“พระราม 2”.....
ถนนสายหลักที่มุ่งลงสู่ภาคใต้หากใครผ่านไปโดยเฉพาะในยามค่ำคืน ภาพหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น คือ กลุ่มรถ 10 ล้อ หรือรถพ่วง ที่จอดสงบนิ่งเรียงรายตามไหล่ทาง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าการสงบนิ่งของรถเหล่านี้มาจากการที่บรรดา “โชเฟอร์” กำลังพักผ่อนให้หายจากอาการเมื่อยล้า ซึ่งส่วนใหญ่มักจะหลับไหลเอาแรง รอเวลาเดินทางสู่จุดหมายปลายทางข้างหน้าที่ดูเหมือนว่าจะยัง
“อีกยาวไกล”
ในขณะที่โชเฟอร์เหล่านี้กำลังอาศัยความมืดของ ถ.พระราม 2 เป็นดั่งเรือนนอน ในอีกมุมมืดหนึ่งก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็คือ “แก๊งลักสูบน้ำมัน” ที่กำลังจะใช้ ถ.พระราม 2 ออกปฏิบัติการ “เทียบ-ขู่-ดูด-หนี” โดยมีเป้าหมายคือน้ำมันของกลุ่มรถ 10 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง ซึ่ง “ตำรวจทางหลวง” ก็พยายาม “ป้องกัน-สืบจับ” แต่จับกลุ่มหนึ่งอีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาแทนที่
“พวกนี้จะใช้รถปิกอัพเป็นพาหนะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นรถแต่ง ทำงานกันเป็นทีมครั้งละ 5-6 คน แบ่งหน้าที่กันทำมีคนขับ คนดูด และหน่วยคุ้มกัน ซึ่งจะใช้ปืนเป็นอาวุธ โดยรถปิกอัพที่ใช้ก่อเหตุจะคลุมผ้าใบปิดไว้ ที่ท้ายรถจะเต็มไปด้วยถังน้ำมันเปล่าขนาดบรรจุ 20-30 ลิตร ขนมากันทีเต็มหลังรถปิกอัพ 20-30 ใบ เพื่อเอามาใส่น้ำมัน” ด.ต.ปกรณ์ บัวเรือง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ให้ข้อมูล
ด.ต.ปกรณ์ ให้ข้อมูลต่อว่า พวกนี้ทำงานง่าย เพราะน้ำมันของกลุ่มรถ 10 ล้อ “ดูดง่าย” จากแนวทางการสืบสวน พบว่า บางแก๊งใช้ “มอเตอร์” เครื่องเล็กๆ หรือบางแก๊งก็ใช้สายยางน้ำมัน ลองนึกภาพดูถังน้ำมันรถ 10 ล้อ รูปากถังมันใหญ่สายยางดูดเข้าได้พอดี ดูดง่ายเลยทีนี้ ใครคิดว่ามีกุญแจล็อกถังน้ำมันเอาไว้ แล้วหลับอย่างสบายใจ แก๊งพวกนี้ก็ใช้คีมที่พกมาตัดออก “อย่าคิดว่ารอด”
1 คัน 1 ถัง ความจุ 400-600 ลิตร ใช้เวลา 10-15 นาที “หมดถัง”!?!
ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ให้ข้อมูลอีกว่า “แก๊งลักสูบน้ำมัน” ในพื้นที่รับผิดชอบมีอยู่ 2-3 กลุ่ม ซึ่งจะตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ ถ.พระราม 2 และ ถ.เพชรเกษม ส่วนใหญ่อายุ 20 กว่าปี สำหรับ “จุดเสี่ยง” นั้น ด.ต.ปกรณ์ บอกเลยว่า “เสี่ยงทุกจุด” ถ้าคุณจอดรถเผลอหลับเมื่อไหร่ก็โดนทันที เพราะพวกนี้มันจ้องอยู่ พวกนี้จะมีการขับรถตระเวนดูก่อน ถ้าเจอโชเฟอร์คันไหนหลับก็จอดรถเข้าเทียบแล้วทำงานเลย จุดหลักๆ ใหญ่ๆ ก็หน้า “ปั๊มน้ำมัน” เพราะถือเป็นศูนย์รวมของเหล่าโชเฟอร์ที่หวังจะพักผ่อน
ถามว่าโดนลักสูบน้ำมันออกไปเป็นถังๆ โชเฟอร์ 10 ล้อเหล่านี้ไม่รู้ตัวหรืออย่างไร!?! “ด.ต.ปกรณ์” ตอบสวนทันควันว่า “ใช่”!?! เพราะช่วงเวลาที่ก่อเหตุของพวกมัน คือ หลังเที่ยงคืน ซึ่งยวดยานพาหนะบนท้องถนนจะมีปริมาณน้อย เงียบ ที่สำคัญโชเฟอร์ 10 ล้อ มันเหนื่อย เมื่อยล้า ง่วงนอน
“คนเราพอเหนื่อยมากๆ ขับรถมายาวๆ ถ้าได้หลับแล้วหลับยาวเลย โอกาสตื่นยาก เป็นเรื่องจริงนะที่ไม่รู้ตัว มีบ้างที่ตื่นมาเจอแก๊งพวกนี้กำลังลักสูบน้ำมัน ก็โดนใช้ปืนจี้ หรือยิงขู่ เช่น คนร้ายจะบอกว่า กูขอ 2 ถัง 3 ถัง คนถูกปืนจ่อก็ไม่กล้า ต้องยอม” ด.ต.ปกรณ์ กล่าว
สำหรับน้ำมันที่มันลักไปได้ส่วนใหญ่ก็นำไปขายให้ “ปั๊มหลอด” หรือกลุ่มผู้ประกอบการทำ “นากุ้ง” เป็นต้น ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งก่อนนำไปขายน้ำมันที่ลักมาได้ในถัง 20-30 ลิตร จะถูกถ่ายเทลงใส่ถัง 200 ลิตร เพื่อง่ายต่อการขนย้ายไปขายต่อ ส่วนราคาอยู่ที่ถังละ(200-300 ลิตร) 3,000-4,000 บาท
ตำรวจทางหลวงนายนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาแก๊งลักสูบน้ำมัน เพราะนโยบายของ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(ผบก.ทล.) เน้นย้ำให้ตำรวจทางหลวงทุกนายดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชนทุกกลุ่มที่เดินทางในทุกช่วงเวลา ทาง พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. จึงได้จัดทีมไล่ล่าแก๊งหัวขโมยเหล่านี้ และจับกุมได้เป็นระยะ แต่จับเท่าไหร่ก็ไม่หมด ทาง พ.ต.ท.ปริญญา จึงปรับแผนใหม่
“พ.ต.ท.ปริญญามีแนวคิดว่าจะมานั่งจับแก๊งพวกนี้คงไม่ไหวเพราะกลุ่มหนึ่งโดนจับ อีกกลุ่มก็เกิดขึ้นใหม่มาแทนที่ จับกันไม่หมด จึงหันมาเน้นป้องกันเชิงรุกด้วยการใช้กลุ่มรถ 10 ล้อ ที่วิ่งอยู่บน ถ.พระราม 2 รวมถึงผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันต่างๆร่วมเป็นเครือข่าย พร้อมติดป้ายประชาสัมพันธ์ แจกเบอร์โทรศัพท์ ถ้ามีเหตุให้รีบแจ้งเข้ามาที่เราทุกเหตุ ยืนยันว่าโทร.มามีคนรับแน่เพราะเราจัดเวรทำงานทั้งคืน ซึ่งแผนนี้ก็ได้ผลนะเพราะช่วยให้เราจับกุมแก๊งเหล่านี้ได้ทันท่วงที เป็นระยะๆ” ด.ต.ปกรณ์ กล่าว
ด้าน “สมศักดิ์” โชเฟอร์ 10 ล้อรายหนึ่ง ออกมาบอกว่า ใช้เส้นทาง ถ.พระราม 2 มานานกว่า 25-30 ปี เมื่อ 2-3 ปีก่อนก็เคย “โดนมาแล้ว” ตอนนั้นเหนื่อยมากก็เลยจอดรถนอนบริเวณไหล่ทาง แล้วดัน “หลับยาว”ไม่รู้เรื่องเลยว่าโดนลักสูบน้ำมันไปตอนไหน จากวันนั้นถึงวันนี้ไม่เคยจอดนอนตามไหล่ทางอีกเลย
“เข็ดเลยเพราะโดนเจ้านายเฉ่งยับ ก็ต้องใช้หนี้ค่าน้ำมันไปเป็นงวดๆ ให้หักจากเงินเดือน หรือเบี้ยเลี้ยงไป เท่ากับวิ่งรถเที่ยวนั้นแทบไม่ได้อะไรเลย” โชเฟอร์รายนี้ ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่หาดใหญ่ กล่าว
“สมศักดิ์” บอกด้วยว่า ตอนนี้เพื่อนๆ ร่วมอาชีพที่วิ่งรถในเส้นทางเดียวกันก็บ่นๆ ว่ายังมีโดน “แก๊งลักสูบน้ำมัน” อยู่เรื่อยๆ เบาหน่อยก็โดนดูดไปธรรมดา หนักหน่อยก็โดนใช้ปืนขู่ บางรายที่โดนบอกว่าเขานอนแง้มกระจกไว้ ไม่ได้ง่วงมาก แค่อยากพักสายตาแป๊บเดียว ปรากฏว่าซวยโดนแก๊งพวกนี้เหมือนมันจะ “พ่นยานอนหลับ” ก็หลับนิ่งไปเลย มันก็ทำงานสบายไป
“บางทีมันชักปืนขู่ เราก็ไม่กล้าเอาชีวิตไว้ดีกว่า ลูกเมียเรารออยู่ที่บ้าน แค่ขับรถไกลก็เสี่ยงพอแล้ว ไม่อยากไปเสี่ยงกับพวกนี้ ดูดได้ก็ดูดไป แต่ถามว่าเจ็บใจมั้ยบอกเลยว่าไม่ แต่แค้น” สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
แม้คดีลักษณะนี้จะไม่ “เป็นข่าว” ใหญ่โต แต่อาชญากรกลุ่มนี้ยังสร้างความเดือดร้อนอยู่เป็นนิจ ผู้ขับขี่ที่ใช้ถนนหลวงในยามค่ำคืนทุกเส้นทางควร “ระวัง” หากจะนอนก็ขอให้ใช้บริการ “จุดพัก” ของหน่วยบริการตำรวจทางหลวง หรือในปั๊มน้ำมัน อย่างน้อยก็เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ.....
“แก๊งลักสูบน้ำมัน”!?!
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี