นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธายกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้านี้คาดว่าบริษัทจะมีข้อสรุปในเรื่องการขยายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมในเมียนมาและอินโดนีเซีย ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ศึกษาและอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น
โดยในอินโดนีเซีย บริษัทได้เจรจากับพันธมิตรเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ติดเรื่องรูปแบบของการพัฒนาโครงการเท่านั้น ซึ่งบริษัทและพันธมิตรยังมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งบริษัทต้องการพัฒนาโครงการแนวราบแต่พันธมิตรต้องการพัฒนาคอนโดมิเนียม จึงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการสรุปแผนการพัฒนา และอาจยังไม่ได้ข้อสรุปในปี 2559
ส่วนการลงทุนในเมียนมานั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น หลังจากได้ทำการศึกษาตลาดมาแล้ว 3 ปี แต่การลงทุนในเมียมายังมีเรื่องค่าที่ดินที่มีราคาสูง และกฎระเบียบต่างๆ ทำให้การตัดสินใจลงทุนเกิดความล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ประเทศอื่นๆในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาวเมียนมา เวียดนาม) ก็ยังเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่บริษัทจะเข้าไปลงทุน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต หลังจากที่บริษัทมีการลงทุนในออสเตรเลียแล้วก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 7 โครงการ ใน 3 เมือง ได้แก่ เมลเบิร์น จีลองและบริสเบน และยังมีการลงทุนอาคารสำนักงานในฟิลิปปินส์ก่อนหน้านี้อีกด้วย
นายประทีป กล่าวถึงการยื่นซองประมูลโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ว่า บริษัทได้ยื่นเสนอทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด 3 ทำเล ได้แก่ กรุงเทพฯ ในย่านสะพานควาย และโรงกษาปณ์เก่า โดยรูปแบบการพัฒนาแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ อาคารพักอาศัยสูง 5 ชั้น 5 อาคารพื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่รวม 10,000 ตร.ม. และในเชียงใหม่ บนถนนช้างคลาน จะพัฒนาเป็นทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 100 หน่วย (ยูนิต) มูลค่าแต่ละโครงการจะอยู่ที่
200-300 ล้านบาท
“การที่บริษัทตัดสินใจยื่นซองเสนอทำโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ บริษัทไม่ได้หวังผลกำไร เนื่องจากบริษัทต้องการให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย และเป็นการส่งเสริมให้นโยบายของภาครัฐเดินหน้าได้สำเร็จ การลงทุนในโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นการทำเพื่อสังคม (CSR) ของบริษัทส่วนหนึ่งจึงไม่หวังกำไรจากการพัฒนาโครงการนี้ โดยเงินลงทุนที่ใช้ทำโครงการจะเป็นเงินที่มาจากกระแสเงินสดของบริษัท ไม่ได้มีการกู้ เนื่องจากมูลค่าโครงการที่จะพัฒนาไม่ได้มาก แต่บริษัทต้องรอดูการประกาศผลก่อนว่าจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่ซึ่งบริษัทไม่ได้คาดหวังมากหนัก” นายประทีป กล่าว
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2559บริษัททำยอดขายได้ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 โดยมาจากยอดขายของโครงการแนวราบที่เติบโตมากกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปี 2558 เนื่องจากในครึ่งแรก 2559 บริษัทมีการเปิดโครงการแนวราบถึง 8 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียมมียอดขายในครึ่งปีแรก 2559 อยู่ที่ 3,500 ล้านบาท โดยมีคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทยังมั่นใจว่ายอดขายในปี 2559 จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 24,500 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้22,000 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 4 โครงการ โดยปลายเดือนกรกฎาคมนี้จะเปิดพรีเซลโครงการ “ศุภาลัย ปาร์ค รัชวิภา” มูลค่าโครงการ3,200 ล้านบาท และ “ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท พระราม 8” มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท มีกำหนดเปิดจองวันที่ 29-31 กรกฎาคม 2559 นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 4 จะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ในทำเลติดรถไฟฟ้าอีก2 โครงการ ขณะที่โครงการแนวราบจะมีการเปิดตัวใหม่อีก 10-11 โครงการ มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี