nn เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา บอร์ด กสทช. เสียงส่วนใหญ่ 9:1 มีมติชะลอพิจารณาร่างประกาศฯ เรียงเลขช่องทีวีดิจิตอล 1-36 ทุกแพลตฟอร์ม หลังได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการ เนื่องจากมีการคัดค้านจากผู้ประกอบการแบบบอกรับสมาชิก สมาคมผู้ให้บริการโครงข่ายดาวเทียม เนื่องจากร่างประกาศดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนที่รับชมทีวีผ่านดาวเทียมและเคเบิล เกิดความสับสน และที่สำคัญ ร่างประกาศฯ ขัดแย้งกับบทเฉพาะกาล ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่คุ้มครองผู้ประกอบการรายเดิม สามารถจัดเรียงหมายเลขช่องได้เอง…เสียงของบอร์ด กสทช. ที่คัดค้าน คือ คุณสุภิญญา กลางณรงค์ โดยให้เหตุผลว่า ร่างประกาศเรียงช่องใหม่ 1-36 ตรงกันทุกกล่องจะส่งผลดีต่อผู้บริโภค หรือ ประชาชน และจะทำให้ช่องทีวีไทยมีมาตรฐานเดียวกัน...หากพิจารณาเผินๆ เหตุผลของคุณสุภิญญาน่าจะถูกต้อง แต่คุณสุภิญญาคงลืมไปแล้วว่า ธุรกิจโทรทัศน์ DTT กับ ธุรกิจทีวีแบบบอกรับสมาชิก หรือ เพย์ทีวี เป็นธุรกิจที่แตกต่างกันจะนำมารวมกันไม่ได้.... หลังจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. ที่มี พันเอกนที ศุกลรัตน์ เป็นประธาน ได้เปิดประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล จำนวน 24 ช่อง แบ่งเป็น ช่องเด็ก 3 ช่อง ช่องข่าว 7 ช่อง ช่องSD วาไรตี้ 7 ช่อง และ ช่อง HD วาไรตี้ 7 ช่อง เมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา และได้มีการทดลองออกอากาศ เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา... โดย กสท.เป็นผู้กำหนดให้ผู้ประกอบการทีวีแบบบอกรับสมาชิก เคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม อื่นๆ สามารถกำหนดเรียงช่องเองได้ใน 10 ช่องแรก หลังจากนั้นค่อยนำช่องทีวีดิจิตอลมาเรียงช่องต่อไป แต่หากเป็นทีวีดิจิตอลก็ต้องเรียงช่องตามที่แต่ละผู้ประกอบการได้รับเลขช่องตามลำดับซึ่งเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับคุณสุภิญญา แนวทางนี้ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง...แต่มาภายหลัง กสท.กลับมาเปลี่ยนให้มีการเรียงช่องใหม่ของทีวีดิจิตอลเข้าไปทุกแพลตฟอร์มของธุรกิจทีวีแบบบอกรับสมาชิก สถานีเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม ต้องเรียงช่องตั้งแต่ 1-36 ต้องเป็นช่องทีวีดิจิตอล ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะนอกจากไม่มีกฎหมายอะไรรองรับแล้ว ยังเชื่อว่า กสท.เข้ามาก้าวก่ายธุรกิจทีวีแบบบอกรับสมาชิกที่เป็นคนละแบบกับ ทีวีดิจิตอล ซึ่งไม่สามารถเอามารวมกันได้...ที่ผ่านมา ก่อนมีการประมูลทีวีดิจิตอล ผู้ประกอบการแบบบอกรับสมาชิก อย่างทรูวิชั่นส์ได้เรียงช่องให้ตรงความต้องการของลูกค้าที่เป็นสมาชิก ด้วยการนำช่องฟรีทีวีตั้งแต่ช่อง 3 5 7 9 11 และ Thai PBS ขึ้นมาเรียงช่องตั้งแต่เลข 1-6 ตามลำดับ...กรณีนี้ก็เช่นกันผู้ประกอบการแบบบอกรับสมาชิกก็คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการรับชมช่องใดเป็นอันดับต้นๆ ซึ่ง กสท.จะมาบังคับให้ผู้ประกอบการแบบบอกรับสมาชิก เรียงช่องตั้งแต่ 1-36 เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ใครจะรับผิดชอบ หากผู้ประกอบการต้องประสบภาวะขาดทุนที่ขาดทุนจากการถูกบอกยกเลิกเป็นสมาชิก...เวลานี้มีคำถามเกิดขึ้นในกระแสสังคม กสทช.มีความพร้อมแค่ไหนในการเปิดประมูลทีวีดิจิตอล 24 ช่อง ที่กสทช.ได้เงินไปกว่า 50,000 ล้านบาท และกำหนดออกอากาศเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา แต่ระบบ และอุปกรณ์การรับชมไม่มีความพร้อมที่จะให้ประชาชนกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศได้รับชม ขณะที่ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตทั้งหมด และไม่สามารถขายโฆษณาได้เพราะเอเยนซี่ไม่มีเรตติ้ง ซึ่งเปรียบเสมือนการซื้อบ้านจัดสรร ที่ขาดระบบสาธารณูปโภค ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ขาดความพร้อม ภาระหนักตกกับประชาชน เวลานี้ กสท.ควรให้ความสำคัญเร่งหามาตรการทำอย่างไรให้ประชาชนทั่วประเทศได้รับชมทีวีดิจิตอลได้อย่างทั่วถึงจะดีกว่าหรือไม่...nn
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี