วันพุธ ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คุณปัทมา ถกลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผนึกกำลังร่วมกับ SCGP ครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของ NEO ในการขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero 2050 ของเราอย่างเป็นรูปธรรม
ที่ผ่านมา NEO ได้สร้างผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมไว้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลดปล่อยน้ำเสียเป็นศูนย์ (ZERO Water Discharge) การลดการใช้ Virgin Plastic ลง 22% เร็วกว่าเป้าหมาย รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมกระบวนการผลิตแบบยั่งยืน เช่น สูตร Biodegradable เทคโนโลยี Quick Rinse ในผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ช่วยประหยัดน้ำได้ถึง 3 เท่า และระบบผลิตแบบ Cold Process ที่ไม่ใช้ความร้อน ช่วยลดการใช้พลังงานและลดคาร์บอนตั้งแต่ต้นทาง เป็นต้น ความร่วมมือด้านบรรจุภัณฑ์นี้จึงเป็นกลไกสำคัญ ที่ช่วยยกระดับการบริหารจัดการคาร์บอนของ NEO ให้ครบวงจรยิ่งขึ้น เพราะการใช้บรรจุภัณฑ์ของ SCGP ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการส่งมอบนั้น ช่วยให้เราสามารถวัดผลและยืนยันปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ ผ่านการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP Calculation)
“ผลลัพธ์การผนึกกำลังร่วมกับ SCGP ในครั้งนี้ คือการที่ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถได้รับการรับรอง CFP Declaration Certificate และได้รับฉลากประกาศลดการปล่อยคาร์บอนที่บรรจุภัณฑ์ ที่สำคัญที่สุดคือข้อมูลการลดคาร์บอนที่ถูกต้องนี้ จะถูกนำไปนับรวมใน Scope 3 ทำให้การรายงานด้านความยั่งยืนของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการใช้บรรจุภัณฑ์ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะช่วยลดผลกระทบต่อโลกของเราได้อย่างเป็นรูปธรรม และยังสนับสนุนให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีกว่า” คุณปัทมา กล่าว
คุณเอกราช นิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) SCGP ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการคำนวณและรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ โดยทุกๆ การผลิต 10,000 กล่อง สามารถลดผลกระทบเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ถึง 150 ต้นต่อปี และได้รับการรับรอง ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (CFP) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนได้อย่างมั่นใจ
ในการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์สีเขียวแต่ละชิ้น สามารถลดการปล่อยคาร์บอน 0.07 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO₂e) โดยในปี 2567 SCGP ได้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์สีเขียวให้กับ NEO ทั้งสิ้น 1,354,900 ชิ้น คิดเป็นปริมาณลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวม 94,843 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า/ปี หรือเฉลี่ยลดลง -8.75% นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพและความตั้งใจจริงของทั้งสองบริษัทในการดูแลสิ่งแวดล้อม
“การสร้างสรรค์ความร่วมมือระหว่างสองผู้นำในอุตสาหกรรมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับมาตรฐาน บรรจุภัณฑ์ของประเทศไทย แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนของทุกคน ผ่านตั้งเป้าหมายและพันธสัญญาที่ชัดเจน โดยจะเดินหน้าสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่เป้าหมายสูงสุดคือ Net Zero 2050” คุณเอกราช กล่าว
- 030
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี