11 ม.ค.61 นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดการจราจรทางอากาศในช่วงเวลาการจัดแสดงการบิน ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ว่า ทาง บวท.ได้หารือและวางแผนร่วมกับกองทัพอากาศ เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพอากาศที่จัดแสดงให้เยาวชน และบริหารจัดการจราจรทางอากาศ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวของทุกเที่ยวบินในภาพรวม โดยได้เตรียมแผนรองรับร่วมกับท่าอากาศยาเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานอุบลราชธานี และท่าอากาศยานอุดรธานี รวมถึงเตรียมท่าอากาศยานอู่ตะเภา สํารองไว้เผื่อสําหรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเพื่อให้สามารถรองรับช่วงเวลาที่จะมีการแสดงการบินในวันเด็กได้

ทั้งนี้ การแสดงการบินจะมี 5 ช่วงเวลา คือ ช่วงที่ 1 เวลา 08.15 - 09.05 น. , ช่วงที่ 2 เวลา 10.00 - 10.20 น. , ช่วงที่ 3 เวลา 11.20 - 11.50 น. , ช่วงที่ 4 เวลา 12.40 - 13.30 น.และช่วงที่ 5 เวลา 14.30 - 14.50 น.โดยช่วงเวลาการแสดงจะเป็นรอบละประมาณ 20 - 30 นาที ส่งผลให้อาจมีการล่าช้าของเที่ยวบินประมาณ 4 - 12 เที่ยวต่อช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม การปิดน่านฟ้าครั้งนี้ มีสายการบินที่ได้รับผลกระทบประมาณ 50 - 60 สายการบิน ซึ่งขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารการปรับตารางบินของแต่ละสายการบินอย่างใกล้ชิด เช่น สายการบินไทยแอร์เอเชีย ยกเลิก 18 เที่ยวบิน ปรับตารางการบิน 173 เที่ยวบิน , สายการบินนกแอร์ ยกเลิก 12 เที่ยวบิน ปรับตารางการบิน 93 เที่ยวบิน และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ยกเลิก 10 เที่ยวบิน ปรับตารางการบิน 54 เที่ยวบินฯ

นอกจากนี้ ในการทดลองฝึกซ้อมปิดน่านฟ้า เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 11.35 - 12.05 น.พบว่าเที่ยวบินขาเข้าล่าช้าภาคอากาศ 10 เที่ยวบิน เฉลี่ย 8 นาที และขาออกล่าช้าภาคพื้น 4 เที่ยวบิน เฉลี่ย 4 นาที อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้โดยสารทุกคนเข้าใจ เพราะใน 1 ปีมีวันเด็กเพียง 1 วัน และเป็นวันที่เด็กๆ จะมีความสุข ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ รวมถึงอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ หลายคนที่ชื่นชอบการบินสร้างสรรค์เทคโนโลยีทางการบินของไทยในวันข้างหน้า หรือก้าวเข้ามาสู่การเป็นส่วนหนึ่งของกิจการการบินต่อไปในอนาคต

สำหรับการเติบโตของการบินตามสถิติในช่วง 5 - 6 ปีที่แล้ว เติบโตเฉลี่ยประมาณ 9 - 10% ขณะที่ปีที่แล้วเติบโตประมาณ 5% เนื่องจากสภาพการเดินทางของทั้งโลกที่เศรษฐกิจตกต่ำ โดยล่าสุดทางจีนต้องการเปิดเส้นทางใหม่ 10 สายการบิน รวมถึงการปลดธงแดงก็ช่วยให้อุตสาหกรรมการบินเติบโตขึ้น ขณะที่ในส่วนของแผนลงทุนนั้นยังเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง โดยได้ลงทุนไปแล้ว 6,000 - 7,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างทดลองระบบใหม่ร่วมกับระบบเก่าคู่ขนานก่อนจะใช้ระบบใหม่ในปีหน้า

ส่วนนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมสนามบินเมืองรอง ขณะนี้แต่ละท่าอากาศยานถือว่าพร้อมอยู่แล้วตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) มีระบบการจัดสรรบุคลากร การให้บริการที่หอบังคับการบิน การโปรโมทการเที่ยว ในเมืองรองควรมีการบูรณาการ ซึ่งการเชื่อมต่อของสนามบินแต่ต้องมีจุดเชื่อมต่อคือสิ่งสำคัญ และต้องคำนึงความคุ้มทุน ความคุ้มค่าการใช้งาน การลงทุนควรเป็นภาพใหญ่ไม่ใช่เฉพาะการบินอย่างเดียว