รมว.คมนาคม บินเจรจากับรัฐบาลจีนดันโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สรุปฝ่ายไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบเงินลงทุนโครงการทั้งหมด ขณะที่จีน สนับสนุนเงินกู้-ช่วยเหลือฝ่ายไทยในด้านการบริหารจัดการเดินรถ, การฝึกอบรมฯลฯ

เมื่อวันที่ 11-12 พ.ค. 2559นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้หารือกับ Mr. Wang Xiaotao รองผู้อำนวยการคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ที่โรงแรม The PresidentialBeijing กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเด็นการผลักดันความร่วมมือ ได้แก่ การกระชับความร่วมมือระหว่างไทย-จีนรูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ในส่วนการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 10 ณ กรุงปักกิ่งมีข้อสรุปใน 5 ประเด็นได้แก่ 1.แผนดำเนินงานของโครงการที่ประชุมได้เห็นชอบให้เริ่มต้นก่อสร้างงานโยธาในส่วนแรกช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 2559 อย่างไรก็ตาม การจะเร่งดำเนินการเปิดประมูลให้ครบทุกช่วงของเส้นทางภายในปีนี้ ส่วนแหล่งเงินทุนที่ฝ่ายไทยต้องจัดหาต้องให้ทางกระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง

2.เรื่องวงเงินลงทุนของโครงการ ซึ่งทางฝ่ายไทยจะเป็นผู้รับผิดชอบการลงทุนโครงการทั้งหมดตามที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้เห็นชอบร่วมกัน และคณะทำงานร่วมของ 2 ฝ่ายจะต้องหารือร่วมกันเกี่ยวกับประมาณการมูลค่าการลงทุนของโครงการตามที่ได้มีการเสนอขอให้จีนพิจารณาปรับตัวเลขต้นทุนการก่อสร้างโครงการและระบบรถไฟฟ้าให้ลดลงแต่ยังยึดหลักมาตรฐานความปลอดภัยเหมือนเดิมโดยทางฝ่ายจีนจะดำเนินการให้ได้ข้อยุติภายใน 1 สัปดาห์

3.รูปแบบการก่อสร้างโครงการที่มีมติเห็นชอบร่วมกันให้ดำเนินการในรูปแบบ EngineeringProcurement and Construction(EPC) ซึ่งเป็นความร่วมมือการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ โดยจะแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน(EPC-1) ที่ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ดำเนินการคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างของไทยเข้าร่วมก่อสร้างโครงการและจะมีการแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4-5 ช่วง ในเบื้องต้นมองว่ามีความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินการ และเส้นทางช่วงแรกที่คาดว่าจะดำเนินการได้คือ ช่วงปากช่อง-นครราชสีมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเวนคืนที่ดินของ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และการศึกษาออกแบบรายละเอียดของฝ่ายจีน คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ค.นี้

ในส่วนของงานระบบรางและรถไฟความเร็วสูง(EPC-2) ทางฝ่ายจีนจะเป็นผู้คัดเลือกรัฐวิสาหกิจที่มีผลงานด้านรถไฟความเร็วสูงที่มีคุณภาพ โดยได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายไทยเป็นผู้ดำเนินการทั้งงานออกแบบและรายละเอียดของงานโครงสร้างพื้นฐานใน EPC-1 และฝ่ายไทยจะใช้ในการคัดเลือกบริษัทก่อสร้างของฝ่ายไทยในการก่อสร้างส่วนของ EPC-1 เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานร่วมกัน

4.การให้บริการเดินรถไฟความเร็วสูงไทยจะเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทเดินรถ และฝ่ายจีนจะให้ความช่วยเหลือฝ่ายไทยในด้านการบริหารจัดการเดินรถ,การฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร ซึ่งหากฝ่ายจีนสนใจที่เข้ามาร่วมเดินรถกับฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะพิจารณา

5.ด้านแหล่งเงินลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทางไทยจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินทุน ส่วนการจัดหาระบบรถไฟความเร็วสูงจากจีน และฝ่ายไทยก็ยินดีพิจารณารับข้อเสนอแหล่งเงินกู้จากจีน แต่ต้องคำนึงถึงต้นทุนและเงื่อนไขที่เหมาะสมและต้องเป็นเงื่อนไขทางการเงินที่ดีที่สุดให้ไทยพิจารณา

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงต่อขยาย หัวลำโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ มูลค่าลงทุน 84,000 ล้านบาทนั้น ก่อนหน้านี้คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) มีมติเห็นชอบการร่วมลงทุนรัฐและเอกชนแล้ว โดยให้เอกชนที่ได้รับดำเนินการจะได้บริหารโครงการเป็นเวลา 30 ปี มีเวลาการก่อสร้างอีก 3 ปี รวมเป็น 33 ปี