คุณศิริสุภา อาจสัญจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO เปิดเผยว่า “ดีนี่” (D-nee) ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว หนึ่งในแบรนด์เรือธงของบริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO ผู้ทำการตลาด ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคชั้นนำของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จ หลังจากแตกไลน์แบรนด์ใหม่ “ดีนี่ ดีลักซ์” (D-Nee Deluxe) ชูนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ (Silver Age) ครั้งแรกในไทยเมื่อปีที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายทะยานแตะ 100 ล้านบาท ภายในปีเดียว
พร้อมประกาศเดินเกมรุกต่อเนื่อง ทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท ปูพรมการตลาดแบบ 360 องศา ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ เน้นเข้าถึงกลุ่มผู้สูงวัยและครอบครัว เตรียมขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งเป้าดันยอดขายแตะ 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการสร้างเซกเมนต์ใหม่ๆ
สำหรับภาพรวมของตลาดนั้น แม้สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะกระทบกำลังซื้อ แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคนี้ให้ความสำคัญกับการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุจึงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ธนาคารกรุงไทย ในปี 2566 ระบุว่า ตลาดผู้บริโภคกลุ่มผู้สูงวัยของไทยมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.4% และคาดว่าจะสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12% ของมูลค่าเศรษฐกิจไทยในปี 2573
ในปี 2568 นี้ดีนี่ ดีลักซ์จึงยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้า โดยวางกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น หลังจากดีนี่ต่อยอดจุดแข็งในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อย และผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้า ปรับผ้านุ่ม อันดับ 1 สำหรับเด็กที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 73.2% และ 72.5% ตามลำดับ (จากข้อมูล Nielsen Jan-Dec 2024) และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว ด้วยการเปิดตัวดีนี่ ดีลักซ์ บุกตลาดกลุ่มผู้สูงอายุเป็นแบรนด์แรกและประสบความสำเร็จ
“จากการศึกษาอินไซต์ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้พบว่า เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ไม่เพียงสภาพผิวจะเปลี่ยนแปลงไป แต่กลับอ่อนแอไม่ต่างกับผิววัยแรกเกิด ดังนั้นผู้สูงอายุจึงต้องการการบำรุงผิวจากผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้สูงอายุบางกลุ่มถึงเลือกกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก เพื่อแก้ Pain Point ให้กลุ่มผู้สูงวัย ดีนี่จึงศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่ม ดีนี่ ดีลักซ์ ที่พัฒนาสูตรขึ้นมาสำหรับกลุ่มผู้สูงวัยโดยเฉพาะ หมดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ตามวัยที่ติดเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคุณสมบัติของสารสกัดจากลูกพลับญี่ปุ่น และ ดีนี่ ดีลักซ์ โลชั่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายอย่างล้ำลึก คงความชุ่มชื้นยาวนาน 48 ชั่วโมง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เหมาะกับสภาพผิวของกลุ่มผู้สูงวัย หรือผิวแพ้ง่ายที่ไวต่อการระคายเคือง รวมไปถึง ดีนี่ ดีลักซ์ ชาวเวอร์ เจล สบู่เหลวอาบน้ำ สูตรชุ่มชื้นพิเศษ เพื่อผิวสะอาดสดชื่น อ่อนโยน”คุณศิริสุภา กล่าว
ทั้งนี้หลังจากเปิดแบรนด์ตัวดีนี่ ดีลักซ์ เมื่อปีที่ 2567 ที่ผ่านมา พร้อมปูพรมจัดเต็มกลยุทธ์การตลาดเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ - ออฟไลน์ อาทิ สื่อโทรทัศน์, สื่อ Out of Home, Facebook, YouTube เป็นต้น ตลอดจนการจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแจกตัวอย่างทดลองใช้ รวมไปถึงการวางจำหน่ายให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ททั่วประเทศ และร้านค้าออนไลน์ โดยช่องทางออฟไลน์ ยังคงเป็นช่องทางหลักของแบรนด์ที่ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าด้วยตัวเอง
ในขณะที่ช่องทางอื่นๆ เช่น TV Shopping รวมถึงช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ Facebook, Tiktok และ Youtube ยังเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุและครอบครัว และยังจับมือกับ Shopee, Lazada, ช่องทางออนไลน์ของห้าง รวมถึง TikTok Live เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคมากขึ้น
นอกจากนี้ดีนี่ ดีลักซ์ ยังเลือกคู่แม่-ลูกชื่อดัง อย่าง “แม่โอ๋- ธนภรณ์” และ “โต๋- ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ซึ่งเป็นตัวแทนของครอบครัวรุ่นใหม่ที่ใส่ใจดูลตัวเองอย่างสม่ำเสมอมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ รวมถึงการโปรโมทผ่าน KOLs ในแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
“ด้วยกลยุทธ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคครบทุกมิตินี้เอง ทำให้ ดีนี่ ดีลักซ์ ได้รับกระแสตอบรับดีมาก และผู้บริโภคใช้จริงและบอกต่อ สามารถทำให้ยอดขายของแบรนด์แตะ 100 ล้านบาท และยังตอกย้ำความสำเร็จในการเป็น Segment Creator หรือ ผู้นำในการสร้างเซกเมนต์ในตลาดใหม่ๆ หลังจากนี้ทางแบรนด์ยังมีแผนขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศในเอเชียก่อนเป็นอันดับต้นๆ”คุณศิริสุภา กล่าว
นอกจากนี้ในปี 2568 นี้ดีนี่ ดีลักซ์ยังทุ่มงบการตลาดกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงวัย และครอบครัว โดยมองว่า ดีนี่ ดีลักซ์ วางกลยุทธ์ถูกทาง ตั้งต้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นขุมพลังผู้บริโภคกลุ่มใหม่ พร้อมชูจุดแข็งของแบรนด์ ที่อยู่ในตลาดมานานและมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่น คือ ออร์แกนิค อ่อนโยน และปลอดภัย ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กลุ่มผู้สูงอายุต้องการจากสินค้าอยู่แล้ว มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้เทคโนโลยียับยั้งกลิ่นเฉพาะตัวที่มักเกิดกับผู้สูงอายุ ที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีภายในร่างกายที่เกิดขึ้นตามวัย ช่วยยับยั้งกลิ่นกาย ให้ผิวหอมสดชื่น สบายตัวทั้งวัน ผ่านการทดสอบ Hypoallergenic Test ไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง และในปี 2568 นี้ได้วางแผนส่งกลุ่มผลิตภัณฑ์สูตรใหม่ที่ช่วยในเรื่องของกลิ่นและความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ รวมถึงการบำรุงผิวที่ล้ำลึกและกลิ่นที่หอมยาวนาน ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ซักผ้า ปรับผ้านุ่ม ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ที่แตกต่างมากขึ้น
ดังนั้นดีนี่ ดีลักซ์ จึงไม่ได้เป็นเพียงผู้ช่วยในการดูแลผิวของผู้สูงอายุที่บอบบางไม่ต่างจากผิวทารก แต่ยังครอบคลุมไปถึงการดูแลทุกปัญหา ที่มักพบในวัยผู้ใหญ่ อาทิ คราบเหงื่อไคล คราบสกปรก คราบน้ำมันแต่งผม หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ
“เราเชื่อว่า ความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง บวกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย รวมถึงช่องทางการขาย และการทำการตลาดแบบ 360 องศา จะทำให้ ดีนี่ ดีลักซ์ เติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถทำยอดขายแตะ 500 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอของดีนี่ ให้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน” คุณศิริสุภา กล่าว
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี