“เด็กออกกำลังกาย พร้อมได้รับโภชนาการที่เหมาะสมในวันนี้ คือผู้ใหญ่สุขภาพดีในวันหน้า” ด้วยเหตุนี้คุณพ่อ-คุณแม่จึงมีส่วนสำคัญในการจุดประกายให้ลูกมีความสนใจในการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายไปพร้อมๆ กับการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะเชื่อว่าการออกกำลังกายมีส่วนช่วยในการฝึกทักษะชีวิตให้ลูกเติบโตอย่างสมบูรณ์เป็นแชมเปี้ยนและประสบความสำเร็จในชีวิต จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการ “ไมโล สปอร์ต คลินิก” ขึ้น เพื่อเสริมพัฒนาการให้กับเด็กๆ ผ่านทางการออกกำลังกาย รวมถึงการเทคโนโลยีมาช่วยให้คุณพ่อ-คุณแม่สามารถติดตามการใช้พลังงานของเด็กๆ เพื่อปรับปรุงโภชนาการให้เหมาะสมกับความต้องการพลังงานในแต่ละวัน
ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการสำหรับผู้ใหญ่ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ไมโลสานต่อพันธกิจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อร่อยและมีโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็กวัยเรียน ควบคู่กับการส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง และเอาชนะตัวเองทุกวัน เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตด้วยการริเริ่มโครงการ “ไมโล สปอร์ต คลินิก” เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทย โดยเฉพาะในวัย 7-12 ปี ได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานและเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ผ่านการออกกำลังกายด้วยฟุตบอล พร้อมโภชนาการที่เหมาะสมเพื่อเติบโตสมวัย มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และทักษะการเข้าสังคม พร้อมปลูกฝังให้มีความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจ ในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ และมีไลฟ์สไตล์ที่แอ๊กทีฟพร้อมออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น”
“ไมโล สปอร์ต คลินิก” โครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ วัย 7-12 ปี ที่มีใจรักกีฬารวมกว่า 500 คน
เข้าร่วมฝึกอบรมร่วมกับผู้ฝึกสอนที่ชำนาญการด้านกีฬาฟุตบอลใน 10 อคาเดมีทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันเสาร์
และอาทิตย์ วันละ 3 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 เดือน ติดตามรายละเอียดข้อมูลได้ทาง www.facebook.com/MILOThailand
“ไมโล สปอร์ต คลินิก” เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้เด็กๆ วัย 7-12 ปี ที่มีใจรักกีฬารวมกว่า 500 คน เข้าร่วมฝึกอบรมร่วมกับผู้ฝึกสอนที่ชำนาญการด้านกีฬาฟุตบอลใน 10 อคาเดมีทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์วันละ 3 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 เดือนซึ่งนอกจากจะเป็นโครงการที่ให้ความรู้และความสนุกของกีฬาฟุตบอลแล้วยังมีความโดดเด่นใน 3 ด้าน ได้แก่
1) การใช้เทคโนโลยีสร้างฐานข้อมูลในด้านพลังงาน และโภชนาการของเด็กด้วย “ไมโล แชมเปี้ยน แอพพลิเคชั่น” โดยเด็กๆ ทุกคนจะได้สวมใส่สายรัดข้อมือ ไมโล แชมเปี้ยนแบนด์เพื่อวัดพลังงานในแต่ละวันตลอดโครงการ และคุณแม่สามารถติดตามพัฒนาการของลูก ความสมดุลของพลังงานที่รับและใช้ต่อวัน รวมทั้งคำแนะนำโภชนาการที่เหมาะสม ผ่านทางแอพพลิเคชั่นดังกล่าวทางโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลต
2) การปรับปรุงโภชนาการให้เหมาะสมกับความต้องการของเด็ก คุณแม่สามารถนำข้อมูลด้านพลังงานที่เด็กใช้ไปในแต่ละวันมาใช้ปรับปรุงโภชนาการที่เหมาะสมให้กับลูกๆ ได้จริง โดยแอพพลิเคชั่นจะมีเมนูอาหารที่ลูกรับประทานมาให้คุณแม่เลือกประกอบกัน ซึ่งจะทำให้คุณแม่ทราบว่าลูกได้รับพลังงานและสารอาหารเพียงพอในแต่ละวันหรือไม่ โดยปกติแล้วเด็กควรได้รับพลังงานจากอาหาร 1,600 กิโลแคลอรีต่อวัน พร้อมยังมีเคล็ดลับสุขภาพเพื่อช่วยให้ลูกๆ มีโภชนาการและสุขภาพที่ดี
3) การฝึกทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐาน เด็กๆ ได้มีโอกาสในการเรียนรู้ และเสริมสร้างพัฒนาด้านต่างๆ ผ่านการออกกำลังกายด้วยกีฬาฟุตบอลจากโค้ชที่มีความเชี่ยวชาญในการฝึกสอน โดยได้รับเกียรติจาก “โค้ชหรั่ง” ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย มาร่วมออกแบบหลักสูตรการฝึกสอน ประกอบด้วย 21 ทักษะ เช่น การเลี้ยงบอลหลบสิ่งกีดขวาง โหม่งลูก เดาะบอล การส่งบอล และอื่นๆ นอกจากนี้กิจกรรมยังฝึกสอน เรื่องความปลอดภัยระหว่างการแข่งขันของตัวผู้เล่นและเพื่อนร่วมทีม
โดย “โค้ชหรั่ง” เปิดเผยว่า “เด็กเป็นเสมือนผ้าขาว เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่คือคนสำคัญในการปูพื้นฐานเพื่ออนาคตที่ดีจึงควรส่งเสริมให้ลูกหลานมีพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของร่างกายและจิตใจที่ดี อย่างโครงการ “ไมโล สปอร์ต คลินิก” เป็นโครงการที่เด็กๆ จะได้สนุกกับการเล่นฟุตบอล ด้วยการเรียนรู้ทักษะพื้นฐานที่ถูกต้องจากโค้ชผู้ฝึกสอนที่ทรงคุณวุฒิ ซึ่งนอกจากเด็กๆ จะได้ในเรื่องของพัฒนาการที่ดี และใช้ชีวิตอย่างคล่องแคล่วกระฉับกระเฉงแล้ว ยังได้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยด้วย”
น้องศีตรา (ซีต้า) เปตานนท์ วัย 10 ปี บอกว่า “หนูชอบมาเล่นฟุตบอลกับไมโลมากเลยค่ะ ตอนแรกมาเพราะอยากมาเป็นเพื่อนน้องแรกๆ ก็โดนล้อว่า เป็นผู้หญิงจะเล่นฟุตบอลได้ไหม แต่พอได้มาเล่นจริงๆ แล้ว หนูก็ชอบเพราะโค้ชสอนตั้งแต่พื้นฐานเลยทั้งเลี้ยงบอล หลบสิ่งกีดขวาง โหม่งลูก เดาะบอล และส่งบอล แล้วโค้ชยังให้หนูออกมาเลี้ยงลูกเป็นตัวอย่างเพื่อนๆ แล้วหนูก็ชอบสายรัดข้อมือมากๆ เลยค่ะ เพราะหนูจะรู้เลยว่าวันนี้หนูใช้พลังงานไปเท่าไหร่ คุณแม่ก็จะเตรียมอาหารให้หนูกับน้องได้ถูกค่ะ ทุกเช้าก่อนออกมาสปอร์ต คลินิก คุณแม่ก็จะเตรียมนมให้ดื่ม 1 แก้วทำอาหารเช้าง่ายๆ ให้ทานในรถบางวันก็เป็นแซนด์วิชบ้าง ซีเรียลบ้าง หรือข้าวกล่องง่ายๆ เพราะบ้านไกล ถ้าปีหน้ามีไมโล สปอร์ต คลินิก หนูก็จะมาอีกค่ะ”
น้องพันธุ์ธีร (แพนเธอร์) เปตานนท์ วัย 8 ปี เล่าว่า “มาเรียนฟุตบอลกับพี่สาวก็สนุกมากครับ โค้ชฝึกสอนพวกเราให้รู้จักทักษะการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้อง ไม่ได้เน้นให้เล่นเก่ง แต่เล่นเพื่อสุขภาพแข็งแรง และมีพื้นฐานที่ดี ผมก็เลยสนุกและอยากมาเล่นกับเพื่อนๆ ได้เรียนรู้ว่า ฟุตบอลต้องเล่นเป็นทีมหลายๆ คน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งโชว์เดี่ยว ต้องรู้จักเลี้ยงบอล ส่งบอลให้เพื่อน พอเล่นเยอะๆ ใช้พลังงานไปเยอะ เราก็จะดูได้จากแอพพลิเคชั่น ก็ต้องรับประทานอาหารที่มีคุณค่าให้เพียงพอในแต่ละวันด้วยครับ”
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดีๆ ที่ให้โอกาสกับเด็กๆ ที่มีรักกีฬาฟุตบอล ได้ฝึกทักษะพื้นฐาน และเตรียมความพร้อมของร่างกาย ซึ่งจะเป็นหนทางในการสนับสนุนพวกเขาให้รู้จักเอาชนะตัวเอง และก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/MILOThailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี