นางพาสินี ลิ่มอติบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่าโครงการ “ไอคอนสยาม” ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจจากญี่ปุ่น คือ บริษัท ทาคาชิมาย่า จำกัด ในการสร้างห้างสรรพสินค้า “ทาคาชิมาย่า ไอคอนสยาม” สาขาแรกในไทย ด้วยเงินลงทุนรวม 3,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการก่อสร้างประมาณ1,800 ล้านบาท โดยห้างสรรพสินค้าทาคาชิมาย่า ไอคอนสยาม จะเปิดภายในโครงการไอคอนสยาม ซึ่งห้างสรรพสินค้าจะมีพื้นที่ประมาณ 36,000 ตารางเมตร ครอบคลุม7 ชั้น ประกอบด้วย พื้นที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์หรู อาทิ เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มคุณภาพระดับพรีเมียมของไทยและญี่ปุ่น รวมถึงจากทั่วโลก ทั้งนี้จะเปิดให้บริการในปี 2560 คาดว่าจะเป็นศูนย์กลางด้านค้าปลีกของเอเชียในอนาคต

“ปัจจุบันทาคาชิมาย่า เป็นห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 19 สาขา ในญี่ปุ่น และอีก 3 สาขา อยู่ในสิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ ไทเป และในปี 2559 จะเปิดอีก1 สาขา ในกรุงโฮจิมินห์ ซึ่งในปี 2556 มียอดขายประมาณ300,000 ล้านบาท จาก 22 สาขา” นางพาสินี กล่าว

นายโคจิ ซูซูกิ ประธานกรรมการ บริษัท ทาคาชิมาย่าจำกัด กล่าวว่า การที่บริษัทตัดสินใจเข้ามาลงทุนห้างสรรพสินค้าในไทยครั้งนี้ เพราะมองว่าไทยมีศักยภาพที่ดี ที่ผ่านมามีปัจจัยบวกมาโดยตลอด และคนญี่ปุ่นก็เข้ามาลงทุนอยู่อาศัยในไทยจำนวนมาก จึงได้ร่วมทุนกับบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ในการก่อตั้งบริษัท สยามทาคาชิมาย่า จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท โดยทาคาชิมาย่าถือหุ้นในสัดส่วน 51% และไอคอนสยาม 49%

“บริษัทมองการลงทุนต่างประเทศไว้ 2 แนวทาง คือ การลงทุนที่จีน โดยเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ได้เข้าไปลงทุนที่เซี่ยงไฮ้ แต่หลังจากนั้นได้เกิดกรณีพิพาทระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามแผน ขณะนี้จึงรอดูสถานการณ์ไปก่อน ส่วนอีกแนวทาง คือ การลงทุนในประเทศแถบอาเซียน บริษัทจะให้น้ำหนักในการลงทุนกลุ่มหลังนี้มากกว่า ที่ผ่านมาสิงคโปร์ สามารถทำรายได้สูงสุดให้กับบริษัท ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 20 ปี ส่วนสาขาในไทยนั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะคืนทุนได้ภายในกี่ปี อย่างไรก็ตามรายได้จากการขยายสาขาในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 15-20% จากรายได้ของทั้งกลุ่มบริษัท ทาคาชิมาย่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่” นายโคจิ ซูซูกิ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทมองว่าห้างสรรพสินค้าในไทยถือว่ามีความสามารถในการแข่งขันเป็นอย่างดีและการที่บริษัทขยายมาเปิดตัวห้างสรรพสินค้าในไทย ก็ไม่ถือว่าเป็นการแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ที่เข้ามาลงทุนในไทย เพราะทาคาชิมาย่า ไอคอนสยาม เป็นการลงทุนในย่านคลองสาน ซึ่งอยู่ฝั่งธนบุรี ถือเป็นการเจาะกลุ่มเป้าหมายในอีกตลาดหนึ่ง จึงถือว่าไม่ได้เป็นการแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นอื่นๆ โดยตรง