9 มิ.ย.57 นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า กรณีกระแสข่าวเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ปตท. มีรายได้จากเงินเดือนในอัตรา 4.7 ล้านบาทต่อเดือนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้จากรายงานที่นำเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) หรือรายงานประจำปี ปตท.ได้ ซึ่งจากรายงานประจำปี 2556 เงินเดือนรวมผู้บริหาร 10 ราย มีจำนวน 69 ล้านบาทเท่านั้น
        
รวมทั้งที่มีการแอบอ้างบทความเรื่อง "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" กับ "ทรัพย์สินราชวงศ์จักรี" กับ "ทรัพย์ส่วนพระองค์" ของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ว่า ผู้บริหาร ปตท. มีเงินเดือนๆ ละ 13 ล้านบาท ยังไม่รวมโบนัส ซึ่งทาง นายบวรศักดิ์ ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้เขียนและส่งจดหมายชี้แจงไปในหลายแห่งแต่ก็ไม่ได้มีการมาพูดถึงในกรณีดังกล่าว
       
ขณะที่กรณีมีการโจมตี ปตท. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจน้ำมันนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ปัจจุบัน ปตท.มีส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมันอยู่ที่ 39% ไม่ได้เป็นผูกขาดตลาด เพราะมีผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 อยู่ถึง 41 ราย จึงถือว่า เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง โดยมีเอสโซ่ ถือส่วนแบ่งการตลาด 10% บางจาก 10% เชลล์ 9% เชฟร่อน 7% และอื่นอีก 25% ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้เป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก
       
"จากกรณีดังกล่าว ปตท.จึงมีแนวคิดที่จะแยกธุรกิจน้ำมันออกจากกลุ่ม ปตท.หรืออาจจะเปลี่ยนแบรนด์ ปตท.เป็นแบรนด์ใหม่แทนเพื่อลดปัญหาการถูกโจมตีว่า ปตท.ผูกขาดตลาดน้ำมันจนฟันกำไรมหาศาลซึ่งจริงๆกำไรไม่ถึง 10% จากรายได้ของ ปตท.ทั้งหมดโดยจะเสนอบอร์ดพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด" นายไพรินทร์กล่าว
         
นายไพรินทร์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ในสังคมออนไลน์บอกว่า เป็นผู้รู้เรื่องพลังงานจริง ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่า หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ จบคณะวิศวกรรมศาสสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจริง แต่ประวัติการทำงานส่วนใหญ่อยู่ในตำแหน่งเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ทางการเงินแล้วมากล่าวหาว่าประเทศไทยมีน้ำมันมากมายมหาศาลนั้น เมื่อตรวจสอบพบว่า การพูดแต่ละครั้ง แต่ละสถานที่ไม่เหมือนกัน อาทิ ยูทูปเรื่องคุยกับ หม่อมกร ตอนโชติช่วงชัชวาล 16 เม.ย.56 พูดว่า บ้านเรามีพลังงานอยู่มากมายเลย ในขณะที่งานสัมมนา วิศวะจุฬาพูดว่าเราไม่ได้มีปิโตรเลียมใช้พอ เป็นต้นซึ่งเห็นได้ชัดว่าทำให้เกิดความสับสนต่อผู้ที่ได้รับข่าวสารดังนั้นอยากให้ผู้ที่มีความสนใจเข้าไปสอบถามคณะธรณีวิทยา ที่จุฬาหรือที่อื่นๆได้ว่าไทยมีน้ำมันมากพอหรือไม่
       
ส่วนกรณีให้มีการยกเลิกกองทุนน้ำมันนั้น ไม่เห็นด้วย เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีความผันผวนอยู่หากยกเลิกตอนนี้อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล และก๊าซแอลพีจี จะปรับตัวสูงขึ้นทันที และในอนาคตควรจัดตั้งคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อใช้เป็นกลไลดูแลด้านเชื้อเพลิงอีกทั้งยืนยันด้วยว่าขณะนี้ไม่มีบอร์ด ปตท.คนใดยื่นใบลาออกตามที่มีกระแสข่าว ทางโซเชียล มีเดีย