมถึงคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงบุคคลทั่วไปเข้าลงนามตลอดทั้งวัน
จากนั้น เวลา 17.00 น. นายกฯและภริยา เฝ้าฯ รับเสด็จฯสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง ต่อมา เวลา 19.19 น. นายกฯและภริยาถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ควีนอังกฤษขอในหลวงเกษมสำราญ
วันเดียวกัน เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยแพร่พระราชสาส์นสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงยินดีที่ได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและไทยดำเนินมาอย่างแน่นแฟ้นกว่า 400 ปี บนพื้นฐานของมิตรภาพอันยั่งยืน ขอถวายพระพรชัยมงคลแด่ฝ่าพระบาท เพื่อทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงและทรงพระเกษมสำราญ
“โอบามา”ส่งสาส์นถวายพระพร
เช่นเดียวกับ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ส่งสาส์นถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 มีใจความว่าข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยประชาชนชาวอเมริกัน ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สหรัฐฯและประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเกื้อกูลต่อกันมายาวนานกว่า 180 ปี ประชาชนอเมริกันต่างยึดมั่นในความร่วมมือและมิตรภาพอันยืนยงกับประชาชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สหรัฐอเมริกาและไทยจะธำรงมิตรภาพนี้สืบต่อไปบนรากฐานอันมั่นคงแห่งประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกันของทั้งสองประเทศ
นักแล่นเรือใบ40ปท.ร่วมเทิดพระเกียรติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักแล่นใบจาก 40 ประเทศทั่วโลก รวม 92 ลำ ซึ่งเดินทางมาร่วมแข่งขันเรือใบรายการภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ชิงถ้วยพระทานที่ จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 1-6 ธันวาคม นำเรือทั้งหมดเข้าร่วมพิธีทำความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับเรือรบหลวงศรีราชาของทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อเทิดพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี ทั้งนี้ ข้าราชการทหารและนักแล่นใบทุกคนพร้อมใจกันทำความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่พระองค์ประทับอยู่ที่กรุงเทพฯ ถือเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อกีฬาเรือใบไทย
ทั่วปท.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ
สำหรับบรรยากาศทุกจังหวัดทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดกิจกรรม เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราชอย่างยิ่งใหญ่ โดยช่วงเช้ามีการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ 88 รูป ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ถวายเป็นพระราชกุศล วางพานพุ่มถวายราชสักการะ ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และในช่วงค่ำมีพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร แสดงออกซึ่งความจงรักภักดี
เรือเหาะประดับพระบรมฉายาลักษณ์
ที่จ.ปัตตานี หน่วยงานราชการและประชาชนต่างออกมาประกอบกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกันตั้งแต่ช่วงเช้า โดยกองพลทหารราบที่ 15 (พล.ร.15) อ.หนองจิก จ.ปัตตานีนำเรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบก ประดับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “ทรงพระเจริญ” อยู่ด้านข้างลำเรือออกปฎิบัติการณ์ลาดตะเวนดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน สร้างความตื่นเต้นประทับใจให้ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง