นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในช่วง 3 ปี (2561-2563) ว่า บริษัทและบริษัทในเครือมีแผนรองรับการเติบโตผ่าน 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจบริการ โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้จากกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 35-40% และกลุ่มธุรกิจบริการ 20%
สำหรับในปี 2561 นี้บริษัทและบริษัทในเครือได้กำหนดให้เป็นปี “Year of Change : ปีแห่งการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ทั้งกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ที่เน้นขยายฐานรายได้จากธุรกิจหลัก ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และการเพิ่มทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการ เปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารที่ดึงคนนอกเข้ามาเสริมทีมให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาระบบ IT เพื่อรองรับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ เพื่อรองรับแผนการเติบโต
ทั้งนี้ในปี 2561 LPN มีแผนการเปิดตัว 14 โครงการใหม่ ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม มูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 15,000 ล้านบาทและโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะเปิดโครงการบ้านแนวราบภายใต้แบรนด์ใหม่ใน 3 ทำเล เช่น ทำเลพระราม 3 บนขนาดพื้นที่ 20 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2561
โดยตั้งเป้ายอดขายรวมปี 2561 อยู่ที่20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 17,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 3,000 ล้านบาท ขณะที่เป้ารายได้จากการขายอยู่ที่ 12,000 ล้านบาท แบ่งคอนโดมิเนียม 10,500 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 5,900 ล้านบาท คิดเป็น 50% ของเป้ารายได้รวม ณ สิ้นปี 2560 ที่มียอด Backlog รวมมูลค่า 7,400 ล้านบาท
ส่วนบริษัท พรสันติ จำกัด (PST) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ LPN นั้น ในปี 2561เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 1 โครงการ มูลค่าการขายประมาณ 850 ล้านบาทและได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท
นายโอภาส กล่าวว่า ในปี 2560 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,062ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการด้านรายได้นั้นยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักผ่าน 2 บริษัท คือ LPN มียอดขาย 16,000 ล้านบาท เติบโต 90% จากปี 2559 ที่มียอดขาย 8,700ล้านบาท และมีรายได้อยู่ที่ 9,655 ล้านบาท ส่วน PST มียอดขาย 1,750ล้านบาท เติบโต 27% และ มีรายได้ 1,000 ล้านบาท เติบโต 18% ขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการ ที่ดำเนินธุรกิจผ่าน 3 บริษัท ได้แก่บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิสแอนด์ แคร์ จำกัด (LPC), บริษัท ลุมพินีพร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) และ บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) มีรายได้เติบโต 10% คิดเป็นมูลค่ารวม 970 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี