วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
‘10 ธุรกิจต้องจับตา’ 2559 อะไร ‘เด่น’ อย่างไหน ‘ดับ’

‘10 ธุรกิจต้องจับตา’ 2559 อะไร ‘เด่น’ อย่างไหน ‘ดับ’

วันศุกร์ ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558, 02.00 น.
Tag :
  •  

เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ปี 2558 ก็จะผ่านพ้นไปแล้ว และปี 2559 ที่กำลังจะมาถึงนี้ต้องย้ำเตือนกันอีกครั้งว่านับตั้งแต่วินาทีแรกของวันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป เราจะเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่งผลให้ตลาดการค้าในอาเซียนกว้างขึ้น แต่อีกนัยหนึ่ง “การแข่งขันในภูมิภาค” จะรุนแรงขึ้นด้วย ซึ่งทุกภาคส่วนไม่ว่าผู้ประกอบการหรือแรงงานล้วนต้องปรับตัว โดยเฉพาะ “ภาษาอังกฤษ” ที่ยังเป็นจุดอ่อนสำคัญของคนไทย

แล้วก็เป็นธรรมเนียมของทุกปี ที่เมื่อถึงช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ หน่วยงานวิชาการด้านเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงก็จะออกมาทำนาย “ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง” ประจำปีที่จะมาถึง ครั้งนี้ก็เช่นกัน ดังที่ ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) ระบุว่า “ท่องเที่ยว-ก่อสร้าง-ไอที-สุขภาพ” จะเป็น “ธุรกิจมาแรง” ในปี 2559 แน่นอน


เช่นเดียวกับ ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) กล่าวว่า 10 ธุรกิจที่ต้องจับตาในปี 2559 ในส่วนที่น่าจะเป็น “ดาวเด่น” ได้แก่ 1.อาหารเพื่อสุขภาพ จากกระแส “กินคลีน” ที่กำลังมาแรง คนไทยหันมาสนใจ “ลดพุง-ฟิตหุ่น” มากขึ้น 2.ที่พักราคาประหยัด ทั้งโรงแรม เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ ถึงเศรษฐกิจไทยจะไม่เติบโตหวือหวานัก แต่คนไทยยังชอบการท่องเที่ยวพักผ่อนแม้จะต้องลดค่าใช้จ่ายลงบ้างก็ตาม

“โรงแรมหรูหราไม่จำเป็นครับ เขาต้องการแค่ที่ซุกหัวนอน มีไวไฟไว้ต่ออินเตอร์เนต แล้วก็อาหารเช้าแค่นั้นเอง กลุ่มนี้เติบโตครับ และเติบโตสูง น่าจะมากกว่าโรงแรมพวกสี่ดาวห้าดาวด้วยซ้ำไป” ดร.เกียรติอนันต์ ระบุ

3.สายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ตามค่านิยมที่ว่า “เวลาเป็นเงินเป็นทอง” ยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นหากไม่มากนักแต่ไปได้เร็วกว่าเดิม 4.ขายอุปกรณ์กีฬาออนไลน์สาเหตุมาจากร้านออนไลน์มักมีจุดขายคือ “สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” มากกว่าในห้างที่สินค้าส่วนใหญ่มักจะเหมือนๆ กันหมด ตามค่านิยม “ชอบแตกต่าง” ของคนยุคนี้

5.การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพราะปัจจุบันกระแส “รักษ์โลก”ถือว่ามาแรงอยู่ไม่น้อย 6.สอนภาษาอังกฤษ ที่ไม่ใช่สอนเน้นไวยากรณ์แบบที่คุ้นเคยกันในระบบการศึกษา แต่สอนเพื่อ“การสื่อสาร” สามารถพูดคุยเจรจาความเมืองกับฝรั่งมังค่าได้จริง

“จากที่สอบถามบรรดาผู้ประกอบการ เขาอยากเห็นโรงเรียนสอนภาษาที่สอนให้ใช้เป็น ไม่ใช่สอนแกรมมา (Grammar-ไวยากรณ์) เป็นโรงเรียนสอนการใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ใช่โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเพื่อเอาไปสอบ มีความต้องการตรงนี้เยอะครับ” ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าว

7.จักรยานและอุปกรณ์ คนไทยหันมาใช้จักรยานเพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลทั้งในแง่สุขภาพและรักษาสิ่งแวดล้อม 8.การดูแลสุขภาพ อย่างที่ทราบกันว่าคนไทยห่วงใยสุขภาพกันมากขึ้น 9.แอพพลิเคชั่นบนมือถือ เพราะอุปกรณ์ไอทีอเนกประสงค์อย่าง “แท็บเล็ต-มือถือสมาร์ทโฟน” ราคาถูกลง ประกอบกับอินเตอร์เนตไร้สาย (3G-4G) มีความเร็วสูงขึ้น และ 10.การขนส่งระยะสั้น เช่นรถไฟฟ้าในเขตเมือง เพราะผู้คนนิยมพักอาศัยใกล้ที่ทำงานมากขึ้น

ส่วนธุรกิจที่อาจเป็น “ดาวดับ” ได้แก่ 1.รถทัวร์-รถไฟ จากที่กล่าวไปแล้วว่าคนยุคนี้เน้นความเร็วแม้จะต้องจ่ายมากขึ้นบ้างเห็นได้จากเที่ยวบินโลว์คอสต์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะบินในประเทศใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไม่ต้องนั่งกันยาวๆ ครึ่งค่อนวัน 2.ร้านกาแฟสด ที่เปิดกันมากและเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง ทุกวันนี้มีจำนวนไม่น้อยล้มหายตายจากไปแล้ว 3.ร้านบุฟเฟ่ต์ราคาประหยัด จำพวก “หมูกระทะ-เนื้อย่างเกาหลี” หากไม่ใช่เจ้าใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากพอ การต่อรองราคาวัตถุดิบจะทำได้ยาก ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

“ถ้าไม่ใช่เจ้าใหญ่ๆ นะครับ บุฟเฟ่ต์พวกหมูกระทะไก่กระทะ กุ้งกระทะ อะไรก็ตามพวกนี้ ถ้าไม่ใหญ่พอตายหมด เพราะอำนาจต่อรองในการซื้อวัตถุดิบจะต่ำ ต้นทุนต่อกิโลจะสูง แล้วพอขายหัวละ 99 บาทเท่ากับชาวบ้าน มาร์จิน (Margin-กำไร) ก็จะต่ำ แล้วก็จะอยู่ไม่ได้” ดร.เกียรติอนันต์ อธิบาย

4.ร้านอินเตอร์เนต ค่อยๆ หมดความสำคัญลงเนื่องจากคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงแท็บเลต-มือถือสมาร์ทโฟนราคาถูกลงแต่มีสมรรถนะสูงขึ้น คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้ง่ายกว่าแต่ก่อน 5.เสื้อผ้าแฟชั่นราคาถูก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กลุ่มลูกค้าก็พลอยหดไปด้วย กล่าวคือกลุ่มที่ฐานะดีจะยังคงเน้นสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงต่อไป ส่วนกลุ่มที่ฐานะรองลงมาก็จะหันมาเน้นที่คุณภาพสินค้ามากกว่าความสวยงาม

“ลูกค้าสมัยก่อนมี 3 กลุ่ม กลุ่มรวย กลุ่มปานกลาง และกลุ่มรายได้น้อย แต่ 2 ปีนี้ที่เศรษฐกิจชะลอตัวมาตลอด ฉะนั้นกลุ่มตรงกลางที่ใหญ่มันก็เริ่มเล็ก ถ้าเราไปขายกลุ่มตรงกลางมันจะขายยาก ให้ลงไปขายข้างล่างเลย ขายของอาจไม่ดีมากแต่ราคาถูก ไม่งั้นก็ไปขึ้นไปให้สูงเลย ถ้าไม่สูงสุดก็ต้องคืนสู่สามัญ” ดร.เกียรติอนันต์ ให้คำแนะนำ

6.ร้านโชห่วย ที่มีคู่แข่งมาก แม้กระทั่งร้านสะดวกซื้อในเครือกลุ่มทุนใหญ่ก็ยังเปิดชนกันแทบทุกหัวมุมถนน 7.อาหารทะเลแปรรูป เพราะยังมีความกังวลเรื่องการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไทยไปยังกลุ่มประเทศตะวันตก สืบเนื่องจากปัญหาแรงงานทาสบนเรือประมง

8.สายการบินทั่วไป เหตุผลเดียวกับเสื้อผ้าแฟชั่น ที่หากไม่จับกลุ่มลูกค้ารสนิยมหรูที่สุด ก็ต้องลงมาแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์แทน 9.ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เพราะคนหันมาใช้แท็บเลต-มือถือสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่คอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ และ 10.ร้านโทรศัพท์มือถือมือสอง เพราะมือถือสมาร์ทโฟนมือหนึ่งราคาถูกลง

นอกจากนี้ ดร.เกียรติอนันต์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อรวมการสำรวจทั้งฝั่งผู้ประกอบการและฝั่งผู้บริโภค ได้ข้อสรุปว่าธุรกิจยุคใหม่ หากจะอยู่รอด ต้องยึดหลัก 5 ประการ คือ1.เลิกลดราคาแต่พัฒนาคุณภาพ ต้องทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่าสินค้าที่ตนซื้อนั้นเป็น “ของดี”จริงๆ ธุรกิจก็จะยังคงไปต่อได้ 2.รับให้เร็วแต่จ่ายให้ช้า พยายามหารายได้ให้เร็วและมากที่สุด แต่รายจ่ายอะไรที่ชะลอได้ก็ควรทำ เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน

3.ใช้สื่อออนไลน์แต่อย่าลืมใส่ใจชีวิตจริง เพราะปัจจุบันการสื่อสารของผู้คนหันไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น การใช้สื่ออินเตอร์เนตมาช่วยจะทำให้หาตลาดได้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตามควรหาโอกาสพบปะลูกค้าในโลกจริงบ้างเพื่อเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดผูกพันระหว่างผู้ค้ากับลูกค้า

4.เก็บคนเก่งไว้ส่วนคนไม่เอาไหนปล่อยเขาไปเถอะ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ที่การจ้างคนงานทำได้จำกัด ดังนั้นพนักงานคนไหนที่ฝีมือดีควรจะต้องรั้งตัวไว้ให้ได้ เพราะคนเก่งเพียงคนเดียวอาจทำงานได้เท่ากับคนไม่เก่งหลายคน และ 5.บินไปให้สูงที่สุด ไม่ก็จงคืนสู่สามัญ ดังที่กล่าวไปแล้วว่าตลาดระดับกลางหดตัวลง

“เอสเอ็มอีตอนนี้ไม่ได้คิดจะลดขนาดนะครับ เท่าที่สำรวจประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ตอบว่าไม่ต้องการลดคน เขาแค่ต้องการสลับเอาคนเก่งมาแทนคนไม่เก่ง เพราะเขาเชื่อว่าถ้าปีหน้าเขาฟื้น เขาก็จะไปต่อได้ เขาต้องการคนเก่งมาช่วยให้เขาเติบโต

แต่ปัญหาของเอสเอ็มอีคือขาดคนที่ทำงานได้สอดคล้องกับที่นายจ้างต้องการ แล้วปัญหานี้บ้านเราสูงกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียนถึง 3 เท่า อันนี้เป็นการสำรวจของเวิลด์แบงก์ (World Bank-ธนาคารโลก) มันโยงไปถึงการศึกษาที่สอนแต่ท่องจำไม่สอนให้คิดให้ทำ ไม่สอนทักษะพื้นฐานพวกความมีวินัยตรงต่อเวลา” ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ฝากทิ้งท้าย

SCOOP@NAEWNA.COM

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62

มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน

สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved