ปีนี้นักสอยคิวไทยไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง!
การดวลคิวเที่ยวล่าสุด ตอกย้ำว่า วงการสอยคิวไทย ไม่ได้หยุดอยู่กับที่ เมื่อมีรางวัลการันตีความสำเร็จมาอีกครั้ง จากการแข่งขันสนุ้กเกอร์เยาวชนชิงแชมป์โลก ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย
เราได้แชมป์ทั้งประเภทชาย และหญิง เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์!!!
ในประเภทชาย ผู้ที่เป็นแชมป์จะได้สิทธิ์ไปเล่นสนุ้กเกอร์ระดับอาชีพโลก หรือ เมนทัวร์ เป็นเวลา 2 ปี “ไฟว์ นครนายก” บุญญฤทธิ์ เกียรติกุล นักสอยคิวเจ้าของแชมป์เยาวชนประเทศไทย ที่สยบ เจมี่ คลาร์ก ของเวลส์ ไปแบบแฟนสอยคิวแทบจะหยุดลมหายใจ 8-7 เฟรม
ไฟว์ กับ ใบพัด กับโทรฟี่แชมป์เยาวชนโลกที่ได้รับในวันเดียวกัน (ขวา) อวดถ้วยทันทีที่เดินกลับถึงบ้าน
จากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ ไฟว์ นครนายก คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับเป็นแชมป์อย่างสมบูรณ์แบบมาก เพราะชนะทุกนัดที่ลงสนาม
พร้อมกันนี้ ไฟว์ นครนายก เป็นนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่ได้แชมป์เยาวชนโลก โดยคนแรกคือ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ปี 2009 และคนที่ 2 คือ “แมน นครปฐม” ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ ปี 2011
ขณะที่ประเภทหญิง สองนักสอยคิวดาวรุ่งของไทย “ใบพัด ศรีราชา” ศิริภาพร นวนทะคำจัน แชมป์ 6 แดงหญิงโลก และแชมป์โลกประเภทคู่เมื่อปีก่อน ทำศึกสายเลือดก่อนชนะรุ่นน้องที่ยิ่งอยู่ยิ่งหน้าเหมือนกันอย่าง “มิงค์ ศิษย์บิ๊ก” ณัชชารัตน์
วงศ์หฤทัย 5-2 เฟรม
คว้าแชมป์เยาวชนโลกเป็นคนแรกของเด็กไทย
ขณะที่ น้องมิงค์ ก็ทำสถิติที่เชื่อว่าจะอยู่คู่กับวงการสอยคิวหญิงไปอีกนาน คือการทำเซ็นจูรี่เบรก 124 แต้มในรอบแรก
ซึ่ง น้องใบพัด บุตรสาวของ “หยิก สำโรง” พิสิษฐ์ จันทร์ศรี แชมป์อาวุโสโลก 2 สมัยซ้อน เป็นผู้ประคบประหงมลูกสาวให้เล่นสนุ้กเกอร์มาตั้งแต่ 8 ขวบ ตัวเล็กไม่ถึงโต๊ะ ก็จะใส่รองเท้าส้นตึกเล่น ก่อนจะเข้าสู่ยุทธจักรเมื่อปี 2553
ซึ่ง ใบพัด ก็ยืนยันเหมือนปีก่อนว่า ใฝ่ฝันที่จะเทิร์นโปร เล่นในรายการอาชีพให้ได้
การได้แชมป์หนนี้ต้องยกเครดิตให้กับนักกีฬาที่ตั้งใจฝึกซ้อม, ครอบครัวที่ให้การสนับสนุน และที่สำคัญ ศูนย์พัฒนากีฬาบิลเลียดแห่งเอเชีย ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย ออกดอกออกผลที่ชัดเจนอีกครั้ง
เพราะก่อนหน้านี้แชมป์เยาวชนโลกทั้ง 2 คนคือ หมู ปากน้ำ กับ แมน นครปฐม คือ “ศิษย์รุ่นพี่” ของไฟว์นั่นเอง
ในอนาคตน่าสนใจมากๆ เพราะ ไฟว์ ก็เหมือนกับนักกีฬาทั่วไป คืออยากเทิร์นโปรที่อังกฤษ
ไฟว์ เริ่มหัดเล่นกีฬาสนุ้กเกอร์ตั้งแต่อายุไม่ถึง 10 ขวบที่ศูนย์ฝึกของจังหวัดนครนายก โดยมี พ่อชูชีพ ที่ชื่นชอบสนุ้กเกอร์อยู่แล้วเป็นอาจารย์คนแรก ก่อนที่ปี 2553 เข้าสู่วงการเต็มตัว และเข้าสู่ศูนย์ฝึกตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2555 ภายใต้การดูแลของ “โค้ชต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์
ที่สำคัญการเป็นแชมป์หนนี้ทำให้ ไฟว์ มีอาการ “ตื่นเต้น” เป็นหนแรก เขายอมรับว่า เขาไม่เคยตื่นเต้นอะไรขนาดนี้มาก่อน ซึ่งทุกคนที่อยู่รอบตัว ไฟว์ คงรู้ดีว่า “คำว่ากลัว” ไม่อยู่ในพจนานุกรมของเด็กคนนี้เลย
บางครั้งคนเรากลัว หรือตื่นเต้นตกใจบ้างก็ดีเหมือนกัน
ว่ากันตามเชิงเด็กจากศูนย์ฝึกของไทยตอนนี้ ไฟว์ ถือเป็น “หัวหอก” ลำดับต้นๆ หากเขามุ่งมั่นตั้งใจจริง เชื่อว่าการไปเล่นอาชีพจะช่วยปรุงแต่งให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และน่าจะบอกได้ว่า แชมป์นี้อาจจะเป็นแชมป์เปลี่ยนชีวิตของเขาเลยก็ได้
เพราะโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ และไม่ได้มากันบ่อยๆ คนเราหากมีแค่ความสามารถ แต่ไม่มีความตั้งใจและไม่มีโอกาส คงทำอะไรไม่ได้ หวังว่าทุกอย่างจะลงตัวไม่เสียโอกาส
กับแชมป์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี