นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงขยายตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการ “ศุภาลัยบลูเวล หัวหิน” ซึ่งเป็นโครงการแรกในประจวบคีรีขันธ์ และถือเป็นจังหวัดใหม่ลำดับที่ 23 ของบริษัท มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โครงการมีจุดเด่นสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านงานสถาปัตยกรรม คือ ยอดตึกมี “วาฬสีน้ำเงิน” หรือ Blue Whale ตั้งอยู่บนที่ดิน 7 ไร่ บนถนนเส้นหัวหิน-ห้วยมงคล ซึ่งเป็นทำเลที่มีจุดแข็งด้านการคมนาคมที่เดินทางสะดวก ใกล้เมืองหัวหิน มองเห็นวิวทะเล ภูเขา และสนามกอล์ฟ

ทั้งนี้โครงการ “ศุภาลัย บลูเวล หัวหิน” เป็นคอนโดมิเนียม High Riseสูง 28 ชั้น จำนวน 525 ยูนิต ร้านค้า 3 ยูนิต มีรูปแบบห้องที่หลากหลาย Studio -3 Bedrooms โดยมีขนาดห้องตั้งแต่ 29.5 - 128 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเฉลี่ย 61,000 บาท/ตร.ม. หรือราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท ห้องตกแต่งครบแบบ Fully Furnished พร้อมเปิดจองรอบ Online Booking วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 และจะจัด Pre-Sales วันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2565

โดยโครงการมีการออกแบบพื้นที่ห้องพักที่เข้าใจทุกฟังก์ชั่นของการใช้สอยและพักผ่อน เน้นการออกแบบที่รองรับวิวรอบด้านด้วยระเบียงโค้งเฉียง เพื่อรับลม รับวิวทะเล และวิวภูเขา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ทั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัยแบบส่วนตัวในทุกห้องด้วยประตู Digital Door Lock และเข้า-ออกอาคารด้วยระบบ Face Scan และอุ่นใจ 100% กับระบบรักษาความปลอดภัย พร้อมกล้อง CCTV 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังจัดเต็มด้วย Lighthouse Park หรือสวนน้ำที่ตอบโจทย์ Adventure Kids พร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ หาดเทียม จากุชชี่ น้ำตก เป็นต้น สามารถรองรับทุกกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว และมี Island Fitness ที่เป็นเกาะส่วนตัวออกกำลังกายกลางสระว่ายน้ำ และชั้นบนสุดของโครงการ (ชั้น 28) Sky Facility ที่มีทั้งโซน Paradise Living, Paradise Working & Meeting และ Roof Garden ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติได้แบบ Panoramic View

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ“ศุภาลัย บลูเวล หัวหิน” จะสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้ซื้อ ทั้งการซื้ออยู่อาศัย หรือซื้อเพื่อการลงทุน เพราะใช้รูปแบบการบริหารจัดการ และการันตีผลตอบแทนการลงทุน 6% ใน 3 ปีแรก และมีสิทธิเข้าพักได้ปีละ 15 วัน คาดว่าจะสามารถรองรับความต้องการของคนในพื้นที่, คนกรุงเทพฯ,นักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าในรูปแบบของโรงแรม,คนทำงานแบบ Work from Anywhere รวมถึงกลุ่มที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 และบ้านเพื่อรองรับหลังเกษียณ ทั้งคนไทย
และต่างชาติ เนื่องจากหัวหินเป็นท็อปไฟว์เมืองยอดนิยมและมีดีมานด์ความต้องการในกลุ่มนี้สูง ดังนั้นในปี 2566 บริษัทจึงเตรียมเปิดโครงการใหม่ เป็นโครงการแนวราบ“ศุภาลัย ลากูน”