วันเสาร์ ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / สกู๊ปพิเศษ
เจาะนโยบายผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. “เมืองหลวง” ที่อยากเห็นในอนาคต

เจาะนโยบายผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. “เมืองหลวง” ที่อยากเห็นในอนาคต

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 02.00 น.
Tag :
  •  

 

“กรุงเทพมหานคร” เมืองหลวงขนาดใหญ่อันดับที่ 15 ของโลก มีประชากรอยู่กว่า 13 ล้านคน หรือ 1 ใน 5 ของประชากรชาวไทยทั้งประเทศ ไม่นับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลั่งไหลเข้ามาอีกนับล้านคนต่อปี และ กทม. ยังถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าเที่ยว 3 ปีซ้อน (พ.ศ.2553-2555) จนมีคำกล่าวติดตลกว่า “Bangkok is Thailand” ในความเข้าใจของชาวต่างชาติ


แต่ด้วยความเป็นเมืองใหญ่ ย่อมมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่อีกไม่นานเราจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และประเทศไทยนั้นก็ตั้งอยู่ในตำแหน่งศูนย์กลางของภูมิภาคพอดี ทำให้ กทม. ในฐานะเมืองหลวงของไทย ย่อมต้องถูกคาดหวังว่าจะกลายเป็นเมืองหลวงทางเศรษฐกิจของอาเซียนไปด้วย ไม่นานนี้ทีมสกู๊ปหน้า 5 มีโอกาสได้ไปรับฟังการประชันวิสัยทัศน์ ของผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ที่จัดโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) จึงขอเก็บบางส่วนที่น่าสนใจ มาฝากผู้อ่านทุกท่านที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง เผื่อจะช่วยในการตัดสินใจ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงได้บ้าง

มหานครแห่ง “ความปลอดภัย”

“ผมอยากให้กรุงเทพมหานคร เป็นมหานครแห่งความปลอดภัย และไร้ยาเสพติด ผู้ต้องหาร้อยละ 90 ที่ถูกจับกุมคดีลักทรัพย์และประทุษร้ายต่อชีวิต รวมถึงคดีทางเพศนั้น ร้อยละ 90 นั้นคือผู้ที่มีปัญหา เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาก่อน” เป็นเสียงจาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทย (หมายเลข 9) กล่าวถึงความเชื่อมโยงของปัญหาอาชญากรรมประเภทต่างๆ ว่าส่วนใหญ่ล้วนมีต้นตอมาจากยาเสพติดทั้งสิ้น

ซึ่งทุกวันนี้ ชาว กทม. โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องไปทำงานหรือไปเรียนแต่เช้ามืดและกลับบ้านตอนค่ำ รวมไปถึงผู้ที่มีรถยนต์ ต่างก็กลัวปัญหาลักวิ่งชิงปล้น และหลายครั้งมีการทำร้ายร่างกายกันถึงชีวิต เนื่องจากหลายจุดใน กทม. ยังเป็นจุดเสี่ยง เช่นสะพานลอย ป้ายรถเมล์ หรือทางเท้าที่เปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่างและกล้องวงจรปิด (CCTV) ทำให้กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของเหล่ามิจฉาชีพ

ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชูนโยบาย “CCTV ทุกที่ ทุกจุด” ที่แม้ว่าจะเป็นการลงทุนที่สูงเพียงใดก็ตาม แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ และจากประสบการณ์กว่า 13 ปี ที่ทำโครงการ “ฝากบ้านไว้กับตำรวจ” ทำให้ทราบดีว่าจุดไหน ชุมชนใดเป็นแหล่งมั่วสุม หรือจุดเสี่ยง ซึ่งพื้นที่เหล่านี้จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องนำกล้องวงจรปิดไปติดตั้งอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับการตั้งศูนย์เครือข่าย CCTV ขนาดใหญ่ ที่เป็นการรวมเอาภาพวงจรปิด ทั้งกล้องของ กทม. , หน่วยราชการอื่นๆ รวมทั้งของเอกชน เข้ามาไว้เป็นจุดเดียว เพื่อให้การสอดส่องดูแลปัญหาอาชญากรรมเป็นไปอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่

“เราจะเป็นมหานครแห่งอาเซียน หรืออะไรก็ตาม พื้นฐานในการดำรงชีวิตของเราต้องปลอดภัย ต้องไร้ยาเสพติด เรายังมีชุมชนในกรุงเทพ อีกมากกว่า 1,000 ชุมชน ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดในขณะนี้ เราจำเป็นต้องมีมาตรการปิดล้อม เพื่อ X-Ray ในเชิงรุก เพื่อให้ชุมชนเหล่านี้ปลอดยาเสพติด น้องๆ เยาวชนกว่า 2 แสนคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด ต้องได้รับการบำบัด และต้องไม่ให้กลับไปเสพยาเสพติดอีก” พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าว

เช่นเดียวกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ (หมายเลข 16) ในฐานะที่เพิ่งลงจากเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. มาหมาดๆ ก็เห็นว่าความปลอดภัยของชาว กทม. ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สุด โดยกล่าวว่าเรื่องของกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ นั้น ทาง กทม. ในความรับผิดชอบของตน ได้ทำการติดตั้งไปแล้ว 24,000 ตัว และก่อนลงจากตำแหน่ง ได้อนุมัติซื้อเพิ่มไปแล้วอีก 27,000 ตัว ซึ่งกล้องเหล่านี้ ได้เชื่อมต่อไปยังสถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทั้ง 88 แห่ง และที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขตอีกด้วย

“ถ้ามีอาชญากรรมเกิดขึ้น เราจับภาพได้ เราก็ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้เราทำไปแล้วกว่า 700 คดี ต่อไปต้องขยายผล คือการเชื่อมโยงกล้องของ กทม. เข้ากับกล้องของเอกชนอีกกว่า 2 แสนตัว ให้บ้านเมืองมีหูมีตามากขึ้น เพื่อป้องปรามอาชญากรรม และการค้าขายยาเสพติด ซึ่งเป็นการลงทุนที่ไม่มากเท่าไรนัก และก่อนผมจะพ้นจากตำแหน่ง ได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อจัดซื้อกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก 27,000 ตัว จะติดตั้งทุกหมู่บ้าน ทุกตรอก ซอก ซอย มุมมืด มุมอับ จะติดตั้งให้เต็มพื้นที่ ให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้” ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

“วัฒนธรรม” ทิศทางเศรษฐกิจโลกยุคหน้า

หากจะถามว่าอะไรคือเศรษฐกิจกระแสหลัก ณ วันนี้และในอนาคต เชื่อว่าหลายคนคงจะตอบว่า “ศิลปะวัฒนธรรม” เพราะกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า วัฒนธรรมที่โดดเด่น สามารถกลายเป็นสินค้า ทำรายได้อย่างมหาศาลให้กับประเทศ ดังจะเห็นได้จากทั้งจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ที่โดดเด่นมากในการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนผ่านสื่อบันเทิงต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ เพลง และละคร (ซีรีส์) ไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนจำนวนมาก เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศดังกล่าว

นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ (หมายเลข 10) เจ้าของนโยบาย “กรุงเทพ 24 ชั่วโมง” กล่าวว่า ทิศทางที่ กทม. ควรจะเป็น ไม่ใช่เมืองแห่งอุตสาหกรรม แต่เป็นเมืองแห่งการค้าขาย การทำธุรกิจ และศิลปะวัฒนธรรม เพราะทุกวันนี้ กทม. แออัดเกินกว่าจะขยายภาคอุตสาหกรรมได้แล้ว ขณะเดียวกัน กทม. เอง แต่ละเขตก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รอให้เข้าไปผลักดันและพัฒนา เพื่อยกระดับให้เป็นจุดขายได้อีกมาก

“50 เขต 50 ยุทธศาสตร์ เป็นการพัฒนาทั้งเศรษฐกิจและสังคม เราจะต้องเอานักการตลาด นักคิดสร้างสรรค์ เข้าไปร่วมกับประชาชนของแต่ละเขต อย่างหนองจอกซึ่งเป็นเขตแรกที่ผมไป เพราะทราบมาว่าพื้นที่นี้แตกต่างจากเขตอื่นๆ และเขาก็รู้สึกว่าเขาเป็นลูกเมียน้อย งบประมาณต่างๆ กว่าจะไปถึงเขาก็น้อยมาก และเป็นลำดับสุดท้าย เขาบอกเขาไม่มีอะไรเลย ผมไปดู ผมว่าเขามีตั้งเยอะ เพราะเป็นพื้นที่เกษตร และเป็นชาวมุสลิมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

ผมก็ไปเห็นข้าวหมกไก่ของเขา ผมว่าถ้าพัฒนาดีๆ ต่อไปอาจจะเหมือนแหนมเนืองของหนองคาย ส่งขายทั่วประเทศได้เลย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะวัฒนธรรมได้ เป็น Muslim Town เหมือนกับเยาวราชที่เป็น China Town นี่เป็นการพัฒนาไปทั้งเศรษฐกิจและสังคม ถ้าเราทำได้ทุกเขต และจะแก้ปัญหารถติดได้ด้วย เพราะไม่ต้องเดินทางไปค้าขายข้ามเขต เพราะแต่ละเขตมีครบ ทั้งย่านการค้า โรงเรียน โรงพยาบาล ดังนั้นไปเขตอื่นก็แค่ไปเที่ยวเท่านั้น” ผู้สมัครเจ้าของนโยบาย “กรุงเทพ 24 ชั่วโมง” ชี้ให้เห็นทิศทางการพัฒนา กทม. ในยุคต่อไป

“เยาวชน” อีกส่วนที่ต้องให้ความสำคัญ

หลายปีที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในสังคมไทย นั่นคือกระแส “เบื่อการเมือง” ในหมู่เด็กและเยาวชน โดยให้เหตุผลว่า “เลือกตั้งกี่ที ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น” ขณะเดียวกัน ปัญหาของเยาวชนหลายประการก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคใดก็ตาม ทั้งนี้ปัญหาที่สำคัญของเยาวชนใน กทม. ที่เห็นชัดมี 2 ประการ คือเด็กนักเรียนยกพวกตีกัน กับปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา

สำหรับปัญหานักเรียนนักเลงนั้น นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ (หมายเลข 17) ตั้งข้อสังเกตว่า รากของปัญหาดังกล่าว ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง คือกระบวนการปลุกระดม ล้างสมองรุ่นน้องโดยรุ่นพี่ของแต่ละสถาบัน จนรุ่นน้องกลายเป็นคนที่สามารถฆ่าผู้อื่นได้ เพียงเพราะอยู่คนละสถาบันเท่านั้น

“มันเป็นความเชื่อที่รุ่นพี่ปลูกฝังรุ่นน้อง มาเป็นทอดๆ ความเชื่อนั้นเริ่มที่การรับน้อง ปลุกกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย น้องๆ ก็เลยโดนล้างสมองตั้งแต่เข้าไป ผมว่าเราต้องเน้นเรื่องนี้มากๆ เราต้องเข้าไปยังสถาบันก่อน ไปบอกครูว่าอะไรที่ต้องห้ามส่งทอดความคิด ผมขอเลย เรื่องนี้ต้องเอาจริง ต้องประสานงานกับตำรวจ เรามีกล้องวงจรปิด แล้วก็รู้ว่าจุดที่มันเกิดเรื่อง ไม่ใช่จุดใหม่ๆ เท่าไร เรื่องนี้ต้องถูกหยิบยกขึ้นมาจริงจัง เราต้องหยุดความเชื่อนี้ให้ได้ ถึงจะเริ่มไปทำกิจกรรม ไปสร้างความสมานฉันท์ได้” คุณสหฤท เจ้าของฉายา “ผู้ว่าฯ เด็กแนว” กล่าว

ขณะที่ปัญหาร้านเหล้ารอบสถานศึกษา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่แก้ยาก โดยในช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เคยมีเครือข่ายที่ทำงานด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาพบ เพื่อขอให้จริงจังกับนโยบายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในรัศมี 500 เมตรรอบสถานศึกษา ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่าในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ เพราะ กทม. เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานศึกษามักจะอยู่ติดกัน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้อย่างดีที่สุด คือการบังคับใช้กฏหมายอื่นๆ ที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด ทั้งการจำกัดเวลาขาย และห้ามขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

“เคยมีกลุ่มเยาวชน และองค์กรเอกชนมาพบผม ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มีการขายสุราบริเวณ 500 เมตร ของสถานศึกษา ผมบอกว่าผมเห็นใจ ลองตีเส้นวงกลมบนแผนที่กรุงเทพ 500 เมตรรอบสถาบันการศึกษาทุกแห่งใน กทม. ถ้าห้ามขายสุรา ท่องเที่ยวจะไม่มีอะไรเหลือเลย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาธิตจุฬา สาธิตประสานมิตร โรงเรียนวัดหัวลำโพง โรงเรียนในวัดไตรมิตร มันทำไม่ได้หรอกครับ เราต้องยอมรับความเป็นจริง ถ้าเป็น ม.อุบล หรือ ม.สุรนารี อันนั้นทำได้ครับ เพราะอยู่ไกลเมือง ไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ดังนั้นเราต้องหาวิธีอื่น เช่นเรามีกฏหมายห้ามขายแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุไม่ถึง ก็ให้ตำรวจไปจับครับ และที่ทำกันแล้ว คือผมให้เทศกิจไปเดินเป็นหูเป็นตา ในพื้นที่โดยรอบของโรงเรียนในสังกัด กทม. ไปดูว่าเด็กมีพฤติกรรมที่เกี่ยวกับอบายมุขมากน้อยเพียงใด ถ้าเจอในเวลาเรียน ก็ต้องดึงกลับไปโรงเรียน ถ้าเจอหลังเวลาเรียน ก็ต้องแจ้งครู แจ้งพ่อแม่ แต่ กทม. ทำเองไม่ได้หมด เพราะเทศกิจเรามีเพียง 3,100 คน แต่ กทม. มีพื้นที่เกือบ 1,600 ตารางกิโลเมตร ดังนั้นจึงเป็นปัญหาที่ทั้งสังคมและหน่วยงานของรัฐ จะต้องแก้ไขร่วมกัน”  ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย

จะเห็นได้ว่าผู้สมัครแต่ละคน ต่างก็มีมุมมองต่อกรุงเทพมหานคร ที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า กทม.ยังมีปัญหาอีกมากมาย ที่ยังรอการแก้ไข ขณะเดียวกัน ศักยภาพอีกหลายอย่าง ก็ยังไม่ถูกพัฒนาขึ้นมาใช้อย่างเต็มที่

ดังนั้น วันที่ 3 มีนาคม 2556 ที่จะถึงนี้  คะแนนเสียงทุกเสียงในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ จะเป็นตัวตัดสินว่า..อะไรที่สิ่งที่ชาว กทม. ต้องการให้เมืองหลวงแห่งนี้เป็น

SCOOP@NAEWNA.COM

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'ไพศาล'อัปเดตอาการล่าสุด 'พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ'

‘ตร.อุตรดิตถ์’รวบ 4 ผู้ต้องหา-ยึดยาบ้าเกือบ 1.5 ล้านเม็ด ลำเลียงจากเชียงราย มุ่งส่งเข้านนทบุรี

รัฐบาลย้ำเกษตรกร เร่งขึ้นทะเบียนปีการผลิต2568/69 รอรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1 พัน

‘ธนกร’ขอบคุณสภาโหวตผ่านงบ69 ฉลุย แนะรัฐบาลคุมเข้มใช้จ่ายป้องโกง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved