แผ่นดินไหวไม่กระทบ“พรีบิลท์”“เดอะ เทมโป แกรนด์”รับได้7ริกเตอร์

แผ่นดินไหวไม่กระทบ“พรีบิลท์”“เดอะ เทมโป แกรนด์”รับได้7ริกเตอร์

วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
Tag :

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในจังหวัดทางภาคเหนือ ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการของบริษัทในเครือ คือ บริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด ที่ทุกโครงการมีการก่อสร้างเพื่อรองรับการเกิดแผ่นดินไหวอยู่แล้วตามมาตรฐาน โดยเฉพาะโครงการ “เดอะ เทมโป แกรนด์ สาทร-วุฒากาศ” ซึ่งเป็นโครงการที่กำลังเปิดขายและเป็นโครงการแรกที่เพิ่มการรองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวจากมาตรฐานปกติ 5 ริกเตอร์ เป็นมากกว่า 7 ริกเตอร์ จึงรับแรงด้านข้างที่เกิดจากแผ่นดินไหวและแรงลมได้ดี ผู้อยู่อาศัยมีความปลอดภัยมากขึ้น

โดยได้ใบรับรองจากบริษัท มิยาโมโต (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบแผ่นดินไหวจากญี่ปุ่น ทำให้โครงการดังกล่าวมีจุดขายที่ดี แม้จะมีต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากมูลค่าโครงการก่อสร้าง แต่บริษัทก็ไม่ได้ปรับราคาขึ้นมาสูงมากนัก แนวคิดดังกล่าวได้มีการวางแผนไว้นานแล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 จึงสามารถสร้างจุดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี


ส่วนความคืบหน้าโครงการ “เดอะ เทมโป แกรนด์ สาทร-วุฒากาศ” ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมที่พัฒนาในนามบริษัท บิลท์แลนด์ จำกัด ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ หลังจากที่ยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2556 ปรากฏว่าเมื่อเดือนเมษายน 2557 คณะกรรมการ EIA ได้แจ้งผลการพิจารณาโครงการดังกล่าวว่าต้องปรับความสูงโครงการดังกล่าวทั้ง 2 อาคาร เพราะต้องการควบคุมทัศนียภาพของไทย โดยไม่มีกฏเกณฑ์ที่ชัดเจน แม้รายละเอียดที่นำเสนอไปจะถูกกฏเกณฑ์แล้ว

ดังนั้นบริษัทจึงต้องปรับความสูงของอาคารจาก 41 ชั้น เหลือ 24 ชั้น และอีก 1 อาคาร จาก 24 ชั้น เพิ่มเป็น 32 ชั้น ทำให้ห้องชุดหายไป 60 หน่วย (ยูนิต) จากเดิมมี 1,068 ยูนิต จะเหลือ 1,004 ยูนิต จึงต้องปรับราคาขึ้นประมาณ 1% เป็นราคาขายเริ่มต้นที่ 2.1 ล้านบาทขึ้นไป หรือเริ่มที่ 75,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ส่วนขนาดห้องยังเท่าเดิม 30-60 ตร.ม. มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท จะเปิดการขายกลางเดือนพฤษภาคม 2557

“ปัจจุบันการพิจารณาขอ EIA มีกฎเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจน ทำให้ไม่สามารถก่อสร้างโครงการได้และทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น รับรู้รายได้ได้ช้า บริษัทจึงได้ปรับเปลี่ยนแผนด้วยการซื้อที่ดินให้มากขึ้น และขอ EIA ไว้ล่วงหน้า เมื่อความต้องการของตลาดหรือดีมานด์ในทำเลนั้นๆมีความพร้อม ก็สามารถพัฒนาได้ทันที อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีความมั่นใจคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้า ว่ายังสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง แต่การซื้อขายจะไม่รวดเร็วเหมือนในอดีต ในขณะที่ดีมานด์ยังมีอยู่ หากการเมืองในประเทศนิ่ง เชื่อว่าความเชื่อมั่นจะกลับคืนสู่ตลาด และในปี 2557 นี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 6,800 ล้านบาท เติบโต 13%”นายชัยรัตน์ กล่าว

สำหรับภาพรวมงานรับเหมาก่อสร้างในปัจจุบัน แม้งานก่อสร้างในตลาดจะลดลง แต่ผู้รับเหมาก็ยังมีจำนวนจำกัด โดยราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการจ้างผู้รับเหมา ปัญหาคือผู้รับเหมาต้องไม่ทิ้งงาน ส่วนด้านแรงงานก่อสร้างนั้น จากการที่โครงการ 2 ล้านล้านบาท ถูกระงับไป ขณะนี้เริ่มมีแรงงานก่อสร้างกลับมาหางานมากขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top