ราคาน้ำมันโลกที่ลดลงต่อเนื่อง จึงถือว่าเป็นโชคดีที่ รัฐบาลมีจังหวะเหมาะที่จะทำการปรับโครงสร้างพลังงานให้เหมาะกับราคาต้นทุน กระทรวงพลังงานจึงเดินหน้าปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบให้สะท้อนต้นทุนแท้จริงหลังปีใหม่...แต่ตอนนี้แน่นอนว่ายังมีประเด็นที่หลายคนอาจไม่เข้าใจ เพราะในขณะที่ราคาน้ำมันถูกลง แต่ราคาก๊าซกลับขยับขึ้น...

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงที่ทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงนี้ กระทรวงพลังงาน ได้เดินหน้าลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งถือเป็นกลุ่มเชื้อเพลิงที่มีการใช้ในประเทศสูงสุดนั้น ปัจจุบันถือเป็นราคาต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยมีการปรับลดลงแล้ว 4 ครั้ง ราคาลดลง 1.20 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ในส่วนราคาน้ำมันเบนซิน 95 ปรับลดลงไปแล้ว 10 ครั้ง ราคาลดลง 8.39 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 ปรับลดลงสูงถึง 14 ครั้ง ราคาลดลง 7.43 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ปรับลดลง 13 ครั้ง ราคาลดลง 7 บาทต่อลิตร ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานได้ปรับราคาน้ำมันในประเทศให้สอดคล้องกับทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงมาโดยตลอด

เมื่อเร็วๆ นี้ (ณ วันที่ 2 ธ.ค. 2557) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีการพิจารณาถอนการอุดหนุนราคา โดยปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(LPG) ในสัดส่วน 1.03 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้สถานะกองทุนน้ำมันมีสถานะสุทธิเป็นบวกที่ประมาณ 8 พันล้านบาท และจะมีรายรับมากกว่ารายจ่าย 327 บาทต่อวัน (จากเดิมฐานะกองทุนฯ ณ วันที่ 18 พ.ค. 2557 ติดลบ 7,412 ล้านบาท) ซึ่งการปรับขึ้น LPG ครั้งนี้ทางบมจ.ปตท.ที่มีปั๊ม LPG อยู่ 200 กว่าแห่งหรือคิดจะตรึงราคาเป็นราคาเดิมเนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันราคา LPG ที่จำหน่ายอยู่ถือว่ามีค่าการตลาดที่สูงมากจึงควรจะปรับลดลงอยู่แล้ว และการเลิกอุดหนุนราคา LPG ครั้งนี้ถือเป็นการปรับโครงสร้างราคาไปสู่การลอยตัวที่จะสะท้อนกลไกตลาดโลก

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. ยังมีการพิจารณา ปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในภาคขนส่ง(NGV) อีก 1 บาทต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลอยู่ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัม ให้ปรับขึ้นราคาขายปลีก 1 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 12.50 บาทต่อกิโลกรัม และราคา NGV สำหรับ รถสาธารณะ ขยับเป็น 9.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งปัจจุบันกระทรวงพลังงานมีแนวทางการช่วยเหลือ ได้แก่

1.บัตรเครดิตพลังงาน NGV สำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก รถตู้ร่วม ขสมก. ในเขต กทม. และปริมณฑล จำนวน 166,216 ราย (ณ วันที่ 31 ต.ค. 2557) 2.บัตรส่วนลดราคาฯ NGV ได้แก่ กลุ่มรถโดยสาร มินิบัส สองแถวร่วม ขสมก. และรถโดยสาร รถตู้ร่วม บขส. จำนวน 19,075 ราย (ข้อมูล ณ 31 ต.ค. 2557)

การทยอยปรับโครงสร้างราคาพลังงานครั้งนี้ ถือเป็นการทำให้โครงสร้างราคาพลังงานของประเทศไทยสะท้อนต้นทุนตามกลไกตลาด รวมทั้งจะเป็นการสร้างความพร้อมในการเปิดรับ AEC ในอนาคต ที่ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน อย่างอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ได้ยกเลิกการอุดหนุนราคาพลังงานเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเป็นผลดีที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นลดความเหลื่อมล้ำด้านราคาพลังงาน ส่งสัญญาณให้ลดการใช้แบบผิดประเภท รวมทั้งลดปัญหาการลักลอบขนส่งข้ามประเทศในอนาคตอีกด้วย

กระทรวงพลังงานขอยืนยันว่า ในการปรับโครงสร้างราคาพลังงานครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งจากการประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์ พบว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศขณะนี้มีอัตราต่ำสุดในรอบ 3 ปี และไม่น่าจะมีการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้าจากกลุ่มผู้ประกอบการอย่างแน่นอน นอกจากนี้สำหรับกลุ่มภาคครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย กระทรวงพลังงานจะยังคงให้ให้สิทธิ์ในการช่วยเหลือเช่นเดิม เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบสำหรับผู้มีรายได้น้อย

นอกจากการปรับโครงสร้างราคาให้เหมาะสมแล้ว กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ให้ผู้ใช้น้ำมัน รวมทั้งการใช้พลังงานทุกประเภทได้ตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างประหยัด มีความคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนพลังงานของประเทศต่อไป