ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส แถลงข่าว“พลิกโฉม Serenade club” เพื่อดูแลลูกค้าประเภทเซเรเนด ซึ่งเป็นลูกค้าชั้นดี อาทิ มียอดใช้งานเฉลี่ย 1,500 บาทขึ้นไป มีประวัติการชำระเงินตรงตามกำหนดเวลา

นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้า และการบริการ เอไอเอส กล่าวว่า บริษัทได้ เพิ่มงบประมาณกว่า 680 ล้านบาท ในการดูแลลูกค้าประเภทเซเรเนด โดยในปี 2560 AIS มีลูกค้าเซเรเนดอยู่ 4.5 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 40% เป็น 6.3 ล้านรายภายในสิ้นปี 2561

“การขยาย Serenade Club เป็น 20 สาขา ครอบคลุมกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง และหาดใหญ่ นอกเหนือจาก Serenade Room ที่อยู่ภายใน AIS Shop ซึ่งหากรวมกันแล้ว จะมีพื้นที่ Exclusive ที่พร้อมให้บริการสำหรับลูกค้าเซเรเนดกว่า 40 สาขาทั่วประเทศ” นางบุษยา กล่าว

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในปี 2561 เอไอเอส ยังคงเดินหน้ามุ่งสร้างความเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล รวมถึงผนวกเอาธุรกิจของซีเอส ล็อกอินโฟร์เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งพร้อมรองรับการเติบโตในตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร โดยภาพรวมปี 2561 เอไอเอส พร้อมวางงบลงทุนมูลค่า 35,000–38,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพและเสริมประสิทธิภาพโครงข่ายเพื่อรองรับการใช้งาน 4G ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งขยายบริการอินเตอร์เนตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

ส่วนในปี 2560 ที่ผ่านมา พบว่า ภาพรวมผลประกอบการของทั้งปี รายได้รวมเติบโต 3.7% จากปีก่อน เป็นผลจากแนวโน้มการใช้งานดาต้าบนสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นจาก 3.6 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2559 เป็น 6.7 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2560 มีผลมาจากการรับชมวีดีโอผ่านมือถือที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีผู้ใช้งานมือถือ 4G คิดเป็นสัดส่วน 46% ของฐานลูกค้าทั้งหมด  40.1 ล้านเลขหมาย

ทั้งนี้ในปี 2560 เอไอเอสมีรายได้ก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 16% เป็น 70,498 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้และการควบคุมต้นทุน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิปรับตัวลง 1.9% อยู่ที่ 30,077 ล้านบาท จากการลงทุนโครงข่าย 4G ต่อเนื่อง และค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่