คงเป็นที่ทราบกันดีว่า ที่ผ่านมารัฐบาลมีการประกาศมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้กับกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกทั้งไฮบริด, ปลั๊กอิน-ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) โดยมีการสนับสนุนในเรื่องของสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการโดยเฉพาะสิทธิทางด้านภาษี
และเมื่อเร็วๆ นี้นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า ข้อเสนอภาครัฐที่ได้มีการเสนอสิทธิประโยชน์เรื่องภาษีให้กับผู้ประกอบการโดยมีแพ็กเกจแบบละเอียดออกมานั้นเรื่องนี้เราเชื่อว่ารัฐบาลคงอยากเห็นประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)
แต่ตรงนี้ก่อนที่จะไปถึงรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) นั้น เราควรต้องเริ่มขยับจากไฮบริด และปลั๊กอิน-ไฮบริด ก่อน ซึ่งตรงนี้ทางฮอนด้ามองว่า ก่อนที่จะก้าวกระโดดไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ก็ต้องดูแลเทคโนโลยีที่เป็นทางผ่านก่อนซึ่งนั่นหมายถึงไฮบริด และปลั๊กอิน-ไฮบริดนั่นเอง
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ประเด็นที่เราอยากให้จับตามอง คือ การที่เราจะขยับจากไฮบริด, ปลั๊กอิน-ไฮบริด สู่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) นั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของแบตเตอรี่ที่สามารถต่อยอดได้ แต่ที่ผ่านมาเราสงสัยว่า ทำรัฐบาลมีความใจดีจะด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบแต่รัฐบาลเปิดทางให้กับแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถต่อยอดไปเป็นอีวีได้ด้วยเพื่ออะไร
“ผมขอสรุป คือ ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน (Li-Ion) มันก็จะสามารถใช้ในไฮบริด และก็ปลั๊กอิน-ไฮบริดได้ ซึ่งตอนนี้แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน (Li-Ion) ถือว่า เป็นเทคโนโลยีดีที่สุดที่จะก้าวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวีได้ แต่ในขณะที่แบตเตอรี่อีกตัวหนึ่งนั้น คือ แบตเตอรี่นิกเกิล-เมทัล-ไฮไดรด์ (NiMH) นั้นในตัวแบตเตอรี่ตัวนี้จะไปจบที่ ไฮบริดเท่านั้นมันต่อไปอีวีไม่ได้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นปัญหาตามมานั่นเอง คือ จริงๆ แล้วภาครัฐควรสนับสนุนเทคโนโลยีที่สามารถต่อยอดไปที่รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ซึ่งก็ควรจะต้องจำกัดอยู่ที่แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน (Li-Ion) เท่านั้น”นายพิทักษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กับกระแสข่าวดังกล่าวนับจากนี้ทีมข่าว “แนวหน้ายานยนต์” จะมีการเกาะติดความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ต่อไปว่า บทสรุปจะเป็นอย่างไรและจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป
และไหนๆ ในวันนี้ทีมข่าว “แนวหน้ายานยนต์”ได้มีการนำเสนอเรื่องราวตอกย้ำข่าวเกี่ยวกับยานยนต์พลังงานทางเลือกกันในฉบับนี้แล้ว วันนี้เราจึงอยากมีการเขียนรีวิว (Review) ยนตรกรรมที่ใช้พลังงานทางเลือกอีกสัก 1 คัน ซึ่งนั่นก็คือ
“แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่”
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัว “แอคคอร์ด ไฮบริดใหม่” นั้นฮอนด้าได้มีการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ เป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมที่สมบูรณ์แบบด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในทุกมิติ ผสานกับความหรูหราสง่างามของการออกแบบทั้งภายนอก และภายใน ทางฮอนด้ามั่นใจว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้นำยุคใหม่ ที่มองหาความแตกต่างอย่างเหนือระดับ ในยนตรกรรมที่สามารถสะท้อนภาพลักษณ์และวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำนำหน้าเหนือใคร
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ด้วยการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 1.3 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในการชาร์จ และจ่ายกระแสไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะเพื่อให้เหมาะกับทุกสภาพ\การขับขี่ ได้แก่
โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ที่สามารถขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ต่อเนื่อง และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
และเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เข้าถึงอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนาน เร้าใจ ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ ได้เพิ่มโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ด้วยการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเร่งทำความเร็วให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อน โดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้เพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์ ระบบ Sport Hybrid i-MMD จึงเป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังแต่ยังให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 99 กรัม/กิโลเมตร
โดยยังมาพร้อมกับมิติใหม่ของเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย Honda SENSING ที่ผสานการทำงานเรดาร์ และกล้องด้านหน้า เพื่อตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน แล้วแจ้งเตือนผู้ขับขี่หรือช่วยควบคุมรถในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับ และผู้โดยสารในรถ รวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ประกอบด้วย 4 ระบบ ดังนี้
1) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน - Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นระบบที่ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ แต่จะทำการตรวจจับระยะห่าง และความเร็วของรถคันหน้า เพื่อปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้อย่างเหมาะสมตลอดเวลา
2) ระบบเตือนการชนด้านหน้า และตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้อง และเรดาร์พร้อมระบบช่วยเบรก - Collision Mitigation Braking System (CMBS) เมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าในระยะที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัย
ในกรณีรถสวนทาง หากรถยนต์ยังเข้าใกล้ระยะที่เสี่ยงต่อการชน ระบบจะทำการเสริมแรงเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ระบบ CMBS ยังได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นให้สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้อีกด้วย
3) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ - Lane Keeping Assist System (LKAS) โดยกล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และทำการหน่วงของพวงมาลัยเพื่อช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถได้ตลอดเวลา
4) ระบบแจ้งเตือน และช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ - Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW) เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมสั่นเตือนที่พวงมาลัย และในกรณีที่รถออกนอกช่องทางมากขึ้น ระบบจะทำการหน่วงพวงมาลัย เพื่อช่วยดึงให้รถกลับเข้าสู่ช่องทาง หากรถยังคงเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบเบรกจะทำงานเพื่อชะลอความเร็วอย่างเหมาะสม (ในกรณีเส้นแบ่งถนนเป็นเส้นทึบ) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
และยังมาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครันรอบด้าน อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย ด้วยการจับภาพ และแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 7.7 นิ้ว กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย สามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ทั้งแบบ 130 องศา 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light - ACL) ช่วยเพิ่มความสว่างด้านข้างของตัวรถ ขณะทำการเลี้ยวรถในเวลากลางคืน
เสียงเตือนภายนอกรถขณะขับขี่โหมดมอเตอร์ไฟฟ้า (Acoustic Vehicle Alerting System - AVAS) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วยถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ (Dual i-SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbag) และม่านถุงลมด้านข้าง(Side Curtain Airbags) เพื่อความปลอดภัยและช่วยลดอาการบาดเจ็บของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง
การออกแบบภายนอกยังคงความหรูหราสง่างาม และเพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) และไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า กระจังหน้าดีไซน์พิเศษตกแต่งด้วยเส้นสายสีฟ้า โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง มอบความสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบรองรับ Apple CarPlay พร้อมด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมระบบต่างๆ ทำได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และเพิ่มความหรูหราด้วยเบาะหนังสีน้ำตาลใหม่
ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือก2 รุ่น ได้แก่ รุ่น HYBRID ราคา 1,659,000 บาท และ รุ่น HYBRID TECH ราคา 1,849,000 บาท โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีเบจ สีดำ และสีใหม่ คือ สีน้ำตาล
ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ของที่สุดแห่งยนตรกรรมไฮบริดจากฮอนด้าหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th/accordhybrid
หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีภายใน แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
- สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่มเงิน 8,000 บาท และสีขาวออร์คิด (มุก) เพิ่มเงิน 12,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี