.
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 16 ปี 1998 ที่ฝรั่งเศส
แชมป์โลกใหม่ ไม่ได้กำเนิดมานาน ตั้งแต่ปี 1978 เช่นเดียวกับกับการเป็นเจ้าภาพและได้แชมป์โลก ก็ไม่เกิดขึ้นจากการศึกครั้งเดียวกัน ที่สุดแล้ว 20 ปีให้หลัง ฝรั่งเศส ทำได้สำเร็จ!
กองทัพเลส เบลอส์ ภายใต้การคุมทัพของ เอมเม่ ฌัคเกตส์ สร้างปรากฏการณ์ครองแชมป์โลก หลังจากเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง บราซิล ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 3-0
ในเกมที่เป็นครั้งแรกที่มีทีมเข้าเล่นรอบสุดท้าย 32 ทีม
มิเชล พลาตินี่ ขาใหญ่ที่จัดการแข่งขันครั้งนั้น เพิ่งออกมาบอกว่า มีการตระเตรียมให้ ฝรั่งเศส กับ บราซิล โคจรมาเจอกันในนัดชิงชนะเลิศ ให้เป็น “ดรีม ไฟนอล” ที่ใคร ๆ ก็อยากติดตามชม แล้วสุดท้ายก็สมใจอยาก และที่สมใจก็คือ ฝรั่งเศส เป็นแชมป์บอลโลกซะที
บอลโลกแดนน้ำหอมมีเหตุการณ์ที่โลกจดจำแม่นยำ โดยเฉพาะแมทช์ อาร์เจนติน่า คว่ำ อังกฤษ ด้วยจุดโทษ นั่นก็เพราะมีเหตุการณ์การโดนไล่ออกของ เดวิด เบ๊คแฮม, การยิงประตูจนได้รับฉายาว่า “เบบี้ โกล์” ของ ไมเคิล โอเว่น และผู้รักษาประตูของฟ้าขาวคือ คาร์ลอส โรอา เล่นบอลโลกครั้งนี้เป็นหนแรกและหนสุดท้าย เพราะเขาอุทิศตัวเองให้กับศาสนา เนื่องจากเชื่อว่าโลกจะแตกในปี 2000
โครเอเชีย ที่มาบอลโลกหนแรกทะลุเข้ารอบตัดเชือก ด้วยการคว่ำ เยอรมนี กระจุย 3-0 ในรอบ 8 ทีม และเกือบได้ชิง แต่มาโดนสองประตูทีเด็ดของ ลิลิยง ตูราม ทำให้พวกเขาต้องไปชิงอันดับ 3 กับ เนเธอร์แลนด์ ที่โกงตายชนะช่วงทดเวลาเจ็บได้สองเกมติดในรอบน็อคเอาท์ และมาพลาดการดวลเป้ากับ บราซิล
ซึ่งก่อนนัดชิงจะเริ่มต้นขึ้น มีข่าวว่า บราซิล ทะเลาะกันยับเมื่อ เอ๊ดมุนโด้ จะถูกส่งลงเล่นแทน โรนัลโด้ ที่ป่วยหนัก พร้อมกับมีข่าวว่า เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะก่อนเกมจะเริ่มขึ้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง!
ที่สุดแห่งความทรงจำ : ร้อยเล่ห์มารยาของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ทำให้ เบ๊คแฮม เสียเหลี่ยม และเกือบเอาตัวไม่รอดเมื่อเขาถูกขู่เอาชีวิตเมื่อกลับถึงบ้าน
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 17 ปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น
ทุกอย่างมีครั้งแรก ในที่สุดทวีปเอเชีย ก็เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก
เกาหลีใต้ เป็นผู้จัดนัดเปิดสนาม และญี่ปุ่น เป็นสังเวียนัดชิงชนะเลิศ พร้อมกับเป็น”เจ้าภาพร่วม” คู่แรก และยังเป็นคู่เดียวกระทั่งวันนี้
ความปั่นป่วนเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนเปิดสนาม เอเมอร์สัน กัปตันบราซิล ไปซ้อมเล่นเป็นโกล์ ทำให้ไหล่หลุดอดมาเตะ, ซานดิอาโก้ คานยิซาเรส ทำขวดน้ำหอมตกแตกบาดเท้าต้องถอนตัว แต่หนักสุดคือ ซีเนดีน ซีดาน เจ็บหนักตอนอุ่นเครื่อง
“ซิซู” ลงเล่นให้กับ ฝรั่งเศส ไม่ได้ในสองเกมแรก และก็เป็นเรื่องเมื่อแชมป์เก่าแพ้พลิกล็อคในเกมเปิดม่านให้กับ เซเนกัล 0-1 ก่อนที่ ฝรั่งเศส จะตกรอบแรก ส่วน เซเนกัล ไปไกลจนถึงรอบ 8 ทีม
อีกทีมที่ระเบิดฟอร์มได้สุดยอดคือ ตุรกี ในยุคของ เซนอล กูเนส พวกเขาเดินหน้าเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ด้วยขุนพลที่โลกไม่ลืมนำโดย รุสตู เร็คเบอร์, อัลปาย โอซาลัน, ฮาซาน ซาส, ตูกาย เคริโมกูล และฮาคาน ซูเคอร์ ก่อนจะพ่าย บราซิล ด้วยลูกฉีดยำของ โรนัลโด้
บราซิล กลับมาเป็นแชมป์ด้วยทีมที่มีเกมรุกสุดมหัศจรรย์ โรนัลโด้, ริวัลโด้ และโรนัลดินโญ่ ได้รับการยกย่องเป็น “3R” ที่ยอดเยี่ยม
แต่โลกยังคงจดจำสองเจ้าภาพที่ผ่านเข้ารอบ 2 พร้อมกัน แต่แตกต่างด้วยการยอมรับ
ญี่ปุ่น ตกรอบ 2 ด้วยการแพ้ ตุรกี 0-1 ได้รับการยกย่องจากทั่วทุกสารทิศ แต่การเข้าไปได้ที่ 4 ของเกาหลีใต้ กลับถูกมองด้วยหางตาจากคนทั้งโลก
การคว่ำ อิตาลี ด้วยโกลเด้นโกล์ในรอบ 2 สกอร์ 2-1 แต่ก็มีทั้งจุดโทษและใบแดงอันน่ากังขา เช่นเดียวกับรอบ 8 ทีม ที่พวกเขาชนะจุดโทษ สเปน แต่สองประตูที่ถูกปฏิเสธของทัพกระทิง คือประตูที่”บริสุทธิ์”
ลงท้าย เกาหลีใต้ แพ้ เยอรมนี 0-1 แต่ผู้ตัดสินเหมือนแกล้งให้ใบเหลือง มิชาเอล บัลลัค ทำให้เขาชวดลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ
เมื่อขาดคนสำคัญในแดนกลาง ทำให้ เยอรมนี ยิ่งเล่นยิงเป็นรอง สุดท้ายสองประตูของ โรนัลโด้ ทำให้ บราซิล เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างยิ่งใหญ่
ที่สุดแห่งความทรงจำ : วีรกรรมของ เกาหลีใต้ สร้างความร้าวฉานระดับโลก ไม่แพ้เมื่อครั้งที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 1988
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 18 ปี 2006 ที่เยอรมนี
เป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลก ไม่ให้ “แชมป์เก่า” เข้ารอบโดยอัตโนมัติ แต่สุดท้าย บราซิล ก็มาตามนัด
เกมบนแผ่นดินอินทรีเหล็ก เปิดฉากขึ้นด้วยชัยชนะอันขาดลอยของเจ้าบ้าน เมื่อไล่ถล่ม คอสตาริก้า ในนัดเปิดสนามขาดลอย 4-2 ก่อนจะกำชัย 3 เกมรวดเช่นเดียวกับ โปรตุเกส, บราซิล และสเปน
โรนัลโด้ มาทำสถิติใหม่ในรอบ 2 เมื่อยิงได้ถึง 15 ประตูแซงสถิติตลอดกาลของ แกรนด์ มุลเลอร์ 14 ประตูได้สำเร็จ แต่ สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อไม่เสียประตูเลยแม้แต่ประตูเดียว ในการเตะทั้ง 4 นัด แต่มาแพ้การดวลจุดโทษให้กับ ยูเครน
ขณะที อังกฤษ ยังรักษาสถิติการยิงจุดโทษแพ้ไว้ได้ต่อเนื่อง เมื่อพ่ายให้กับ โปรตุเกส หลังจากเสมอกันใน 120 นาที 0-0 ส่วน บราซิล ยังคงเหมือนเดิมเมื่อเจอกับ ฝรั่งเศส ที่ไรพังทุกที หนนี้แพ้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 0-1
ขณะที่ อิตาลี ที่กำชัยเหนือ ออสเตรเลีย ด้วยจุดโทษในช่วงทดเจ็บเหนือ ออสเตรเลีย 1-0 ในรอบ 2 ก่อนจะไล่ถลุง ยูเครน 3-0 ก็มาเช็คบิล เยอรมนี เจ้าภาพในช่วงต่อเวลา 2-0 เข้าไปชิงกับ ฝรั่งเศส
ซีเนดีน ซีดาน ยิงจุดโทษสุดเหนือชั้น แต่ มาร์โก้ มาร์เตรัซซี่ โหม่งตีเสมอ และจากนั้นเกมยืดเยื้อจนต้องยิงจุดโทษ ที่สุดแล้วแชมป์อยู่ในมือของ อิตาลี ด้วยชัยชนะ 5-4 ผงาดครองโลกสมัยที่ 4
ที่สุดแห่งความทรงจำ : ซีดาน เอาหัวโขกไปที่หน้าอกของ มาเตรัซซี ในช่วงต่อเวลา หลังจากถูกแนวรับอิตาลี สบถใส่อย่างรุนแรงเกี่ยวกับแม่ของเขา ปิดฉากการเล่นฟุตบอลอาชีพของ “ซิซู” อีกด้วย
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 19 ปี 2010 ที่แอฟริกาใต้
ผ่านพ้นมาสู่สมัยที่ 19 ถึงคราวต้องเอา”ตำรามาเผา”!!!
ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนถึง 3 เหตุการณ์สำคัญ แต่ในที่สุดเหมือนกับถึงเวลาของมันเป็นที่เรียบร้อย
1.ไม่เคยมีทีมไหนออกสตาร์ทด้วยความพ่ายแพ้แล้วก้าวไปเป็นแชมป์
2.เจ้าภาพไม่เคยตกรอบแรก
3.ทีมยุโรปไม่เคยได้แชมป์นอกทวีป...........ทั้งหมดจบลงแล้ว!!!
“แอฟริกาใต้” เจ้าภาพจากการฬทวีปทีมแรก พลาดท่ากระเด็นตกรอบแรก หลังจากอาศัยการเล่นของ สตีเว่น พีนาร์ เพียงเดียวเท่านั้น และทีมเร่งไม่ขึ้น ตกรอบไปพร้อมกับ ฝรั่งเศส ที่ทีมแตกทะเลาะกันเองจนเป็นเหตุต้องมีการไล่นักเตะกลับบ้าน
ขณะที่ สเปน ออกสตาร์ทด้วยการแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ ในเกมแรก และเป็นการแพ้หนแรกให้กับ สวิส แต่พวกเขาก้าวไปเป็นแชมป์ได้สำเร็จ
ชัยชนะเหนือ เนเธอร์แลนด์ 1-0 ในช่วงต่อเวลาจากประตูทองของ อันเดรส อิเนียสต้า ทำให้ สเปน คว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยแรก และเป็นทีมแรกจากยุโรปที่ครองโลกได้นอกทวีปของตัวเอง
ขณะที่ กาน่า พลาดโอกาสการเป็นทีมแรกของทวีปแอฟริกาที่เข้าถึงรอบตัดเชือก เมื่อเขากำลังจะได้ประตูในนาทีสุดท้ายของการต่อเวลา แต่ หลุยส์ ซัวเรซ ใช้มือปัดบอลออกมา ทำให้โดนใบแดง และให้ไปวัดดวงในการยิงจุดโทษ ซึ่ง กียาน อซาโมอาห์ ซัดพลาด ก่อนจะดวลเป้าและ อุรุกวัย เข้ารอบรองฯ
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญก็คือ ดีเอโก้ มาราโดน่า เข้ามาคุมทัพอาร์เจนติน่า พาทีมผ่านรอบคัดเลือก ก่อนจะเข้าถึงรอบ 8 ทีม และแพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาลของเขาอย่าง เยอรมนี ขาดลอย 0-4
ที่สุดแห่งความทรงจำ : แค่นึกก็หนวกหู “วูวูเซล่า” แล้ว ที่ลืมไม่ลงคือ “หมึกพอล” ปลาหมึกยักษ์แห่งเยอรมนี ที่ครองใจคนทั้งโลก เมื่อทำนายผลการแข่งขัน 8 นัด ปรากฏว่าถูกต้องทั้งหมด จนโลกจดจำ”ปลาหมึก”มากกว่า”มนุษย์”ด้วยซ้ำ!!!
ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 20 ปี 2014 ที่บราซิล
โลกลูกหนังกลับเข้าสู่อ้อมกอดของพระเจ้าอีกครั้ง เมื่อ “แซมบ้า” ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก สมัยที่ 2
แต่ความหวังกลับกลายเป็นความจริงอันเจ็บปวด เมื่อ บราซิล ตกรอบรองชนะเลิศแบบย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อแพ้ให้กับ เยอรมนี กระจุยถึง 1-7 เป็นการแพ้ยับสุดตั้งแต่ปี 1920 ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีฟุตบอลโลก
“football is over” นี่คือคำกล่าวแสดงความปวดร้าวของชาวบราซิเลี่ยน!!!
ขุนพลเซเลเซา ขาด เนย์มาร์ ที่บาดเจ็บหนักในรอบ 8 ทีมที่ปราบ โคลอมเบีย รวมถึงไร้เงา ติอาโก้ ซิลวา ที่ติดแบนอดคุมเกมรับ ทำให้แพ้ยับขาดลอย จนมีข่าวหลุดออกมาว่า นักเตะบางส่วนที่ถูกเรียกมาติดทีมชุดนี้ก็เพราะการขู่แกมบังคับจากการเมือง และสมาคมฟุตบอลฯ ที่ล้วงลูกการทำงานของ หลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่
ขณะที่การต่อกรครั้งนี้ถือว่าสูสีอย่างมาก เยอรมนี เบียดชนะ แอลจีเรีย แบบต้องลุ้นถึงช่วงต่อเวลา ก่อนจะบด ฝรั่งเศส 1-0 และมาระเบิดฟอร์มยำ บราซิล ได้เข้าชิงกับ อาร์เจนติน่า ของ ลีโอเนล เมสซี่
ซึ่ง “ฟ้าขาว” ก็รีดพลังเหนื่อยหลายเกมทั้งการต่อเวลาชนะ สวิส 1-0 ก่อนจะมาเฉือน เบลเยี่ยม ด้วยสกอร์เดียวกันในรอบ 8 ทีม และมาดวลเป้าชนะ เนเธอร์แลนด์ ที่โกงตายมาแบบไม่แพ้กัน
เกมนัดชิงเป็นอีกครั้งที่จบลงด้วยสกอร์ 0-0 กระทั่งนาทีที่ 113 มาริโอ เกิทเซ่ ที่ลุกจากม้านั่งสำรองมาพังประตูชัย ให้กับ เยอรมนี เป็นแชมป์โลก สมัยที่ 4 และเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ทุบกำแพงเบอร์ลิน
ที่สุดแห่งความทรงจำ : ความพ่ายแพ้ของ บราซิล ไม่ใช่เพียงแค่ผลการแข่งขันในสนามเท่านั้น แต่นี่คือ “โศกนาฏกรรมแห่งวงการฟุตบอล” ก็ว่าได้
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี