สกรูย้อนกลับไปเมื่อปี 2004
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปยัง “ที่ที่ชอบ” เป็นหนแรก นั่นคือเกาะมหาสมบัติ ประเทศอังกฤษ
หลังจากเพิ่งเดินทางไกลสุดชีวิต พร้อมกับได้ไปกิน “แกงส้มแพะ” กับขี่ม้าเข้าเมืองเปตรา ดินแดนสุดมหัศจรรย์ที่ประเทศจอร์แดน เมื่อกลางปี และหลังจากนั้น 2 เดือนได้เดินทางไกลกว่าเดิม กับการไปทำข่าวที่ “เบียร์ช้าง” เซ็นสัญญาคาดหน้าอก “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน
ไม่น่าเชื่อว่าการเดินทางไปครั้งนั้น เมืองลิเวอร์พูล ที่มีสองทีมดังเป็นทัพหน้าอย่าง ลิเวอร์พูล และเอฟเวอร์ตัน ต้องเสียขุนพลในแดนหน้าไปในเวลาที่ใกล้เคียงกัน
อีกทั้ง 2 คนนั้นมี “ดีเอ็นเอ” ความเป็น “สัญลักษณ์” ที่ชัดเจนของทีมอีกด้วย
14 สิงหาคม 2004 เท้าซ้ายแตะแผ่นดินผู้ดี และเข้าเช็คอินที่โรงแรมริมแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ พอหยิบหนังสือพิมพ์ปุ๊บก็ได้เห็นข่าว ไมเคิล โอเว่น ย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แบบสุดช็อก ซึ่งตรงกับวันเปิดสนามซีซั่น 2004-05 พอดิบพอดี
หลังจากนั้น 1 วัน ผมได้ไปทำข่าวที่กูดิสัน พาร์ค และคณะได้มีโอกาสลงไปในสนามในฐานะแขกของสโมสร พร้อมกับได้เห็นไอ้หนูดาวรุ่งวัยยังไม่ครบ 19 ปี ที่โด่งดังไม่แพ้ใคร นั่นคือ เวย์น รูนี่ย์ ใส่สูทผูกเนคไทเดินเข้ามาในสนาม
ช่วงนั้น รูนี่ย์ ดังแบบสุดๆ เพราะแจ้งเกิดมาด้วยวัยไม่ถึง 17 ปี ด้วยการยิงใส่ อาร์เซนอล พาทีมกำชัย 2-1 ทำให้ อาร์เซนอล แพ้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 เกม เมื่อ 19 ตุลาคม 2002
ทันทีที่โฆษกสนามประกาศชื่อของ รูนี่ย์ แฟนบอลเอฟเวอร์โตเนี่ยน ส่งเสียงเฮกระหึ่ม ตอนนั้น รูนี่ย์ มีอาการบาดเจ็บ ไม่สามารถลงเล่นเกมนั้นได้ เพียงแต่มาร่วมเป็นสักขีพยาน ในพิธีการในการเซ็นสัญญาวันนั้น
ผมมีโอกาสได้สัมผัสมือกับ ไอ้หนูรูนี่ย์ และหลังจากเสร็จพิธีแล้วระหว่างจะเดินเข้าอุโมงค์ โฆษกประกาศประมาณว่า แม้จะมีข่าวย้ายทีมแต่นักเตะคนนี้จะเป็นของเราตลอดไป พร้อมกับคำว่า “Once a blue, Always a blue”
ซึ่งเป็นคำที่เขาเคยพูด และเป็นคำที่เขาเขียนในเสื้อกล้าม พร้อมกับโชว์ให้แฟนบอลเห็นหลังพังประตูได้
จากนั้นหลังเกม ผมออกมาด้านนอกสนาม เพื่อหาซื้อของที่ระลึก แล้วก็เตะตาเสื้อสีน้ำเงินสวยงาม สกรีนด้านหน้าเป็นภาพรูนี่ย์ซ้อนกัน 3 ภาพ พร้อมกับวลี “Once a blue, Always a blue”
ด้านหลังติดหมายเลข 18 ซึ่งเป็นเบอร์ของ รูนี่ย์ ในตอนนั้น พร้อมกับสกรีนชื่อว่า “ROONALDO”
นั่นคือการนำชื่อของ “ROONEY” มารวมกับ “RONALDO” นั่นคือ โรนัลโด้ เดอ ลิม่า หัวหอกสุดยอดของโลกในยุคนั้นของทีมชาติบราซิล
จึงเป็นที่มาของคำว่า “รูนัลโด้”
ผมซื้อเสื้อตัวนี้ทันทีแบบไม่คิด เพราะมันสวยงามโดนใจสุดๆ ในสนนราคา 10 ปอนด์ ซึ่งตอนนั้นแพงสุดขั้วมากๆ เนื่องจากค่าเงินตอนนั้น 86 บาท มีค่าเท่ากับ 1 ปอนด์เท่านั้น
ถือเป็นความทรงจำที่สุดคลาสสิกกับ รูนี่ย์ ทั้งได้เจอตัว, ได้จับมือ, ได้ซื้อของกลับมา พร้อมกับเชื่อมั่นว่า รูนี่ย์ จะอยู่ต่อ เพราะหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในวันรุ่งขึ้นคือ 16 สิงหาคม
ยืนยันว่า รูนี่ย์ อยู่ต่อแน่นอน
ครับ....หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ รูนี่ย์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ค่าตัวแพงที่สุด ด้วยการย้ายไป “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 27 ล้านปอนด์!!!
ไม่อยู่อย่างที่ยืนยันซะงั้นแหละ....
มาถึง 24 ตุลาคมปีนี้ เวลาหมุนผ่านให้ “ไอ้หมูรูน” กลายเป็น “สุกรโลกันตร์” และปัจจุบันเขาอายุ 30 ปีเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมกับมีสถิติหลายอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขา
ทั้งการรับเงินค่าเหนื่อยเป็นสถิติ 300,000 ปอนด์/สัปดาห์ หรือจะเป็นการเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ 50 ประตู ทุบสถิติเดิมไปแล้ว
รวมไปถึงอนาคตข้างหน้าที่ “อาจเกิดขึ้นได้” ทั้งการลงเล่นทีมชาติอังกฤษมากที่สุด, การยิงประตูสูงสุดของสโมสรแมนฯยูไนเต็ด หรือการขึ้นชั้นทำเนียบระดับท็อปดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก
ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพราะชีวิตของ “ไอ้หมูจอมพลัง” คนนี้
มันพลิกไปพลิกมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว!
30เรื่องน่าสนใจบนวัย30ปีของ‘รูนี่ย์’
1.เกิดที่คร็อกซ์เท็ธ เมืองลิเวอร์พูล เมื่อ 24 ตุลาคม 1985
2.เขาเป็นแฟนบอลเอฟเวอร์ตันพันธุ์แท้
3.เข้าร่วมทีมเอฟเวอร์ตันเมื่อปี 1996
4.เขาแจ้งเกิดด้วยการยิงประตูชัยให้ เอฟเวอร์ตัน คว่ำ อาร์เซนอล ในนาทีสุดท้าย ปี 2002 ก่อนวันเกิดครบ 17 ปีแค่ 5 วันเท่านั้น
5.ก่อนมาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน เขาอยู่ที่ค้อปเพิ้ลเฮาส์ บอยส์ คลับ
6.เคยถูกนักเลง 6 คนรุมตื้บตอนเขาอายุ 13 ปี แต่ รูนี่ย์ ชนะ เพียงแต่เขาโดนต่อยจนตาเขียว
7.เงินก้อนแรกที่ได้รับหลังการเซ็นสัญญาอาชีพกับ เอฟเวอร์ตัน คือ 75 ปอนด์
8.บ็อบ เพนเดลตัน สเกาท์ของเอฟเวอร์ตัน เป็นคนดึง รูนี่ย์ เข้าร่วมทัพทอฟฟี่เมน
9.ปีเตอร์ แม็คอินทอช คือเอเย่นต์คนแรกของ รูนี่ย์ ตอนอายุ 14 ปี ซึ่งจับเขาเซ็นกับ อัมโบร ได้เงิน 2,000ปอนด์/ปี
10.ตอนอายุได้ 10 ขวบ เขาเคยเป็นมาสค็อต ที่กูดิสัน พาร์ค มาแล้ว
11.เขานอนอยู่กับพ่อแม่จนกระทั่งอายุ 5 ขวบกว่าจะแยกเตียง เพราะเขาบอกว่า เห็นผีสีเขียวกับเหลืองอยู่ที่หน้าต่างทุกวัน
12.ตอนที่ลงสนามให้ทีมเอฟเวอร์ตัน ชุดยู-11 เขามีสถิติลงเล่น 30 นัด ซัดไปถึง 114 ประตู
13.เขาเคยถูกสั่งพักการเรียน 2 วัน ด้วยการเข้าไปพังห้องแล็บ เพราะถูกยึดลูกฟุตบอล
14.ในช่วงที่เขาแจ้งเกิดปี 2003 พ่อค้าร้านแฟนซีนที่กูดิสัน พาร์ค ทำเสื้อเบอร์ 18 ของเขามาขาย สกรีนรูปพร้อมคำพูด “Once a blue, Always a blue” และด้านหลังติดชื่อว่า “ROONALDO” เพื่อยกให้ รูนี่ย์ เก่งเหมือนกับ โรนัลโด้(RONALDO) กองหน้าบราซิล ที่เก่งสุดยุคนั้น
15.ถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดยู-15 แต่ถูกขยับจากตำแหน่งกองหน้าไปเล่นปีกขวา เพราะ สตีฟ ตัตเตอร์ โค้ชของทีมบอกว่า เขาไม่ดีพอที่จะเป็นกองหน้าตัวเป้า
16.นอกจากเป็นแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน เขายังเชียร์ กลาสโกว์ เซลติก ของสกอตแลนด์ และ ลีดส์ รินอส ในรักบี้ลีกอีกด้วย
17.เขาชอบต่อยมวย และเป็นเพื่อนสนิทกับ ริกกี้ ฮัตตัน อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ด้วย
18.เบอร์เสื้อเบอร์ 18 คือเสื้อที่เขาแจ้งเกิดในวงการฟุตบอล
19.เขาย้ายไปแมนยูฯ ตอนอายุ 19 ปี ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์
ด้วยการจ่ายเงินสดก่อน 20 ล้านปอนด์
20.รูนี่ย์ ถูกเปิดเผยว่า เขาขอขึ้นบัญชีย้ายทีมเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2004 ทำให้แฟนบอลเอฟเวอร์ตัน โกรธในการกระทำของเขาอย่างมาก
21.ก่อนย้ายไป แมนยูฯ นั้น เอฟเวอร์ตัน ได้ยื่นเงิน 50,000 ปอนด์/สัปดาห์แต่ถูกเขาปฏิเสธ โดยตอนนั้น นิวคาสเซิ่ล ก็ขอซื้อตัวในราคา 20 ล้านปอนด์ด้วยเช่นกัน
22.เขาลงเล่นให้แมนยูฯ นัดแรก ด้วยการใส่หมายเลข 8 ก็ซัดแฮททริคได้ทันที ในเกมดวลกับ เฟเนห์บาเช่ ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
23.ตอนที่เขาติดทีมชาติหนแรกปี 2003 เขาเผลอหลับอยู่ในห้องที่โรงแรม ก่อนจะถูกปลุกไปร่วมประชุมทีม
24.เป็นดาวยิงสูงสุดของประเทศอังกฤษ เมื่อซัดไปแล้ว 50 ประตู แซงสถิติเดิม 49 ประตูของ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
25.รูนี่ย์ มีข่าวจะย้ายออกจาก แมนฯยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการรวม 3 ครั้ง
26.ถ้าให้เลือกเป็นสัตว์สักอย่าง รูนี่ย์ บอกว่า เขาอยากเป็น “ฉลาม”
27.รูนี่ย์ ชื่นชอบการร้องคาราโอเกะอย่างมาก
28.เป็นนักบอลคนแรกของพรีเมียร์ลีก ที่มีคนตามทวิตเตอร์ทะลุ 10 ล้านคน
29.เขาเสียค่าปลูกผมไปเกือบๆ 1.8 ล้านบาท เพื่อให้กลับมาดกดำเหมือนเดิม
30.เขาออกเดทครั้งแรกกับ คอลีน แม็คลาฟลิน ด้วยการไปดูหนังท้องถิ่นเรื่อง “Austin Powers”
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี