นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า (บทต.) จำนวน 946 คัน วงเงินลงทุน 2,459.97 ล้านบาท โดยกำหนดให้นำชิ้นส่วนภายในประเทศและต่างประเทศมาประกอบขึ้นภายในประเทศทั้งนี้ เพื่อนำมาทดแทนแคร่บรรทุกสินค้าเก่าที่ใช้งานมาอย่างยาวนาน และเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับแผนวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ.2566 – 2570 (แผนฟื้นฟูการรถไฟแห่งประเทศไทย) ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ 2569 และแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ 2569
การจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพของระบบรางในการรองรับสินค้าน้ำหนักมาก อาทิ เกลืออุตสาหกรรม ปุ๋ย เม็ดพลาสติก และน้ำตาล ที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การจัดหารถเพิ่มเติมอีก 946 คัน จะช่วยขยายตลาดขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันรฟท. มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางเฉลี่ยอยู่ที่ 13 ล้านตันต่อปี หากจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าได้ตามเป้าหมาย จะเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งได้มากกว่า 9 ล้านตันต่อปี
ขณะเดียวกันโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าในครั้งนี้ ไม่เพียงตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากถนนสู่ราง (Shift Mode) เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายวีริศ กล่าวว่า การรถไฟฯ จะเร่งดำเนินการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569 และเปิดประกวดราคาได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2569 จากนั้นจะเร่งพิจารณาผลการประกวดราคา และลงนามในสัญญาให้ได้ภายในเดือนกันยายน 2569 โดยตั้งเป้าเริ่มประกอบรถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าล็อตแรกได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2570
สำหรับโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าครั้งนี้ จะดำเนินการในรูปแบบการส่งมอบเป็น 5 ล็อต ตามแผนดังนี้
ล็อต 1 จำนวน 154 คัน คาดว่าจะเริ่มทดลองวิ่งได้ในเดือนตุลาคม 2570 มีแผนนำไปใช้ในเส้นทางไอซีดี - แหลมฉบัง ช่วงเดือนมกราคม 2571
- ล็อต 2 จำนวน 165 คัน มีแผนนำไปใช้ในเส้นทางหนองคาย - แหลมฉบัง 132 คัน และอรัญประเทศ - แหลมฉบัง 33 คัน คาดว่าเป็นช่วงเดือนมกราคม 2572
- ล็อต 3 จำนวน 198 คัน มีแผนนำไปใช้ในเส้นทางเชียงของ - แหลมฉบัง 99 คัน และนครพนม - แหลมฉบัง 99 คัน คาดว่าเป็นช่วงเดือนมกราคม 2573
- ล็อต 4 จำนวน 264 คัน มีแผนนำไปใช้ในเส้นทางหนองคาย - แหลมฉบัง คาดว่าเป็นช่วงเดือนมกราคม 2574
- ล็อต 5 จำนวน 165 คัน มีแผนนำไปใช้ในเส้นทางหาดใหญ่ - แหลมฉบัง 99 คัน และอุบลราชธานี - แหลมฉบัง 66 คัน คาดว่าเป็นช่วงเดือนมกราคม 2575
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี