อีกไม่กี่วันข้างหน้า คนไทยเราก็จะได้เฉลิมฉลองกับเทศกาลสงกรานต์กันแล้ว และปี 2558 นี้ต้องถือว่าพิเศษ เพราะมีวันหยุดอย่างน้อย 5 วัน ตั้งแต่เสาร์ที่ 11-พุธที่ 15 เมษายน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าน่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวได้มาก ทว่าก็มีกระแสข่าวไม่ค่อยดีนัก หลังพบว่าด้านหนึ่งคนไทยในภาพรวมมีค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ขณะอีกด้านหนึ่ง คนไทยอีกนับแสนคนเตรียม “แพ็กกระเป๋าบินไปนอก” ในช่วงหยุดยาวหนนี้
จนหลายคนกลัวว่า..สงกรานต์ปีนี้อาจ “กร่อย”!!!
เพราะลำพัง “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ก็ลดลงกว่าปีก่อนๆ อยู่แล้ว!!!
“สงกรานต์ปีนี้เป็นยังไง? ตอนนี้ผมก็ยังเดาไม่ถูก ผมว่าจะกลับต่างจังหวัดด้วย จริงๆ ก็ขายทุกปี อย่างปีที่แล้วที่มีสารพัดปัญหา เขาก็เล่นกันปกติ แต่ปีนี้คงจะดีกว่า
เพราะบ้านเมืองค่อนข้างสงบ”
เสียงสะท้อนจาก สุทธิพงษ์ พ่อค้าผัดไทยย่านถนนข้าวสาร พื้นที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ เขากล่าวว่า ช่วงนี้จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกลดลงเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2557 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคงไม่กระทบกับช่วงวันสงกรานต์ เพราะแม้แต่ปีที่มีความรุนแรงทางการเมือง นักท่องเที่ยวก็ยังแห่เข้ามาร่วมฉลองเทศกาลตามปกติ
เช่นเดียวกับ พีร์ พ่อค้าขายปืนฉีดน้ำและอุปกรณ์เล่นน้ำสงกรานต์อยู่ในย่านเทเวศร์ กล่าวว่า ปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงากว่าปี 2557 ทั้งๆ ที่ปีดังกล่าวมีการชุมนุมและความขัดแย้งทางการเมือง แต่ยังเชื่อว่าช่วงใกล้ๆ วันสงกรานต์คนน่าจะมาซื้อหาอุปกรณ์เล่นน้ำกันมากขึ้น โดยเฉพาะบรรดาลูกค้าขาประจำที่อุดหนุนกันทุกปี
“ก็ยังไม่เท่าไร ต้องดูใกล้ๆ แต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วเงียบกว่า ตามความเป็นจริงมันเบาลง คนยังไม่ซื้อกัน แต่เดี๋ยวใกล้ๆ ก็คงจะได้ขาย มันก็เป็นอาชีพเราลงขายล่วงหน้าเดือนนึง ลูกค้าประจำก็ซื้อกับเรา ลูกค้าประจำก็ทำงานอยู่แถวนี้ ก็ซื้อทุกปี ขายมา 20 ปีแล้ว ลูกค้าชอบที่เราขายในราคาถูกกว่า ได้ลองทุกชิ้น” พ่อค้ารายนี้ ระบุ
ถึงกระนั้น การที่คนไทยหนีไปเที่ยวต่างประเทศมากๆก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม ดังความเห็นของ นายสินธิ์ไชย วัฒนศาสตร์สาทร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ที่ระบุว่า การที่ภาครัฐจัดให้มีวันหยุดยาวเช่นนี้ เมื่อประกอบกับแพ็กเกจทัวร์ต่างๆ มีราคาถูกลง ก็ทำให้หลายคนเลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
เท่ากับว่าปัจจุบันมาตรการหยุดยาวเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศอาจใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว จึงไม่ควรจัดให้หยุดยาวบ่อยๆ รวมถึงหาแนวทางอื่นๆ เพื่อรับมือปรากฏการณ์นี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่ามีคนอีกมากที่ยังเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดังนั้นงานสงกรานต์หลายแห่ง เช่น เทศกาลวันไหลของพัทยา จะยังคงคึกคักเช่นเดิม
“ก็คิดเหมือนกันว่าหยุดยาวเพื่อให้ท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ได้ผลละ เพราะแพ็กเกจไปต่างประเทศนั้นถูกมาก 2 หมื่นก็ไปญี่ปุ่น ไปเกาหลีได้ เพราะฉะนั้นทุกคนก็เข้าถึงหมด ถามว่าหยุดยาวมีประโยชน์ไหมก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่ได้ส่งเสริมอะไรมากมาย ผมเชื่อว่าถ้าเอาภาพรวมในเศรษฐกิจก็ไม่ควรหยุดพร่ำเพรื่อ แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ชอบการเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนาน เขาก็ยังอยู่เหมือนเดิม ก็คงไม่เดินทาง เพราะยังมีโอกาสอีกเยอะแยะ ก็คือช่วงวันแรงงานที่จะหยุดยาวอีกผมก็เชื่อว่าคนไทยน่าจะอยู่เล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีของไทย
อย่างสงกรานต์พัทยาจะเล่นกันอยู่ในช่วง 18-19 ก็จะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์พอดี ส่วนวันหยุดของภาครัฐก็จะหยุด 13-15 รวม 3 วัน ก็อาจมีการต่อเนื่องรึเปล่า ก็คิดว่าน่าจะดึงดูดคนไทยทั้งใกล้พัทยา ชลบุรี แล้วก็ส่วนกลางเอง เพราะงานสงกรานต์ก็ใหญ่ งานวันไหลเป็นงานดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่แล้ว ขึ้นชื่อมาก เล่นน้ำทุกวัน ตั้งแต่ 11 ก็เริ่มแล้ว ก็เริ่มจากผู้ประกอบการตามชายหาด ตามสถานบันเทิง เขาก็ออกมาเล่นกัน และก็ต่อยาวไปถึง 19 เลย
ก็เล่นกันตลอดทั้งอาทิตย์” นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าว
สอดคล้องกับความเห็นของ นายอิทธิฤทธิ์ กึ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) มองว่า แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยหลบร้อนไปต่างประเทศช่วงสงกรานต์ แต่ก็ไม่น่ากังวล เพราะถึงอย่างไร คนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนกลุ่มใหญ่ เมื่อเทียบกับคนไทยอีกมากมายรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ยังคงเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่พักผ่อนช่วงหยุดยาวนี้
“ผมไม่ค่อยกลัวเรื่องนี้ เพราะคนปกติที่ใช้จ่ายไปต่างประเทศก็เป็นกลุ่มเดินทางกันอยู่เรื่อยๆ แต่ในช่วงวันหยุดยาวอาจจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่โดยเฉลี่ยคนไทยก็ยังเดินทางภายในประเทศมากอยู่”
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวย้ำ อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงภาครัฐด้วยว่ายุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวยังต้องทำอีกหลายประการอย่างต่อเนื่อง เช่น 1.ประชาสัมพันธ์เทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ ของแต่ละพื้นที่-แต่ละภูมิภาค เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้น
2.เสริมศักยภาพผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายย่อย (SME) ทั้งหลาย ผ่านการเข้าถึงแหล่งทุนที่สะดวก เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนากิจการของตนได้ และ 3.สร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อให้มาตรฐานธุรกิจท่องเที่ยวของไทยเข้าสู่ระดับสากลมากขึ้น
ต้องยอมรับว่าเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงเวลาชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างหนึ่ง เห็นได้จากสำนักวิจัยต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน มักจะออกผลวิจัยคาดการณ์ว่า สงกรานต์ปีนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดเท่าใด? หรือมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแค่ไหน?
โดยในปี 2558 เบื้องต้น นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย จัดโครงการเบิกเงินผ่านตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM) ข้ามเขตทั่วประเทศแบบไม่เสียค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่ 13-19 เมษายน 2558 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศและกระตุ้นการใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินใช้จ่ายภายในประเทศได้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ นายอานุภาพ ธีรรัฐ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2558 คาดว่าการท่องเที่ยวไทยจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 14,516 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับสงกรานต์ปี 2557
“สงกรานต์ 2558” บรรยากาศจะ “สดใส” หรือ “ซบเซา” อีกไม่นานเดี๋ยวได้รู้กัน!!!
ชนัดดา บุญครอง
SCOOP@NAEWNA.COM
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี