วันที่ 25 เม.ย.2567 เวลา 17.13 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เชค ฮาซีนา (Sheikh Hasina) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล
ในโอกาสนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 - 21 ม.ค.2535 และพระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมประชาชนชาวบังกลาเทศหลายครั้ง กับพระราชทานโครงการความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านเกษตรกรรม และด้านการสาธารณสุข เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวบังกลาเทศ
ทั้งนี้ ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศมีความสัมพันธ์ที่ดี ทั้งในระดับรัฐบาล และผู้นำรัฐบาลทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้นำในระดับสูง และมีการดำเนินการในความร่วมมือที่สำคัญด้านต่าง ๆ ที่ดำเนินไปด้วยความราบรื่นและแนบแน่นยิ่งขึ้น ปัจจุบัน สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี โดยมี นายมุฮัมมัด ชาฮาบุดดิน เป็นประธานาธิบดีของประเทศ และมี เชค ฮาซีนา เป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ตามลำดับดังนี้
นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา นำ ผู้พิพากษาประจำศาล รุ่นที่ 77 และ นางสาวจุฑารัตน์ สิทธิยากรณ์ ผู้ช่วยผู้พิพากษา รุ่นที่ 76 เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่
นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นำ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ในการนี้ นายสุทธิรักษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุด นำ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และตุลาการศาลปกครองชั้นต้น เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่
ในการนี้ นายประพัฒน์ ตันสุวรรณนนท์ เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง และนายจำนง ถาวรวิสิทธิ์ รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย